เอเอฟพี - เศรษฐกิจจีนไตรมาสที่ 2ขยายตัวช้าลง ในขณะที่รัฐบาลกำลังทำสงครามกับปัญหาเงินเฟ้ออันเป็นประเด็นอ่อนไหวที่อาจปลุกกระแสความไม่สงบในสังคมจีนได้
สำนักสถิติแห่งชาติจีนเผยวันพุธ (13 ก.ค.) ว่า ในไตรมาส 2 ของปี 2554 นี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของจีนอยู่ที่ 9.5 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี ในขณะนี้รัฐบาลกำลังควบคุมการปล่อยกู้ของธนาคารผู้ปล่อยกู้อย่างเข้มงวด เพื่อหยุดยั้งราคาที่พุ่งสูง
อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ยังคงสูงกว่าโพลวิเคราะห์ของดาวโจนส์นิวส์ไวร์ ที่คาดการณ์ว่าอยู่ที่ 9.4 เปอร์เซ็นต์ แต่ตัวเลขนี้ก็ได้ลดลงมาจาก 9.7 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปี 2554 และ 9.8 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาส 4 ของปี 2553
สถิติฯยังชี้ด้วยว่า ในครึ่งปีแรกนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัว 9.6 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า
การชะลอตัวของอัตราเติบโตเศรษฐกิจจีนเกิดขึ้นขณะที่มีกระแสวิตก ว่าเศรษฐกิจของชาติอำนาจเศรษฐกิจเอเชียรายนี้ จะเผชิญภาวะดิ่งลงอย่างรุนแรง หรือฮาร์ด แลนดิ้ง อันจะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆที่กำลังพยายามกอบกู้เศรษฐกิจของตนจากวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2552
เซิ่ง ไหลอวิ้น โฆษกสำนักสถิติจีนเผยว่า “สภาพแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในสำหรับการพัฒนาาเศรษฐกิจจีนยังคงซับซ้อน เนื่องจากมีความไม่แน่นอนหลายประการเกิดขึ้น” พร้อมเสริมว่า การรักษาระดับการโตทางเศรษฐกิจของจีนในครึ่งแรก ถือว่า อยู่ในระดับ ดี
ผลผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมหลายล้านแห่งของจีนเพิ่มขึ้น 14.3 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปีในครึ่งแรกของปีนี้ ขณะที่การลงทุนทรัพย์สินถาวรซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 25.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราการค้าปลีกเพิ่มขึ้น 16.8 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี ในครึ่งปีแรกนี้ด้วย
นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า รัฐบาลจีนกำลังกังวลว่าปัญหาเงินเฟ้ออาจนำมาซึ่งความไม่สงบในสังคมที่มีประชากรถึง 1,300 ล้านคน ดังนั้นจึงอาจจะตรึงนโยบายทางการเงินเพื่อทำให้สามารถควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
อลิสแตร์ ธอร์ตัน นักเศรษฐศาสตร์ประจำไอเอชเอส โกลบอล อินไซต์ ชี้ว่า เมื่อมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจช้าลงและเงินเฟ้อที่ยังคงสูงขึ้นจะทำจีนกำหนดนโยบายการเงินการคลังได้ยากลำบากขึ้น พร้อมเสริมว่า ในอนาคตเศรษฐกิจจีนจะค่อย ๆ ขยายตัวช้าลงเป็นเส้นโค้ง
เงินเฟ้อจีนสูงต่อเนื่อง 3 ปี อยู่ที่ 6.4 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมิ.ย. ซึ่งทางการจีนตั้งเป้าให้เงินเฟ้อปีนี้อยู่ที่เพียง 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ขณะที่ราคาสินค้าในตลาดพุ่งต่อเนื่องกว่า 14 เปอร์เซ็นต์
ธนาคารประชาชนจีนหรือแบงก์ชาติจีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งนับแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว พร้อมกับสั่งเพิ่มอัตราเงินสดสำรองไว้ในธนาคารหลายครั้ง เพื่อลดปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกัน มีความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะของรัฐบาลท้องถิ่นที่อุ้มไว้มหาศาล สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody's เตือนว่า สัดส่วนหนี้เสียจะมีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และอาจส่งผลทำให้เศรษฐกิจชะงักได้
ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มธนาคารในจีนได้ปล่อยกู้จำนวนมหาศาล อัดฉีดโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อตอบสนองนโยบายกระตุ้นให้เศรษฐกิจในช่วงวิกฤตการเงินโลกกำลังพ่นพิษอย่างแรงในปี 2552.