เอเอฟพี - สมมติว่าจีนโจมตีไต้หวันขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว ฐานทัพฟ้าไต้หวันอาจจะราบเป็นหน้ากองก็เป็นได้ วันนี้ (12 เม.ย.)ไต้หวันได้ฝึกการบินขึ้น-ลง ของเครื่องบินขับไล่บนถนนมอเตอร์เวย์แทนรันเวย์ปกติ หากรันเวย์จริงถูกจีนถล่มยับ
กองทัพอากาศไต้หวันเผยว่า “การทดลองบินในครั้งนี้ใช้ทหารกว่า 1,300 นาย พร้อมจำลองสถานการณ์ว่าจีนได้ถล่มฐานทัพอากาศหลัก ๆ ของไต้หวันจนไม่สามารถใช้การได้”
การฝึกซ้อมฯ ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบจำลองหรือวอร์เกมของกองทัพไต้หวัน ภายใต้โค้ดลับ “ฮั่น กวง 27”
พันเอกหลี่ เหวินอี๋ว์ โฆษกทัพอากาศใต้หวัน เผยกับผู้สื่อข่าวว่า “ในการซ้อมรบจำลองวันนี้ เราสมมติให้ฐานทัพอากาศทั้งหมดของไต้หวันถูกขีปนาวุธจากกองทัพปลดแอกประชาชนจีนยิงโจมตีอย่างหนัก และเครื่องบินขับไล่ไม่สามารถกลับเข้าฐานปฏิบัติการได้ ดังนั้นเราจึงต้องการหาช่องทางอื่น ๆ ไว้แก้สถานการณ์ที่คับขัน โดยหาพื้นที่โล่งไว้เป็นรันเวย์ฉุกเฉิน เช่น พื้นผิวถนน เป็นต้น”
ในการฝึกฯ เครื่องบินขับไล่จำนวน 6 ลำ ได้แก่ เอฟ 16 จำนวน 2 ลำ มิราจ 2000-5เอส จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินขับไล่รุ่นไอดีเอฟที่ไต้หวันผลิตเองอีก 2 ลำ ลงจอดบนมอเตอร์เวย์ใกล้เมืองไถหนาน ซึ่งจะใช้เป็นสถานีฉุกเฉินเติมเชื้อเพลิงและติดขีปนาวุธ กระสุนต่าง ๆ ก่อนผงาดฟ้าอีกครั้ง
ไต้หวันมักจะมีการซ้อมรบจำลอง โดยสมมติว่าถูกจีนแผ่นดินใหญ่โจมตี เนื่องจากทุกวันนี้จีนยังคงอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนและพร้อมจะใช้กำลังกับไต้หวันหากจำเป็น
การซ้อมฯ เปิดฉากก่อนรุ่งสางของวันนี้ ซึ่งมีหมอกหนา แต่ท้ายที่สุดทางการไต้หวันก็อนุมัติให้มีการซ้อมรบ
เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องบินฯ จะลงจอดได้อย่างปลอดภัย ทหารจำนวนมากจึงต้องแบกภาระตรวจสอบพื้นที่ถนนว่ามีเศษหินหรือวัตถุขนาดเล็กหล่นร่วงอยู่หรือไม่
รถทหารหลายคันต้องวิ่งเรียบมอเตอร์เวย์เพื่อปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงไล่นกออกจากพื้นที่ เนื่องจากอาจจะถูกดูดเข้าไปติดใบพัดเครื่องบินฯได้
กองทัพไต้หวันมีเครื่องบินขับไล่ประกอบด้วย เอฟ 5 จำนวน 60 ลำ ไอดีเอฟ (ไต้หวันพัฒนาเอง) 126 ลำ เอฟ-16เอ 146 ลำ และมิราจอีก 56 ลำ
ไต้หวันเริ่มปฏิบัติการรบจำลองเป็นครั้งแรกในปี 2547 และครั้งที่สองในปี 2550 ซึ่งทั้งสองครั้งนั้นอยู่ในช่วงที่รัฐบาลเป็นพรรคดีพีพี ซึ่งมีความคิดเป็นปฏิปักษ์กับจีนแผ่นดินใหญ่มีอำนาจปกครองไต้หวัน
ไต้หวันแบ่งแยกการปกครองออกมาจากจีนเมื่อปี 2492 จีนและไต้หวันมีสานสัมพันธ์ที่ดีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วขึ้นเป็นผู้นำไต้หวันเมื่อปี 2551 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หม่าเผยว่า ไต้หวันไม่ได้ต้องการแข่งขันอาวุธกับจีน แต่ก็เน้นว่า ไต้หวันยังคงต้องการกองกำลังที่จิ๋วแต่แจ๋วเพื่อให้สามารรับมือกับแผ่นดินใหญ่ได้
ผู้เชี่ยวชาญของไต้หวันคาดการณ์ว่า จีนหันหัวขีปนาวุธกว่า 1,600 ลูก พุ่งเป้ามายังเกาะไต้หวันและ โดยขณะนี้ได้มีการระดมขีปนาวุธใหม่มาเพิ่มเติมอีก แม้ว่าสัมพันธ์สองฝ่ายจะดีขึ้นแล้วก็ตาม