เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ /ไชน่าเดลี - พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มรณรงค์เชิดชูคำว่า “ ซิ่งฝู” หรือ “ความสุขและสภาพความเป็นอยู่ที่ดี” ของประชาชน แต่ผลสำรวจทั่วโลกกลับพบว่า มีชาวจีนเพียงร้อยละ 6 เท่านั้น ที่มีความสุข
หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีหู จิ่นเทาเคยใช้ถ้อยคำว่า “สังคมแห่งความสามัคคีปรองดอง” และ “การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์” ซึ่งสร้างความประทับใจแก่ผู้คนมาแล้ว ล่าสุดคำว่า “ซิ่งฝู” ได้กลายเป็นคำขวัญใหม่ ก่อนหน้าการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนประจำปีจะเปิดฉากขึ้นในวันเสาร์นี้ (5 มี.ค.)
ในการถาม-ตอบระหว่างนายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่ากับประชาชนผ่านทางเว็บไซต์ของรัฐบาลและสำนักข่าวซินหวาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว นายเวินได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการทำให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้น ซึ่งเขาเคยกล่าวในการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนเมื่อปีที่แล้วว่า การสร้างความสุขแก่ประชาชนคือ “การทำให้ประชาชนมีชีวิตที่มั่นคงสะดวกสบาย โดยมีจิตใจที่สงบเป็นสุข และทำให้พวกเขามีความมั่นใจต่ออนาคต”
นายเวินได้ย้ำว่า การปรับปรุงสภาพการดำรงชีวิตของประชาชนจะเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรกในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับที่ 12 ของรัฐบาลจีน และเหตุผลที่จีนผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจก็เพื่อพัฒนามาตรฐานการดำรงชีวิตของประชาชนนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ด้านพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้คำจำกัดความคำว่า “ความสุข” อย่างไรบ้าง
หนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลี ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่า หัวใจสำคัญของการเพิ่มระดับ “ซิ่งฝู” ของประชาชนได้แก่ทำให้กระเป๋าเงินพวกเขาตุงขึ้น การจัดหาสวัสดิการด้านสังคม และการให้บริการต่าง ๆ แก่ประชาชน ที่ดีขึ้น และรับประกันว่าทุกคนจะมีที่อยู่อาศัยและมีงานทำ
การเพิ่ม “ดัชนีความสุข” ของประชาชนกลายเป็นมติเอกฉันท์ในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐของจีนเวลานี้ รวมทั้งเลขาธิการพรรคประจำสาขาคือนายหวัง หยัง แห่งมณฑลก่วงตง และนายปั๋ว ซีไหล แห่งมหานครฉงชิ่ง ซึ่งต่างกำลังสร้างผลงาน เพื่อคว้าที่นั่งในคณะกรรมการประจำของกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นคณะผู้บริหารสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ในปีหน้า โดยทั้งสองมีแนวทางคล้าย ๆ กันได้แก่การปรับปรุงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน การเพิ่มรายได้ในชนบท และเพิ่มค่าแรงในเมือง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองระบุว่า การตีความคำว่า “ซิ่งฝู” ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังขาดความสมบูรณ์อยู่มาก เพราะแทบไม่มีการเอ่ยถึงมิติสำคัญอื่นๆ ของความสุขเลย เช่น การยอมรับศักดิ์ศรีของปัจเจกชน ตลอดจนสิทธิ และเสรีภาพ
“คำว่าซิ่งฝูในความเข้าใจของผู้คนมากมายมิได้จำกัดอยู่แค่การปรับปรุงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ แต่ยังรวมถึงความยุติธรรม ความเท่าเทียม ศักดิ์ศรี” ศาสตราจารย์หลี่ กงหมิง นักวิจารณ์แห่งมณฑลก่วงตงระบุ
“ บางคนถามว่า … ถ้าพลเมืองไม่มีศักดิ์ศรีและเสรีภาพแล้ว พวกเขาจะมีความสุขได้อย่างไร” เขากล่าว
ด้านนักวิเคราะห์คนอื่น ๆ ชี้ว่า ความคิดเรื่องความเท่าเทียมกันและประชาธิปไตยมิได้ปรากฏอยู่ด้วย อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเวินก็มิได้ผลักดันอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการปฏิรูปทางการเมืองเลย
ขณะที่ผลสำรวจของแกลลัป เวิลด์ โพลล์ (Gallup World Poll) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพุธ (2 มี.ค.) พบว่า มีชาวจีนเพียงร้อยละ 6 ที่รู้สึกว่าตนเองมีความสุข แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากพลเมืองเดนมาร์ก ซึ่งร้อยละ 82 รู้สึกว่าพวกเขามีความสุข โดยเดนมาร์กเป็นชาติที่พลเมืองมีความสุขมากที่สุดในโลก ขณะที่จีนติดอันดับ 125 จากการสำรวจประชาชนใน 115 ประเทศระหว่างปี 2548-2552