ในปีที่ผ่านมา(2553) อานิสงส์จากการที่รัฐบาลจีนได้ประกาศใช้มาตรการอุดหนุนโดยตัดลดภาษีการซื้อขายรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร และต่ำกว่า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมรถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดพลังงาน ส่งผลให้ตลาดรถยนต์จีนค่อนข้างคึกคัก ยอดขายรถยนต์ของแต่ละค่ายต่างได้รับผลบุญไปตามๆกัน โดยยอดขายฯในปีที่แล้วของจีเอ็ม ฟอร์ด และโฟล์คสวาเกน ล้วนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่ มีเพียงบางค่ายที่อาจทำยอดขายได้ไม่ถึงเป้า อาทิ ค่ายฉีรุ่ย(Chery)
ข้อมูลล่าสุดจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนระบุ จีนยังรักษาแชมป์ตลาดรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกต่อเป็นปีที่สอง ด้วยยอดขายรถยนต์ในจีนปี 2553 พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ 32.37 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 18.06 ล้านคัน ขณะที่ ยอดขายรถยนต์ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้วเพียงเดือนเดียว พุ่งสูงกว่ายอดขายรถยนต์ปี 2552 ถึง 17.9 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 1.67 ล้านคัน เนื่องจากเป็นเดือนสุดท้ายที่มาตรการกระตุ้นการซื้อขายรถยนต์ฯของรัฐบาลยังมีผลบังคับใช้อยู่ ขณะเดียวกันบรรดาผู้ซื้อต่างรีบฉวยโอกาสก่อนที่มาตรการใหม่ซึ่งจำกัดโควตาการซื้อรถยนต์ในกรุงปักกิ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้(2554)
สำหรับทิศทางของตลาดรถยนต์จีนในปีนี้(2554) สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนคาดการณ์ว่า ยอดขายและปริมาณการผลิตรถยนต์ อาจขยายตัวอย่างคงที่มากขึ้นในระดับ 10-15 เปอร์เซ็นต์ หลังจากรัฐบาลจีนได้ประกาศยกเลิกมาตรการอุดหนุนฯและปรับขึ้นภาษีการซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก 10 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งประกาศใช้นโยบายลดจำนวนการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในกรุงปักกิ่ง เพื่อแก้ปัญหาการจราจรบนท้องถนนติดขัด
อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิเคราะห์ ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลจีน จะส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กเท่ากับ 1.6 ลิตร และต่ำกว่า แต่อาจส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายรถยนต์โดยรวมไม่มากนัก เนื่องจากเป็นที่คาดการณ์ว่า ความต้องการรถยนต์ของผู้คนในเมืองอื่นๆยังคงมีสูง
โฉมหน้า10 อันดับผู้ผลิตรถยนต์จีนชั้นนำปี2553 ในแง่ยอดจำหน่ายรถยนต์ มีดังนี้
อันดับ 1 เซี่ยงไฮ้ จีเอ็ม(Shanghai GM)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : 1.038 ล้านคัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่เปิดเผย
ในปีที่ผ่านมา(2553) เซี่ยงไฮ้ จีเอ็ม บริษัทร่วมทุนระหว่าง เจเนอรัล มอเตอร์(GM) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติมะกัน และเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์เปอเรชั่น(SAIC) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของจีน มียอดขายโดยรวมคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 เท่ากับ 42.8 เปอร์เซ็นต์ โดยขายรถยนต์บูอิค(Buick) ได้ 550,014 คัน เพิ่มขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ ขายเชฟโรดเลต(Chevrolet) ได้ 471,575 คัน เพิ่มขึ้น 73 เปอร์เซ็นต์ และขายรถยนต์คาดิแลค(Cadillac) ได้ 17,366 คัน เพิ่มขึ้น 139 เปอร์เซ็นต์
อันดับ 2 เซี่ยงไฮ้โฟล์คสวาเกน(Shanghai Volkswagen)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : มากกว่า 1 ล้านคัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่เปิดเผย
เซี่ยงไฮ้โฟล์คสวาเกน บริษัทร่วมทุนระหว่าง โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป(VW Group) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนี และ เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์เปอเรชั่น(SAIC) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของจีน มียอดขายรถยนต์โฟล์คสวาเกน(Volkswagen) มากกว่า 800,000 คัน และสามารถขายรถยนต์สโกดา(Skoda) ได้ 200,089 คัน
อันดับ 3 เอฟเอดับเบิลยู โฟล์คสวาเกน(FAW- Volkswagen)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 860,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่เปิดเผย
บริษัทร่วมทุนระหว่าง เฟิร์ส ออโต้โมบิล เวิร์ค(FAW) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตรถยนต์จีน และโฟล์คสวาเกน กรุ๊ป(VW Group) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนี มียอดขายรถยนต์ปี2553 เพิ่มขึ้นจากปี2552 เท่ากับ 22 เปอร์เซ็นต์ โดยขายรถยนต์โฟล์คฯและออดี้(Audi) ได้มากกว่า 610,000 คัน และมียอดขายรถยนต์ของบริษัทลูกอีกราว 198,000 คัน นอกจากนี้ยังสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในจีนได้มากสุดในรอบ 4 ปี เท่ากับ 5.6 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน
อันดับ 4 เป่ยจิง ฮุนได(Beijing Hyundai)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 703,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 720, 000 คัน
เป่ยจิง ฮุนได เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตรถยนต์จีน เป่ยจิง ออโตโมทีฟ อินดัสทรี โฮลดิ้ง โค(BAIC) และบริษัทฮุนได มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ เนื่องด้วยศักยภาพในการผลิต ทำให้บริษัทฯตั้งยอดขายเป้าหมายในปี 2554 เพียง 720, 000 คัน โดยจะงดการผลิตรถยนต์โซนาต้าเอ็นเอฟซี(Sonata NFC) เพื่อเปิดทางให้กับการผลิตรถยนต์โซนาตารุ่นที่ 8
อันดับ 5 ตงเฟิง นิสสัน(Dongfeng Nissan)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 670,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 772, 000 คัน
ตงเฟิง นิสสัน บริษัทร่วมทุนระหว่าง ตงเฟิง มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น ผู้ผลิตรถยนต์จีน และนิสสัน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น มียอดจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้นจากปี 2552 เท่ากับ 30 เปอร์เซ็นต์ ทะลุเป้าปี2553 ที่ตั้งไว้ 600,000 คัน โดยปีนี้(2554) บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าสานต่อความสำเร็จด้วยการตั้งเป้าไว้ที่ 772, 000 คัน
อันดับ 6 ฉีรุ่ย(Chery)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 610,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 900, 000 คัน
แม้ว่ายอดขายรถยนต์ในปีที่ผ่านมา(2553) จะพลาดเป้าที่ตั้งไว้ที่ 700,000 คัน แต่ยอดขายปีที่แล้วก็ยังมากกว่าในปี 2552 นอกจากนี้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนยังมั่นใจว่า ในปีนี้(2554) จะสามารถบรรลุเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้ 900, 000 คัน
อันดับ 7 บีวายดี(BYD)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 520, 000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 600,000 คัน
สำหรับบีวายดี บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ซึ่งวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีพันล้านมะกันเป็นหุ้นส่วน มียอดจำหน่ายรถยนต์ปีที่ผ่านมา(2553) เพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงไม่บรรลุเป้าหมายที่ 600,000 คัน โดยในปีนี้(2554) ขอแก้มือทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายเดิม
อันดับ 8 เอฟเอดับเบิลยูโตโยตา(FAW Toyota)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 500,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 550,000 คัน
หลังจากในปี2553 FAW Toyota บริษัทร่วมทุนระหว่างผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น โตโยตา มอเตอร์(TMC) และเฟิร์ส ออโต้โมบิล เวิร์ค(FAW) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตรถยนต์จีน สามารถบรรลุยอดขายรถยนต์เป้าหมาย ที่ 500,000 คัน ทางบริษัทฯจึงขอตัดช่องน้อยแต่พอตัว ปรับเพิ่มยอดขายเป้าหมายในปีนี้(2554) อีก 10 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว เป็น 550,000 คัน
อันดับ 9 จี๋ลี่(Geely)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 415,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่ระบุ
ยอดขายรถยนต์ปีที่ผ่านมา ของ จี๋ลี่ บริษัทผลิตรถยนต์เอกชนรายใหญ่จีน เท่ากับ 415,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี2552 เท่ากับ 27 เปอร์เซ็นต์ บรรลุเป้าที่ตั้งไว้ในปี2553 ที่ 400,000 คัน พร้อมประกาศกร้าวว่าจะขายรถยนต์ให้ได้ถึง 2 ล้านคัน ภายในปี 2558 อีกทั้งเผยว่า ขณะนี้ ได้หารือกับ บริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวัน เพื่อพัฒนารถยนต์ประหยัดพลังงาน เตรียมเสริมเขี้ยวเล็บรุกตลาดรถยนต์จีน
อันดับ 10 ฉังอานฟอร์ด(Chang'an Ford)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 400,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่ระบุ
ฉังอานฟอร์ด บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ร่วมทุนระหว่าง ฟอร์ด ยักษ์ใหญ่ผลิตรถยนต์มะกัน และฉังอาน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน มียอดขายเดือนม.ค.-พ.ย.ในปีที่ผ่านมา(2553) เท่ากับ 365, 000 คัน และเดือนธ.ค.เพียงเดือนเดียวมียอดขาย 40,000 คัน รวมกันทะลุยอดขายเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 400,000 คัน เพิ่มขึ้นประมาณ 34 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า
ข้อมูลล่าสุดจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนระบุ จีนยังรักษาแชมป์ตลาดรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกต่อเป็นปีที่สอง ด้วยยอดขายรถยนต์ในจีนปี 2553 พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ 32.37 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 18.06 ล้านคัน ขณะที่ ยอดขายรถยนต์ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้วเพียงเดือนเดียว พุ่งสูงกว่ายอดขายรถยนต์ปี 2552 ถึง 17.9 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 1.67 ล้านคัน เนื่องจากเป็นเดือนสุดท้ายที่มาตรการกระตุ้นการซื้อขายรถยนต์ฯของรัฐบาลยังมีผลบังคับใช้อยู่ ขณะเดียวกันบรรดาผู้ซื้อต่างรีบฉวยโอกาสก่อนที่มาตรการใหม่ซึ่งจำกัดโควตาการซื้อรถยนต์ในกรุงปักกิ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้(2554)
สำหรับทิศทางของตลาดรถยนต์จีนในปีนี้(2554) สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนคาดการณ์ว่า ยอดขายและปริมาณการผลิตรถยนต์ อาจขยายตัวอย่างคงที่มากขึ้นในระดับ 10-15 เปอร์เซ็นต์ หลังจากรัฐบาลจีนได้ประกาศยกเลิกมาตรการอุดหนุนฯและปรับขึ้นภาษีการซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก 10 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งประกาศใช้นโยบายลดจำนวนการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในกรุงปักกิ่ง เพื่อแก้ปัญหาการจราจรบนท้องถนนติดขัด
อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิเคราะห์ ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลจีน จะส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กเท่ากับ 1.6 ลิตร และต่ำกว่า แต่อาจส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายรถยนต์โดยรวมไม่มากนัก เนื่องจากเป็นที่คาดการณ์ว่า ความต้องการรถยนต์ของผู้คนในเมืองอื่นๆยังคงมีสูง
โฉมหน้า10 อันดับผู้ผลิตรถยนต์จีนชั้นนำปี2553 ในแง่ยอดจำหน่ายรถยนต์ มีดังนี้
อันดับ 1 เซี่ยงไฮ้ จีเอ็ม(Shanghai GM)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : 1.038 ล้านคัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่เปิดเผย
ในปีที่ผ่านมา(2553) เซี่ยงไฮ้ จีเอ็ม บริษัทร่วมทุนระหว่าง เจเนอรัล มอเตอร์(GM) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติมะกัน และเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์เปอเรชั่น(SAIC) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของจีน มียอดขายโดยรวมคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 เท่ากับ 42.8 เปอร์เซ็นต์ โดยขายรถยนต์บูอิค(Buick) ได้ 550,014 คัน เพิ่มขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ ขายเชฟโรดเลต(Chevrolet) ได้ 471,575 คัน เพิ่มขึ้น 73 เปอร์เซ็นต์ และขายรถยนต์คาดิแลค(Cadillac) ได้ 17,366 คัน เพิ่มขึ้น 139 เปอร์เซ็นต์
อันดับ 2 เซี่ยงไฮ้โฟล์คสวาเกน(Shanghai Volkswagen)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : มากกว่า 1 ล้านคัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่เปิดเผย
เซี่ยงไฮ้โฟล์คสวาเกน บริษัทร่วมทุนระหว่าง โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป(VW Group) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนี และ เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์เปอเรชั่น(SAIC) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของจีน มียอดขายรถยนต์โฟล์คสวาเกน(Volkswagen) มากกว่า 800,000 คัน และสามารถขายรถยนต์สโกดา(Skoda) ได้ 200,089 คัน
อันดับ 3 เอฟเอดับเบิลยู โฟล์คสวาเกน(FAW- Volkswagen)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 860,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่เปิดเผย
บริษัทร่วมทุนระหว่าง เฟิร์ส ออโต้โมบิล เวิร์ค(FAW) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตรถยนต์จีน และโฟล์คสวาเกน กรุ๊ป(VW Group) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนี มียอดขายรถยนต์ปี2553 เพิ่มขึ้นจากปี2552 เท่ากับ 22 เปอร์เซ็นต์ โดยขายรถยนต์โฟล์คฯและออดี้(Audi) ได้มากกว่า 610,000 คัน และมียอดขายรถยนต์ของบริษัทลูกอีกราว 198,000 คัน นอกจากนี้ยังสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในจีนได้มากสุดในรอบ 4 ปี เท่ากับ 5.6 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน
อันดับ 4 เป่ยจิง ฮุนได(Beijing Hyundai)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 703,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 720, 000 คัน
เป่ยจิง ฮุนได เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตรถยนต์จีน เป่ยจิง ออโตโมทีฟ อินดัสทรี โฮลดิ้ง โค(BAIC) และบริษัทฮุนได มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ เนื่องด้วยศักยภาพในการผลิต ทำให้บริษัทฯตั้งยอดขายเป้าหมายในปี 2554 เพียง 720, 000 คัน โดยจะงดการผลิตรถยนต์โซนาต้าเอ็นเอฟซี(Sonata NFC) เพื่อเปิดทางให้กับการผลิตรถยนต์โซนาตารุ่นที่ 8
อันดับ 5 ตงเฟิง นิสสัน(Dongfeng Nissan)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 670,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 772, 000 คัน
ตงเฟิง นิสสัน บริษัทร่วมทุนระหว่าง ตงเฟิง มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น ผู้ผลิตรถยนต์จีน และนิสสัน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น มียอดจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้นจากปี 2552 เท่ากับ 30 เปอร์เซ็นต์ ทะลุเป้าปี2553 ที่ตั้งไว้ 600,000 คัน โดยปีนี้(2554) บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าสานต่อความสำเร็จด้วยการตั้งเป้าไว้ที่ 772, 000 คัน
อันดับ 6 ฉีรุ่ย(Chery)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 610,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 900, 000 คัน
แม้ว่ายอดขายรถยนต์ในปีที่ผ่านมา(2553) จะพลาดเป้าที่ตั้งไว้ที่ 700,000 คัน แต่ยอดขายปีที่แล้วก็ยังมากกว่าในปี 2552 นอกจากนี้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนยังมั่นใจว่า ในปีนี้(2554) จะสามารถบรรลุเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้ 900, 000 คัน
อันดับ 7 บีวายดี(BYD)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 520, 000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 600,000 คัน
สำหรับบีวายดี บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ซึ่งวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีพันล้านมะกันเป็นหุ้นส่วน มียอดจำหน่ายรถยนต์ปีที่ผ่านมา(2553) เพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงไม่บรรลุเป้าหมายที่ 600,000 คัน โดยในปีนี้(2554) ขอแก้มือทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายเดิม
อันดับ 8 เอฟเอดับเบิลยูโตโยตา(FAW Toyota)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 500,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : 550,000 คัน
หลังจากในปี2553 FAW Toyota บริษัทร่วมทุนระหว่างผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น โตโยตา มอเตอร์(TMC) และเฟิร์ส ออโต้โมบิล เวิร์ค(FAW) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตรถยนต์จีน สามารถบรรลุยอดขายรถยนต์เป้าหมาย ที่ 500,000 คัน ทางบริษัทฯจึงขอตัดช่องน้อยแต่พอตัว ปรับเพิ่มยอดขายเป้าหมายในปีนี้(2554) อีก 10 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว เป็น 550,000 คัน
อันดับ 9 จี๋ลี่(Geely)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 415,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่ระบุ
ยอดขายรถยนต์ปีที่ผ่านมา ของ จี๋ลี่ บริษัทผลิตรถยนต์เอกชนรายใหญ่จีน เท่ากับ 415,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี2552 เท่ากับ 27 เปอร์เซ็นต์ บรรลุเป้าที่ตั้งไว้ในปี2553 ที่ 400,000 คัน พร้อมประกาศกร้าวว่าจะขายรถยนต์ให้ได้ถึง 2 ล้านคัน ภายในปี 2558 อีกทั้งเผยว่า ขณะนี้ ได้หารือกับ บริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวัน เพื่อพัฒนารถยนต์ประหยัดพลังงาน เตรียมเสริมเขี้ยวเล็บรุกตลาดรถยนต์จีน
อันดับ 10 ฉังอานฟอร์ด(Chang'an Ford)
ยอดจำหน่ายในปี 2553 : ประมาณ 400,000 คัน
ยอดจำหน่ายในปี 2554 : ยังไม่ระบุ
ฉังอานฟอร์ด บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ร่วมทุนระหว่าง ฟอร์ด ยักษ์ใหญ่ผลิตรถยนต์มะกัน และฉังอาน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน มียอดขายเดือนม.ค.-พ.ย.ในปีที่ผ่านมา(2553) เท่ากับ 365, 000 คัน และเดือนธ.ค.เพียงเดือนเดียวมียอดขาย 40,000 คัน รวมกันทะลุยอดขายเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 400,000 คัน เพิ่มขึ้นประมาณ 34 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า
