เอเยนซี - รองประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน โต้กลับสุนทรพจน์ของทะไลลามะ เนื่องในวันฉลองครบรอบ 60 ปี จีนปกครองทิเบต (19 ก.ค.) ลั่น “ไม่ว่าภัยคุกคามอันใดที่จะมาทำลายเสถียรภาพของทิเบต จีนจะบดขยี้ให้สิ้น”
สีกล่าวสุนทรพจน์หลังจากที่องค์ทะไลลามะผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตเยือนสหรัฐอเมริกา โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯ ในการนั้นทะไลลามะโต้จีนที่มาตีตราว่าพระทิเบตเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน
สีชี้ว่า “พวกเราจะต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ทะไลลามะอยู่เบื้องหลัง และจำใช้มาตรการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ พร้อมจะกำจัดสิ่งใดก็ตามที่จะทำลายเสถียรภาพของทิเบตและความเป็นเอกภาพของแผ่นดินจีน”
สี จิ้นผิง ผู้นำที่คาดกันว่าจะขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีจีนในปี 2556 แถลงต่อผู้ฟังนับพัน ณ จัตุรัสกลางนครลาซา เขตปกครองตนเองทิเบต โดยสุนทรพจน์ของเขาเผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์กลางจีนไปทั่วประเทศ
ภายใต้สัญลักษณ์พระราชวังโปตะลา อันเป็นที่พำนักของผู้นำทางจิตวิญญาณ ทะไลลามะแต่ละรุ่น สี จิ้นผิงได้ชูประเด็นนโยบายพรรคคอมมิวนิสต์ ย้ำว่าจะคงการพัฒนาอย่างรวดเร็วต่อไป ซึ่งนโยบายดังกล่าวส่งผลให้ชาวทิเบตจำนวนมากโกรธเคืองเพราะเห็นว่าวัฒนธรรมแบบพุทธทิเบตจะถูกกลืนกลาย
ในช่วงสิ้นสุดสงครามกลางเมืองใหม่ ๆ กองทัพปลดแอกประชาชนจีน นำโดยประธานเหมา เจ๋อตง เดินขบวนเข้าสู่ทิเบตในปี 2493 และผนวกรวมภูมิภาคดังกล่าวไว้ภายใต้จีน
ขณะที่ชาวทิเบตจำนวนมากขุ่นเคืองการควบคุมของจีน จึงเกิดการปะทะกันระหว่างชาวทิเบตกับตำรวจจีนในเดือนมี.ค. 2551 กลายเป็นจลาจล ณ นครลลาซา และได้ลุกลามกระจายไปทั่วภูมิภาคและในมณฑลใกล้เคียงที่มีชาวทิเบตอาศัยอยู่
ประธานาธิบดีโอบามาของสหรัฐฯ ให้การต้อนรับองค์ทะไลลามะ ณ ทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์ (16 ก.ค.) พร้อมเรียกร้องให้จีนเคารพสิทธิมนุษยชนในทิเบตและวัฒนธรรมประเพณีด้วย
จีนประท้วงพร้อมกล่าวว่า โอบามากำลังทำลายสัมพันธภาพอันดีระหว่างจีน-สหรัฐฯ
กลุ่มนักสิทธิทิเบตในต่างแดนชี้ว่า กว่าจะถึงวันครบรอบจีนปกครองทิเบต 60 ปี จีนได้ระดมสารพัดมาตรการรักษาความปลอดภัยในทิเบต เช่น การนำกองกำลังมาประจำการหลังเกิดเหตุในปี 2551 ตราบเท่าทุกวันนี้
ประชาชนในลาซาให้สัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์วันนี้ว่า การจราจรในทิเบตปิดตัวและมีกองกำลังจีนฯเต็มไปหมด
บริษัทด้านการท่องเที่ยวให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า รัฐบาลจีนได้ปิดภูมิภาคทิเบตชั่วคราวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ จากเดือนมิ.ย.จนถึงสิ้นเดือนก.ค. แม้กระทั่งจำกัดจำนวนชาวจีนที่จะเดินทางไปทิเบต เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายขึ้นในพิธีเฉลิมฉลอง
องค์ทะไลลามะใช้เวลากว่าครึ่งศตวรรษในต่างประเทศ นับแต่การลี้ภัยในปี 2502 หลังจากสัมพันธ์ทิเบต-ปักกิ่งในขณะนั้นย่ำแย่หนัก
อย่างไรก็ตาม องค์ทะไลลามะชี้ว่า “ยอมรับว่าทิเบตเป็นส่วนหนึ่งของจีนและเพียงต้องการให้จีนเคารพวัฒนธรรมทิเบต” ขณะที่จีนกล่าวว่า “ทะไลลามะกำลังเรียกร้องอิสรภาพให้ทิเบต จีนจึงปิดกั้นมิให้พระทิเบตที่มีชื่อเสียงเดินทางไปต่างประเทศ”
จีนได้จัดการเจรจากับผู้แทนของทะไลลามะ 9 รอบเพื่อพยายามปรับความเข้าใจกัน ครั้งสุดท้ายในเดือนม.ค. 2553 แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า
ชาวทิเบตจำนวนมากเชื่อว่า จีนเพียงแต่รอให้องค์ทะไลลามะผู้นำทิเบต 76 พรรษาสิ้นไปเท่านั้น และหวังว่าชาวทิเบตจะไม่สามารถพูดอะไรได้อีกหากปราศจากผู้นำ