เอเอฟพี - คาดนายกรัฐมนตรีจีนแจงนโยบายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีน เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่หมักหมมมานาน สกัดกระแสประชาชนลุกฮือต่อต้านเหมือนในโลกอาหรับ
การประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนประจำปี 2554 ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันเสาร์ (5 มี.ค.) เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศ ซึ่งตึงเครียดที่สุดในรอบหลายปี หลังจากประชาชนในชาติโลกอาหรับหลายชาติลุกฮือออกมาขับไล่ผู้นำของตน ส่งผลกระทบให้รัฐบาลจีนถูกกดดันมากขึ้นกว่าในช่วงหลายปี ที่ผ่านมาในการบริหารประเทศ เพื่อให้บรรลุผลตามการคาดหวัง ที่สูงขึ้นทุกทีของประชาชน
นักวิเคราะห์คาดว่า ในการแถลงเปิดการประชุม นายกรัฐมนตรี เวิน จยาเป่า จะชี้แจงนโยบายสำคัญอันดับต้น ที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
นาย เป่า ตง อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลจีน ซึ่งถูกจำคุกโทษฐานต่อต้านการปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 2532 แสดงความหวังว่า จะปรากฏนโยบายใหม่ ๆ ในการแถลงของนายเวิน แต่หากไม่มีก็แสดงว่า รัฐบาลไม่สมารถสนองตอบความต้องการของประชาชนทั่วไปได้ ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่
ทั้งนี้ นายเวินเพิ่งให้คำมั่นผ่านการสนทนาทางอินเทอร์เน็ตกับประชาชนไปเมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) ว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ที่พุ่งสูง แก้ปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ที่ขยายกว้าง และการทุจริตคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งล้วนเป็นปัญหาพื้นฐาน ที่เป็นชนวนให้ประชาชนในตูนิเซีย อียิปต์ ลิเบีย และอีกหลายชาติลุกฮือ โดยนโยบายสำคัญอันดับต้น ๆ หลายประการบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี (2554-2558) ฉบับที่ 12 ซึ่งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนอนุมัติเมื่อปีที่แล้ว
ในคำมั่นสัญญาของนายเวินยังเห็นการเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นคือนายเวินระบุว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจสำหรับปี 2554-2558 อยู่ที่ร้อยละ 7 ลดลงจากการตั้งเป้าหมายตามปกติที่ร้อยละ 8 โดยไม่มุ่งเน้นแต่การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และลืมการกระจายความมั่นคั่งอย่างเป็นธรรมในประเทศ
ขณะที่นาย วิลลี แลม นักวิเคราะห์แห่งมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (the Chinese University of Hong Kong) ชี้ว่า ประชาชนในจีนยังไม่มีความสุขในขณะที่อภิสิทธิ์ชนกำลังร่ำรวยกว่า โดยกำลังเกิดโรคอิจฉาตาร้อนในสังคมจีน
ทั้งนี้ มีเสียงเรียกร้องลึกลับทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งกล่าวย้ำปัญหาเร่งด่วน ที่ต้องแก้ไขเหล่านี้ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวจีนใน 13 เมืองออกมาชุมนุมเรียกร้องในวันอาทิตย์ทุกสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เสียงเรียกร้องเหล่านี้ได้ดับมอดไปแล้วเสียส่วนใหญ่ภายใต้การควบคุมเข้มงวดของทางการ ขณะที่นักวิจัยของกลุ่มฮิวแมน ไรต์ส ว็อตช์ ระบุว่า ยังมีเครื่องบ่งชี้เพียงเล็กน้อยว่า ชาวจีนกระหายการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ กระแสคนรุ่นใหม่ ที่แสดงความคิดเห็นผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในจีนเวลานี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีการส่งสัญญาณใหม่ ๆเกี่ยวกับการปฏิรูปการเมืองในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนครั้งนี้
ข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีน
ประธานสภา : นายอู๋ ปังกั๋ว โดยประธานสภาเป็นตำแหน่งสูงสุดอันดับ 2 รองจากประธานาธิบดี หู จิ่นเทาตามระบบการเมืองของจีน ซึ่งก็เป็นตำแหน่งแต่เพียงพิธีการ
สถานที่ประชุม : มหาศาลาประชาชน
ระยะเวลา : ตามปกติจัดการประชุมนาน 9 วัน
สมาชิกสภา : ประกอบด้วยผู้แทนราว 3,000 คน ซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนจากกลุ่มต่าง ๆ เช่นจากสภาท้องถิ่น และหน่วยงานของรัฐประจำมณฑล ทหาร คนงาน ชาวนา ชนกลุ่มน้อย และผู้แทนประชาชนจากแต่ละภูมิภาค รวมทั้งจากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เขตปกครองพิเศษมาเก๊า และจากไต้หวัน
อำนาจทางนิติบัญญัติ : มักถูกกล่าวถึงว่าเป็นเพียงสภาตรายาง สำหรับผู้ปกครองพรรคคอมมิวนิสต์ และร่างกฎหมายมักผ่านการลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
คณะกรรมการบริหารประจำสภาผู้แทนประชาชนประกอบด้วยผู้แทนราว 160 คน มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการแก้ไขกฎหมาย โดยมีการประชุมกันราวทุก 2 เดือน
ภารกิจหลักสำหรับการประชุมปีนี้ : ลงมติรับรองแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระยะ 5 ปี (2554-2558) ฉบับที่ 12 ซึ่งให้ความสำคัญกับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีการกระจายความมั่งคั่งอย่างยุติธรรมมากขึ้นในสังคม มีการลดการพึ่งพาการส่งออก และมีการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ