ไชน่า เดลี่ - บรรดาครอบครัวชนชั้นกลางจีนที่มีฐานะร่ำรวยขึ้น และเลี้ยงลูกน้อยอย่างประคบประหงมจนได้เรื่อง ส่งผลให้ลูกตนเองกลายเป็น “เด็กอ้วน”
ลู่ จือเหา หรือ เสี่ยว เหา เด็กน้อย วัย 4 ขวบ กำลังวิ่งเล่นไป-มารอบๆบ้านของตน ณ หมู่บ้านริมน้ำแห่งหนึ่งในเมืองฝัวซาน มณฑลก่วงตง(กวางตุ้ง) ขณะที่ ไขมันที่พุง แขน และขา ก็กระเพื่อมตามจังหวะการวิ่ง พร้อมกล่าวขณะกำลังหม่ำลูกสาลี่ว่า "ผมอยากเป็นซูเปอร์แมน"
เสี่ยว เหา เมื่อแรกเกิดมีน้ำหนักเพียง 2.6 กิโลกรัม แต่เมื่อเริ่มโตขึ้น น้ำหนักตัวและส่วนสูงก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยขณะนี้ เด็กน้อยวัยกระเตาะตัวอ้วนปั้ก สูง 110 เซนติเมตร มีน้ำหนักถึง 62 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าเด็กเล็กวัยเดียวกันโดยเฉลี่ยถึง 5 เท่า
และด้วยแก้มที่กลมตุ่ย ทำให้ตาและปากของเด็กอ้วนคนนี้ ดูหยุ่นย่น อีกทั้งมีขาที่โค้งงองุ่มง่าม เนื้อและไขมันที่ซ้อนกันเป็นชั้น ดูละม้ายคล้ายมาสคอตบริษัทยางรถยนต์มิชลินรุ่นจิ๋ว สำหรับความอ้วนที่ล้นเกินของเสี่ยว เหา สาเหตุหนึ่งอาจมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุลกัน
ที่ผ่านมา พ่อ-แม่ของเสี่ยว เหา ได้นำลูกชายของตนไปตรวจเช็คที่โรงพยาบาลแล้วหลายแห่ง ทว่า ผลการตรวจสอบของแต่ละแห่งกลับระบุว่า ฮอร์โมนของเสี่ยวเหาอยู่ในระดับปกติ จนทำให้บรรดาแพทย์ต่างตะลึงไปตามๆกัน โดยตามความเห็นของบรรดาแพทย์ที่ตรวจ ระบุว่า สมองของ เสี่ยว เหา ไม่มีปัญหาใดๆ โรคอ้วนของเด็กคนนี้ น่าจะมีแนวโน้มจากนิสัยการกินและปัจจัยอื่นๆ
เสี่ยว เหา มักมีความอยากอาหารอยู่เป็นประจำ พ่อแม่และบรรดาเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมก็มักจะตามใจอยู่เสมอ “ง่ำ ง่ำ ง่ำ ผมชอบกินปลา” เจ้าตุ้ยนุ้ยพูดขึ้น พร้อมกับเคี้ยวอาหารในปาก ในขณะที่ มื้อเย็นนี้ เด็กน้อยไซส์เฮฟวี่เวทกินข้าวและปลานึ่งไปแล้วหลายชาม
นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดประเทศทำให้เขตเศรษฐกิจเมืองชายฝั่งจีนเจริญมั่งคั่ง และขณะนี้จีนกำลังเข้าสู่ยุคพัฒนาเขตเมืองอย่างรวดเร็ว บรรดาครอบครัวชนชั้นกลางจีนที่ผุดมั่งคั่งมากมาย เลี้ยงดูประคบประหงมตามใจลูกหลาน
“ไม่ถึง 20 ปีที่ผ่านมา ชาวจีนจำนวนมาก แม้ที่อยู่ในเมืองที่ร่ำรวยที่สุด ยังเลี้ยงชีพตนเองอย่างยากลำบาก แต่ปัจจุบัน พวกเขากลับประสบความยากลำบากในการลดน้ำหนัก” ข้อความในหนังสือชื่อ Fat China: How expanding waistlines are Changing a Nation ซึ่งเขียนโดย พอล เฟรนช์ และแมททิว แครบบ์ ระบุ
“เงื่อนไขได้แก่ การมีรายได้เพิ่มขึ้น มีอายุยืนยาวขึ้น และนโยบายลูกคนเดียว นำมาซึ่งปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า“กระเป๋า 6 ใบ” (six pocket) ในครอบครัวของเด็กที่มีฐานะค่อนข้างดี สมาชิกในครอบครัวปู่-ย่า พ่อ-แม่ หรือลุง-ป้า มักทุ่มควักเงินปรนเปรอลูกหลาน”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้เรียกปรากฎการณ์ดังกล่าวนี้ว่า “ฮ่องเต้น้อย” ซึ่งเป็นผลพวงจากนโยบายวางแผนครอบครัวของจีน ที่บังคับใช้ตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว เพื่อควบคุมจำนวนประชากรจีน
“โรคอ้วนเป็นปัญหาสำหรับกลุ่มผู้บริโภคชนชั้นกลางรุ่นใหม่ที่มีฐานะค่อนข้างดี” หนังสือของ เฟรนช์ และแครบบ์ ระบุ
เฉิน ฮ่วน แม่ของเจ้าเด็กน้อยอุ้ยอ้าย ยอมรับว่า เสี่ยว เหาจะมีอารมณ์ฉุนเฉียว หากไม่ยอมให้กินอาหาร โดยลูกชายตัวกลมจะนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่บนโซฟา หากไม่ให้กินบิสกิตหลังมื้อเย็น
“เขาเดินขึ้น-ลงบันไดยาก และจำเป็นต้องช่วยพยุงขึ้นรถโดยสารที่พาเขาไปศูนย์ดูแลเด็ก นอกจากนี้ การอาบน้ำให้เขาก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีก้อนเนื้อและไขมันม้วนทับกันเป็นวง”
ลู่ อวิ๋นเฉิง พ่อของเจ้าหนูมิชลิน เผย “แน่นอน ผมเป็นห่วงเขา ขาของเขารับน้ำหนักตนเองไม่ไหว หัวใจของเขาก็ต้องก็ทำงานหนัก เนื่องจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป”
ปัจจุบัน พ่อ-แม่ของเสี่ยว เหา ได้เริ่มยอมรับคำแนะนำของแพทย์โดยการเริ่มควบคุมอาหารแต่ละมื้อของเด็กอ้วนคนนี้ พร้อมทั้งพาไปออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ โดยหวังว่าจะสามารถควบคุมน้ำหนักได้
ทั้งนี้ หน่วยงานที่ดูแลโรคอ้วนในวัยเด็กแห่งจีน พบว่า เกือบ 1 ใน 5 ของเด็กจีนที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี มีน้ำหนักสูงเกินปกติ และมากกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ เป็นโรคอ้วน
ชมภาพ "เสี่ยว เหา" ในแต่ละอิริยาบถ(ภาพเอเยนซี)