เอเยนซี - สื่อจีนเผยรายงานยืนยันว่า จัง สู่กวง อดีตผู้อำนวยการวิศวกรรม การรถไฟความเร็วสูง กระทรวงการรถไฟจีน มีบัญชีเงินฝากในต่างประเทศราว 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สื่อรายงานว่า นายจัง สู่กวง อดีตผู้อำนวยการวิศวกรรม การรถไฟความเร็วสูงของจีน ซึ่งเคยตกเป็นข่าวอื้อฉาว เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับ นายหลิว จื้อจวิน ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งไป พร้อมกับโดนตั้งกรรมการสอบคดีทุจริตคอร์รัปชันเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า หมกเม็ดเงินงบประมาณจากการทำสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงหลายฉบับ เข้ากระเป๋าตัวเองโครงการละ 4% รวมมูลค่ามากกว่า 800 ล้านหยวน (122 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และยังถูกกล่าวหาว่า สมรู้ร่วมคิดกระทำการทุจริตกับ นางติง ซูเหมียว นักธุรกิจเพื่อนสนิทของตน วัย 55 ปี และเป็นเจ้าของบริษัท ซานซี จินฮั่นเต๋อ (Shanxi Jinhande Environmental Protection Equipment Co.) ซึ่งกำลังถูกสอบสวนในข้อหาติดสินบนนายหลิว เป็นเงินทั้งสิ้น 422 ล้านหยวน
คณะกรรมการกลางตรวจสอบด้านวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เร่งสอบสวนคดีการยักยอกเงินของนายหลิว ได้สอบสวนเชื่อมโยงมาถึง นายจัง ซู่กวง ผู้อำนวยการวิศวกรรม การรถไฟความเร็วสูงของจีน (ในเวลานั้น) และเจ้าหน้าที่การรถไฟ อีก 5 คน
ล่าสุด (3 ส.ค.) ซีซีทีวีรายงาน ยืนยันว่า นายจัง มีเงินฝากอยู่ในบัญชีส่วนตัวธนาคารของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐฯ หลายบัญชี รวมกันราว 2,800 ล้านดอลลาร์ และยังพบว่าเขาได้ซื้อบ้านในลอสแอนเจลิสอีก 3 หลัง สำหรับภรรยาและลูกสาวด้วย สร้างพิรุธต่อที่มาของเงินเหล่านั้น ขณะที่เงินเดือนประจำของเขานั้นมีเพียงเดือนละ 8,000 หยวน (1,220 ดอลลาร์)
รายงานข่าวกล่าวว่า การส่งภรรยาและลูกไปอยู่ประเทศสหรัฐฯ ของนายจัง ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันในอินเทอร์เน็ต ว่า เขาเตรียมที่จะหลบหนีออกจากประเทศ ซึ่งในหมู่ชาวเน็ตนั้น ให้นิยามเจ้าหน้าที่รัฐที่ย้ายครอบครัวของตนไปอยู่ต่างประเทศนั้น ว่า Naked official (裸体官员) โดยบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มนี้ ก็มักจะมีเหตุให้ชวนสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชัน ดังนั้น พรรคคอมมิวนิสต์จึงมักจะไม่ให้โอกาสก้าวหน้าทางอำนาจหน้าที่กับคนกลุ่มนี้ อย่างเช่น ในเมืองเซิ่นเจิ้นจะมีกฎว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งเลื่อนขึ้นตำแหน่งสำคัญๆ จะต้องแจ้งการเดินทางออกนอกประเทศของคู่สมรสและบุตรเสมอ
เมื่อทางการตรวจพบพิรุธในบัญชีเงินฝาก และการเดินทางออกนอกประเทศของครอบครัวนายจาง ทำให้เกิดคำถามว่าเขาใช้อำนาจหน้าที่ จนได้มาซึ่งผลประโยชน์มหาศาลขนาดนี้อย่างไร และจะส่งผลต่อคุณภาพความปลอดภัย ของโครงการรถไฟความเร็วสูงจีนหรือไม่
รายงานข่าวกล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายจัง ได้รับความคุ้มครองอยู่ใต้ร่มเงาของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟ หลิว จื้อจวิน ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งสูงสุดไปแล้ว
นายจัง ซึ่งนับว่าเป็นมือหนึ่งของกิจการรถไฟฟ้าความเร็วสูงของจีน ผู้ร่วมดูแลงานสร้างและขยายเครือข่ายเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ระยะทาง 16,000 กม.ภายในปี 2558 ด้วยงบประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์ ร่วมกับรัฐมนตรี เคยกล่าวด้วยความภูมิใจที่สามารถประหยัดงบประมาณในการจ้างบริษัทต่างชาติได้ โดยมักจะกล่าวกับนักข่าวถึงเทคนิคชั้นเชิงในการต่อรองของตนซึ่ง มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐฯ ยังเคยนำไปเป็นกรณีศึกษาในวิชาเจรจาต่อรอง
รายงานข่าวกล่าวว่า จากการปลดผู้บริหารระดับหัวขบวนของโครงการรถไฟความเร็วสูงพร้อมกันถึงสองคน ด้วยข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่นนี้ ย่อมส่งผลต่อกิจการรถไฟพอสมควร
ด้าน หยาง ห่าว ศาสตราจารย์ภาควิชาการรถไฟ มหาวิทยาลัยปักกิ่งเจียวถง กล่าวว่า การปลดผู้บริหารนี้ จะไม่ส่งผลต่อการพัฒนาการรถไฟจีน ซึ่งเป็นโครงการยักษ์ของจีนและไม่ได้ดูแลโดยกระทรวงรถไฟเพียงลำพัง