xs
xsm
sm
md
lg

การปฏิรูปเศรษฐกิจจีนเริ่มอืดอาด ปล่อยรัฐวิสาหกิจครอบงำผูกขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอู๋ จิงเหลียน ซึ่งช่วยสร้างเศรษฐกิจระบบตลาดทุนนิยมของจีน และขณะนี้เขากำลังปกป้องให้รอดจากเงื้อมมือของพวกหัวอนุรักษ์นิยมภายในพรรคคอมมิวนิสต์ - เอเจนซี่
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ปรมาจารย์ด้านเศรษฐกิจเตือน การปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนกำลังก้าวถอยหลัง กลับไปสู่การผงาดครอบงำของรัฐวิสาหกิจเหนือภาคเอกชน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจแดนมังกรในระยะยาว

ในบทความ ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อีโคโนมิก อินฟอร์เมชั่น เดลี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วของนายอู๋ จิงเหลียน นักเศรษฐศาสตร์ผู้ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดของจีน วัย 81 ปี ได้วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ที่ได้ชะลอช้าลงในช่วงไม่นานมานี้

บทความชิ้นนี้ของนายอู๋นับว่ามีความแข็งกร้าวอย่างที่สุด เมื่อเทียบกับบทความของนักวิชาการประจำสถาบันการศึกษาและวิจัยอื่น ๆในสังกัดของรัฐบาล โดยนักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐวิสาหกิจบนแดนมังกรได้ขยายอำนาจการผูกขาดอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับการปกป้องจากรัฐบาล และการสนับสนุนด้านสินเชื่อก้อนมหาศาลจากระบบการธนาคาร ซึ่งรัฐเป็นเจ้าของ

เขาเตือนว่าการผงาดขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งของภาครัฐวิสาหกิจจะส่งผลเสียต่อความเข้มแข็งและเสถียรภาพของเศรษฐกิจจีนในระยะยาว และจากผลการวิจัยมากมายของนักเศรษฐศาสตร์จีนและต่างชาติล้วนระบุว่า การบริหารงานของรัฐวิสาหกิจจีนไม่อยู่ในฐานะ ที่จะแข่งขันกับภาคบริษัทเอกชนได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของประสิทธิภาพ

นายอู๋เรียกร้องให้แยกเรื่องอุดมการณ์เก่าในอดีตออกไป และดำเนินการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งยังคง "ผูกขาดอย่างเด็ดขาด" ในอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวข้องการป้องกันประเทศ การผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า การปิโตรเลียมและปิโตรเคมี การโทรคมนาคมสื่อสาร ถ่านหิน การบินพลเรือน และการขนส่งสินค้าทางเรือ

นอกจากนั้น รัฐวิสาหกิจยังคง "ควบคุมอย่างแข็งแกร่ง" ในอีกหลายภาค เช่นภาคการผลิตเครื่องจักรกล การผลิตรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ วิศวกรรมพลเรือน และการพัฒนาโดยรวมในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นายอู๋ระบุว่า การปล่อยสินเชื่อจากระบบธนาคารของรัฐในปี2552 จำนวน 1 ล้านล้านหยวน เพื่อรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจจีน มีส่วนทำให้รัฐวิสาหกิจมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มถึง120 % ในช่วงปี 2544-2552 แต่เขาเตือนว่า ผลดีและผลเสียจากการขยายการผูกขาดของรัฐวิสาหกิจไม่ควรประเมินจากผลกำไรในระยะสั้นของรัฐวิสาหกิจเหล่านี้

นายอู๋ยังให้ข้อเสนอแนะว่า หนทางเดียวในการสร้างเสถียรภาพและความมั่งคั่งแก่เศรษฐกิจโดยรวมได้แก่การหันกลับไปสู่หลักการปฏิรูป ที่รัฐบาลปักกิ่งรับมาปฏิบัติเมื่อ 30 ปีก่อน ซึ่งจนถึงบัดนี้ยังไม่มีการดำเนินการอย่างเต็มที่ เนื่องจากถูกต่อต้านจากกลุ่มผลประโยชน์ และจากความหวาดกลัวของพวกที่ยังยึดติดกับอุดมการณ์เก่า ๆ

เขายังให้ข้อเสนอแนะอีกหลายประการ เช่น รัฐวิสาหกิจไม่ควรเข้ามาในอุตสาหกรรม ที่มีการแข่งขัน ควรรักษารัฐวิสาหกิจ ซึ่งผูกขาดกิจการที่จำเป็น ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่ราย ควรนำสินทรัพย์บางส่วนที่มีอยู่ของรัฐวิสาหกิจมาเติมในกองทุนประกันสังคมแห่งชาติ และรัฐวิสาหกิจจีนควรแบกรับผลทั้งหมด ที่เกิดจากการตัดสินใจบริหารจัดการของตน

นายอู๋เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษาด้านเศรษฐกิจแก่บรรดาผู้นำจีน มาตั้งแต่เริ่มดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจไปสู่ระบบตลาดทุนนิยม ปัจจุบันเขาเป็นนักวิจัยประจำศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลจีน และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาสูงสุดด้านการเมืองของจีน

ทั้งนี้ นอกจากผู้อาวุโสอู๋แล้ว ยังมีอีกหลายบุคคล ที่เป็นห่วงเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ ที่เฉื่อยเนือย และยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ยังได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองอย่างเป็นระบบ เพื่อจำกัดการใช้อำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่เมืองต้าเหลียนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น