xs
xsm
sm
md
lg

หม่า อิงจิ่ว ประกาศเลือกนายกฯไต้หวัน เป็นคู่หูชิงเก้าอี้ผู้นำสมัยที่ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายหม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวัน(กลาง) ประสานมือกับ(ซ้าย) นายวินเซ็นต์ เซียว หรือชื่อจีน เซียว ว่านฉัง รองประธานาธิบดีไต้หวันคนปัจจุบัน และ(ขวา)นายอู๋ ตุนอี้ นายกรัฐมนตรีไต้หวันคนปัจจุบัน ณ กรุงไถเป่ย เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา (ภาพเอเอฟพี)
ไชน่า เดลี - หม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวันประกาศว่า ตนจะเลือกนายอู๋ ตุนอี้ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไต้หวัน เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของตน สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในปีหน้า(2555)

ไชน่า เดลี เผย(20 มิ.ย.)ว่า การตัดสินใจเลือกนายอู๋ ตุนอี้ เป็นคู่สมัครลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีไต้หวัน ดูเหมือนจะมีจุดประสงค์เพื่อตอกกลับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า นายหม่า อิงจิ่ว มุ่งส่งเสริมและกระชับสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ แต่การบริหารกิจการในไต้หวันกลับล้มไม่เป็นท่า อีกทั้งเป็นความพยายามในการเรียกคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในแถบตอนใต้ของไต้หวัน ซึ่งเป็นฐานเสียงของนายอู๋ ตุนอี้

นายอู๋ ตุนอี้ ซึ่งขณะนี้มีอายุ 63 ปี เคยเป็นผู้พิพากษาในอำเภอหนานโถว บ้านเกิดของตน จากนั้นได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองเกาสยง และเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติไต้หวันในเวลาต่อมา

ในปี 2552 นายอู๋ ได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีไต้หวัน หลังจากที่นายหลิว เจ้าเสวียน นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้าได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากต้องการแสดงความรับผิดชอบต่อความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่เตรียมการรับมือพายุไต้ฝุ่นมรกตที่ถล่มไต้หวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 700 คน และเกิดความเสียหายอย่างหนัก ทำให้ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วและคณะรัฐมนตรีชุดนั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

สำหรับคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายอู๋ ตุนอี้ ถือเป็นชุดที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบรับความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่สติปัญญาอันเฉียบแหลมและวาทศิลป์อันคมคายของเขา ก็เป็นที่ชื่นชอบของนายหม่า อิงจิ่ว และพรรคกั๋วหมินตั่ง(ก๊กมินตั๋ง)

หม่า อิงจิ่ว กล่าวกับนักข่าว(19 มิ.ย.)ว่า “ผมชื่นชมนายอู๋ ตุนอี้ เขามักจะแก้ปัญหาต่างๆโดยการพบปะกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและประชาชนโดยตรง และเนื่องจากเขาเคยเป็นนายกเทศมนตรีและผู้พิพากษามาก่อน เขาจึงเข้าใจความต้องการของประชาชนระดับล่างอย่างแท้จริง”

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยโกลบอล วิวส์ ระบุ คะแนนนิยมในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาของนายอู๋ ตุนอี้ เท่ากับ38.5 เปอร์เซ็นต์ มากกว่านายหม่า อิงจิ่ว ซึ่งมี 33.9 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ข้อมูลโพลสำรวจจากประชาชน 1,002 คน ระบุ คะแนนต่อต้านของนายอู๋ อยู่ที่ 48.2 เปอร์เซ็นต์

เมื่อปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายวินเซ็นต์ เซียว หรือชื่อภาษาจีนเซียว ว่านฉัง ได้ประกาศว่าตนจะไม่ลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยที่ 2 และจะเปิดทางเพื่อให้โอกาสคนอื่นได้แสดงฝีมือ

หม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวันคนปัจจุบันต้องเผชิญกับคู่แข่งตัวฉกาจจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ ดีพีพี ที่ส่งประธานพรรคฯอย่างนางไช่ อิงเหวิน ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันในการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะจัดขึ้นในเดือนม.ค.ปีหน้า(2555)

อย่างไรก็ตาม นางไช่ อิงเหวิน ซึ่งขณะนี้มีอายุ 54 ปี และเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและประธานสภากิจการจีนแผ่นดินใหญ่ ในช่วงที่ผู้นำพรรคดีพีพี เฉิน สุ่ยเปี่ยน เป็นประธานาธิบดี 8 ปี (2543-2551) ยังไม่ได้ประกาศคู่ลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของตน

ทั้งนี้ นับตั้งแต่นายหม่า อิงจิ่ว ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันในปี 2551 ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีนก็พัฒนาขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงทางการค้าหลายฉบับ ขณะที่ความตึงเครียดทางการเมืองของสองจีนก็ลดน้อยลงอย่างมาก ถือเป็นการปรับความสัมพันธ์ครั้งสำคัญของทั้งสองฝ่ายซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อกันนาน61 ปี นับจากวันที่ผู้นำเจี่ยง เจี้ยสือ (เจียง ไคเช็ก) แพ้สงครามกลางเมือง (พ.ศ. 2492) และหนีไปตั้งรัฐบาลแยกต่างหากที่เกาะไต้หวัน

อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิจารณ์กลับมองว่าแนวทางการดำเนินนโยบายต่างๆของนายหม่า ส่งผลดีต่อคนรวยมากกว่า ขณะเดียวกันบรรดาพรรคคู่แข่งต่างชี้ว่า การกระชับสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ ในที่สุดอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจไต้หวัน

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นโยบายการกระชับสัมพันธ์กับจีนของหม่า อิงจิ่ว ได้รับการสนับสนุนน้อยลง โดยผลสำรวจจากโกลบอล วิวส์เดือนพ.ค.ที่ผ่านมาระบุว่า ผู้ตอบแบบสำรวจที่มองว่านโยบายดังกล่าวล้มเหลวมี 32.3เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นจากผลสำรวจเดียวกันในปี 2552 ซึ่งเท่ากับ 24.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผู้ที่มองว่านโยบายของนายหม่าประสบความสำเร็จเท่ากับ 49.9 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจาก53.4 เปอร์เซ็นต์ของผลสำรวจเดียวกันในปี 2552
กำลังโหลดความคิดเห็น