มูลเลนชี้ จีนเป็น “มหาอำนาจ” มิใช่ชาติกำลังพัฒนา

ซีเอ็นเอ็น - เจ้าหน้าที่ทางทหารระดับสูงมะกันแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (10 ก.ค.) ว่า “มังกรจีนขณะนี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกแล้ว ดังนั้นสหรัฐคงเรียกจีนว่าชาติที่กำลังผงาดไม่ได้อีกต่อไป”

พลเรือเอกไมค์ มูลเลน ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐอเมริกา ปาฐกถาในการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ 4 วัน ณ มหาวิทยาลัยประชาชน กรุงปักกิ่ง ว่า “จีนทุกวันนี้ช่างต่างกับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และผมคิดว่าอีก 10 ปีข้างหน้าก็คงเปลี่ยนไปจากปัจจุบันอย่างก้าวกระโดด จีนไม่ใช่ชาติที่กำลังผงาดสู่อำนาจอีกต่อไป ความจริงก็คือ จีนทุกวันนี้เป็นมหาอำนาจโลกแล้ว”

ในเดือนม.ค. นางฮิลารี คลินตันรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังคงเรียกจีนว่า “ชาติที่กำลังผงาด”

มูลเลนแถลงเพิ่มเติมว่า “สหรัฐฯก็กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยเช่นกัน ด้วยบริบทโลกและระเบียบระบบระหว่างประเทศที่ทั้งสองชาติ (จีน-มะกัน) ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ผมเชื่อว่าเราต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เราต้องขยับจากทวิภาคีไปสู่การทำงานร่วมกันแบบเปิดกว้าง เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นสากล และบรรลุเป้าหมายร่วมกัน”

นอกจากนี้ มูลเลนได้ชี้บางประเด็น อาทิ ความขัดแย้งเรื่องอาณาเขตในน่านน้ำทะเลจีนใต้ อันอุดมไปด้วยแหล่งทรัพยากรทางพลังงานทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

“เป็นความคาดหวังของสหรัฐฯว่า ปัญหาจะแก้ไขจากหลายฝ่าย ด้วยความรับผิดชอบ เพราะหากแก้ไขโดยปราศจากการคำนวณผลได้ผลเสียแล้ว ก็จะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลายควบคุมได้ยาก” มูลเลนกล่าว

ทั้งจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ต่างอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่บางส่วนของน่านน้ำในทะเลจีนใต้ 1.3 ล้านตร.ไมล์ การแล่นเรือลาดตระเวนของจีนและเวียดนามได้สร้างความร้าวฉานระหว่างสองชาติคอมมิวนิสต์มากขึ้น ทำให้รูปแบบความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงไป โดยเวียดนามหันมาร่วมมือทางทหารกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอดีตศัตรูเก่า

นอกจากนั้นมูลเลนยังย้ำให้เห็นศักยภาพการเติบโตทางทหารจีนที่แข็งแกร่งขึ้น

“ยิ่งการทหารยิ่งใหญ่ทรงพลังมากเพียงใด ความรับผิดชอบ ความร่วมมือ และความโปร่งใสยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ การขยายสมรรถนะทางทหารที่ต้องการจะสถาปนาความมั่นคงและเสถียรภาพ กลับกลายเป็นตรงข้ามกับที่วาดไว้”

การเยือนในครั้งนี้ฯ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของสองฝ่ายที่จะเพิ่มความเข้าใจร่วมกัน แม้ว่ายังมีประเด็นขัดแย้งอาทิ มะกันขายอาวุธให้ไต้หวัน การพบปะกับทะไลลามะที่เดินทางเยือนวอชิงตันสัปดาห์นี้ รวมทั้งแผนการของสหรัฐฯที่จะทำการซ้อมรบในภูมิภาคที่จีนไม่เห็นด้วยฯ

จีนได้คัดค้านซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้สหรัฐฯยุติปฏิบัติการในพื้นที่ที่จีนอ้างว่าเป็นเจ้าของ รวมทั้งทะเลจีนใต้ด้วย

เวียดนามและสหรัฐฯ ขณะนี้ประกาศซ้อมรบทางทหารร่วมกัน และสหรัฐฯ ก็ทำการฝึกซ้อมร่วมกับฟิลิปปินส์ด้วย

ในปาฐกถาของมูลเลน เรียกร้องให้สร้าง “สัมพันธ์ยั่งยืนจีน-สหรัฐฯ” พร้อมชี้ สองฝ่ายต้องทำงานด้วยทัศนคติที่เคารพกันและกัน คิดทั้งเรื่องเฉพาะหน้าและเรื่องระดับโลกด้วย

นอกจากนั้น มูลเลนเรียกร้องให้สร้างความร่วมมือ และสร้างเสถียรภาพบริเวณคาบสมุทรเกาหลี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การค้าด้วย

“ทั้งจีนและสหรัฐฯต้องต้องระลึกรู้ว่า เรากำลังเผชิญความเสี่ยงทั้งการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ การก่อการร้าย ความต้องการพลังงาน นัยยะทางภูมิศาสตร์การเมือง และปัญหาภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการแลกเปลี่ยนระหว่างเรามิอาจจำกัดวงอยู่เพียงเอเชียแปซิฟิก แต่ต้องขยายให้กว้างเพื่อแชร์ผลประโยชน์ร่วมกัน”

ในช่วงที่มูลเลนเยือนจีน เขาได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนหลายคน รวมทั้งประธานเสนาธิการทหารร่วมของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน พลเอก เฉิน ปิ่งเต๋อ ผู้เดินทางไปเยือนวอชิงตันเมื่อเดือนพ.ค. นอกจากนั้นมูลเลนยังจะได้พบปะกับรองประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ตามรายงานของสำนักข่าวซินหวาด้วย