เอเจนซี - รูปปั้นปราชญ์ขงจื่อ ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นหน้าจัตุรัสเทียนอันเหมิน บัดนี้ ถูกย้ายไปตั้งหลบเข้าไปอยู่ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ กระแสวิจารณ์ออนไลน์จีนชี้นัยทางการเมืองในการย้ายรูปปั้นขงจื่อ ปราชญ์ยิ่งใหญ่ยุคกว่า 2,500 ปี
เมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา จีนได้ทำพิธีเปิดผ้าคลุมรูปปั้นของปราชญ์ขงจื่อบริเวณหน้าประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน ซึ่งอยู่ตรงข้ามจัตุรัสเทียนอันเหมิน และอนุสาวรีย์การปฏิวัติจีนใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์ เยื้องๆกับรูปภาพท่านประธานเหมา เจ๋อตง
รูปปั้นขงจื่อที่เพิ่งถูกนำมาตั้งบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมินหมาดๆนี้ ทำจากสัมฤทธิ์ มีขนาดความสูง 7.9 เมตร บนฐานหินอ่อนขนาดความสูง 1.6 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงการกลับมายกย่องปราชญ์ผู้นี้อีกครั้ง หลังจากหลักคำสอนของขงจื่อถูกห้ามในช่วงยุคการปกครองคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา(21 เม.ย.) ชาวเน็ตจีนบางส่วนต่างลือกันตามไมโครบล็อกและห้องแชทถึงเหตุผลของการย้ายรูปปั้นขงจื่อ ที่อาจเกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง โดยรูปปั้นขงจื่อถูกย้ายไปตั้งหลบไว้ภายในบริเวณหมู่ตึกพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นจุดลับสายตา เมื่อช่วงเย็นวันพุธ(20 เม.ย.)
ชาวเน็ตจีนผู้หนึ่งเผยบนไมโครบล็อกของ Sina.com เว็บไซต์ยอดฮิตแดนมังกร ว่า “รูปปั้นขงจื่ออยู่ตรงข้ามกับรูปภาพของเหมา ถือเป็นปัญหาทางการเมืองอันร้ายแรง”
ขณะที่ ชาวเน็ตอีกคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า “รัฐบาลไม่สามารถพึ่งขงจื่อ แต่ยังจำเป็นต้องพึ่งเหมา คุณไม่สามารถควบคุมคนได้ด้วยความคิด มีเพียงปืนเท่านั้นที่ควบคุมคนได้”
ขงจื่อ ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ปลายยุคชุนชิว (770-473 ปีก่อนค.ศ.) ขงจื่อเกิดช่วง 551 ปีก่อน ค.ศ. ผู้รวบรวมบันทึกประวัติศาสตร์ จารีตพิธีกรรมโบราณ คำสั่งสอนของเขาถูกรวบรวมไว้ในคัมภีร์ "หลุนอี่ว์" อันโด่งดัง ซึ่งเสนอหลักความกลมกลืน และการเคารพลำดับอาวุโส กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มคน และได้กลายเป็นเสมือนศาสนาประจำชาติจีน จนช่วงพรรคคอมมิวนิสต์ครองอำนาจปกครองในปี 2492 เหมา เจ๋อตง ได้สั่งห้ามและยกเลิกพิธีกรรมทางศาสนาหรือลัทธิความเชื่อต่างๆ รวมทั้งคำสอนของขงจื่อ โดยประณามว่าเป็นความเชื่อแบบศักดินาขัดต่อระบอบคอมมิวนิสต์
ชาวเน็ตจีนคนหนึ่งแสดงความโกรธเกรี้ยวต่อการย้ายรูปปั้นขงจื่อ โดยกล่าวว่า “อันที่จริง หลักคำสอนของขงจื่อเรียกร้องศีลธรรมจากผู้ปกครองมากกว่า ดังนั้น การย้ายรูปปั้นของจื่อ แสดงถึงความล้มเหลวทางศีลธรรมของรัฐบาลจีน และเป็นการผลาญเงินประชาชนโดยเปล่าประโยชน์ ”
ทั้งนี้ กลุ่มผู้นำจีนคอมมิวนิสต์ได้หันมาเชิดชูชื่อ "ขงจื่อ" โดยได้สนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ อัตชีวประวัติขงจื่อ และในช่วงหลายปีมานี้ ก็มีการจัดตั้งสถาบันขงจื่อหลายแห่งทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรมและภาษาจีน
