xs
xsm
sm
md
lg

บีบีซี เผยอดีตพยาบาลฯ ยืนยันหน่วยจับคนมาทำเชื้อโรคของญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางโตโย อิชิอิ เมื่อครั้งที่ออกมาเป็นพยานให้ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการณ์ของหน่วย 731 หรือหน่วยจับคนมาทดลองเชื้อโรคของญี่ปุ่น (ภาพเอเยนซี)
บีบีซี - บีบีซีรายงานบทสัมภาษณ์ อดีตนางพยาบาลญี่ปุ่น วัย 88 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ทารุณกรรมชาวจีนของกองทัพญี่ปุ่นเมื่อ 60 ปีก่อน ซึ่งเผยว่าตนและพยาบาลคนอื่นๆ ถูกกองทัพญี่ปุ่นสั่งให้ฝังศพชาวจีน นับร้อยๆ ศพในค่ายทดลองที่โตเกียว หลังญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่บริเวณดังกล่าว ทางการญี่ปุ่นยอมให้ขุดเพื่อค้นหาความจริงอีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (21 ก.พ.)

ค่ายทดลองชีวภาพซึ่ง นางโตโย อิชิอิ ทำงานนี้ อยู่ที่โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของกรุงโตเกียว และมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการหน่วย 731 ของกองทัพจักรพรรดิ์ ซึ่งมีภารกิจในการทดลองเพาะเชื้อโรคกับนักโทษฯ ชาวจีน

นางอิชิอิ กล่าวว่า ตนเองและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ได้รับคำสั่งจากกองทัพญี่ปุ่นให้ฝังศพนักโทษชาวจีน นับร้อยๆ ศพ เพื่อปิดบังนานาชาติฯ หลังญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง

ปัจจุบัน นางอิชิอิ มีอายุได้ 88 ปีแล้ว เป็นพยานคนล่าสุด ที่ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการณ์ดังกล่าว โดยเล่าว่า เวลานั้นเธอเป็นพยาบาลอยู่ที่แผนกผ่าตัดฯ ในโรงพยาบาล ที่ทหาร ญี่ปุ่น ได้เข้ามาใช้เป็นฐานทดลองเพาะเชื้อ ซึ่งเธอรับรู้เพียงว่า เป็นโครงการการวิจัยและทดลอง เกี่ยวกับเชื้อโรคในมนุษย์ โดยจะเป็นสำนักงานใหญ่ของการวิจัยของหน่วยงาน 731

อิชิอิ เล่าว่า ทางกองทัพเร่งให้มีการฝังศพมนุษย์จำนวนมาก ที่เสียชีวิตจากการทดลองครั้งนั้น เพื่อปิดบังก่อนที่กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งได้ชัยชนะเหนือญี่ปุ่นจะเดินทางมาถึงโตเกียว

คำสัมภาษณ์นี้ อยู่ในบันทึกที่อิชิอิเคยเปิดเผยเมื่อเดือน มิถุนายน 2549 ที่ระบุว่า "ตัวอย่างเพาะเชื้อ กับหลอดวิจัยต่างๆ โดนเก็บเอาไปทำลายจนหมด และมีคนบอกว่า เรา(โรงพยาบาล) จะยุ่งยากแน่ๆ หากพวกทหารสหรัฐฯ และนานาชาติ เห็นบรรดาหลอดทดลองตัวอย่างฯ แปลกๆ เหล่านั้น"

เรื่องราวเกี่ยวกับหน่วยงานทดลองเพาะเชื้อโรค โดยใช้มนุษย์เป็นหนูทดลองนี้ นับเป็นเหตุการณ์หฤโหดที่เกิดขึ้นกับชาวจีน ในช่วงปี ค.ศ. 1936-1945 (พ.ศ. 2479 - 2488) โดย หน่วย 731 ของทหารญี่ปุ่น จับชาวบ้านในหมู่บ้านต่างๆ ที่มณฑลเฮยหลงเจียง มาทดลองสารพัดฯ จนเสียชีวิตไปมากกว่า 3,000 คน ซึ่งหลังจากที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามจนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีรัฐบาลใดของญี่ปุ่นออกมายอมรับ และชดใช้ โดยมักอ้างว่าไม่อยู่ในการสั่งการของกองทัพจักรพรรดิ์ และกองทัพฯ ยืนยันว่าไม่เคยพบหลักฐานรายงานการทดลองมนุษย์อย่างเป็นทางการ

การเปิดเผยปฏิบัติการดังกล่าวตลอดเวลาที่ผ่านมา จึงมักจะต้องปะติดปะต่อทีละส่วน ทีละประโยคจากประจักษ์พยานและอดีตนายทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ ผู้ปฏิบัติงานอยู่ในฐานฯ ที่มณฑลเฮยหลงเจียง ส่วนหนึ่งของแมนจูเรีย ซึ่งในเวลานั้นถูกญี่ปุ่นยึดครองอยู่

คำบอกเล่าจากพยานเหล่านั้น มีตั้งแต่นักโทษชาวจีนหลายพันคนถูกนำมาทดลองอย่างโหดร้าย บางคนถูกฉีดเชื้อโรคเข้าร่างกายและชำแหละทั้งเป็น บางคนถูกนำไปแช่จนอวัยวะแข็ง เนื้อตาย เพื่อทดสอบภาวะกล้ามเนื้อ

การเปิดเผยของอิชิอิ ในปี 2549 ครั้งนั้น นับเป็นข้อมูลใหม่สำหรับกรณีการขุดค้นพบโครงกระดูกแตกหักจำนวนมากในบริเวณโรงเรียนแพทย์ ที่กรุงโตเกียว เมื่อปี 2532 และเธอเป็นข่าวขึ้นมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (21 ก.พ.) เมื่อทางการญี่ปุ่นเริ่มการขุดค้นบริเวณนั้นอีกครั้ง หลังจากมีคำอนุมัติให้ขุดค้นเมื่อ 5 ปีก่อน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ขุด
คาสุฮิโกะ คาวาอุชิ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น (ขวา) กำลังคุมการขุดบริเวณพื้นที่ซึ่งเคยเป็นโรงเรียนแพทย์ในกรุงโตเกียว ที่ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัตการของหน่วย 731 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง (ภาพเอเยนซี)
โคอิชิ นากาโน่ ศาสตราจารย์ภาครัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโซเฟีย ในกรุงโตเกียว กล่าวว่า หลังจากเปลี่ยนรัฐบาลหัวอนุรักษ์นิยมออกไป ในปี 2552 ดูเหมือนว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้ มีใจเปิดกว้างรัฐบาลชุดก่อนอยู่มาก

อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น กล่าวว่า การพิสูจน์ครั้งนี้อาจจะไม่พบอะไร แต่หากพบโครงกระดูกเพิ่มเติม ก็อาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วย 731 แต่อาจจะเป็นศพที่นักเรียนแพทย์ใช้ศึกษา และรัฐบาลญี่ปุ่นปฏิเสธ ที่จะพิสูจน์ดีเอ็นเออัฐิที่ขุดพบ ตามคำร้องขอจากญาติชาวจีนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นเหยื่อการทดลองครั้งนั้น

ยาสุชิ โตริอิ หัวหน้ากลุ่มพลเรือนฯ ที่เฝ้าติดตามกรณีนี้มานานหลายสิบปี กล่าวว่า หากพบหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ว่ามีการทดลองการแพทย์กับมนุษย์ รัฐบาลคงต้องยอมรับอาชญากรรม

เขาเสริมว่า การยอมขุดพื้นที่นี้อีกครั้ง ก็ถือเป็นการเริ่มต้นค้นหาความจริง แม้ว่าเรายังต้องมีหลักฐานอื่นๆ อีกมากกว่านี้ เพื่อจะพิสูจน์ถึงบทบาทของหน่วย 731 นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น