บลูมเบิร์ก – เศรษฐกิจเซี่ยงไฮ้โตแซงหน้าฮ่องกงแล้ว อดีตอาณานิคมอังกฤษหวั่นตำแหน่งเมืองศูนย์กลางการเงินสำคัญถูกแผ่นดินใหญ่ชิงคืน
จากการรวบรวมข้อมูลโดยบลูมเบิร์ก ระบุผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของนครเซี่ยงไฮ้โตร้อยละ 8.2 หรือมีมูลค่า 218.3 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เทียบกับจีดีพีของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ที่หดตัวลงร้อยละ 2.7 มาอยู่ที่ 210.7 พันล้านดอลลาร์
ขนาดเศรษฐกิจ ที่ขยับขึ้นมาโตกว่าเป็นครั้งแรก หลังจากฮ่องกงเคยล้ำหน้ามาตลอดจากข้อมูล ที่รวบรวมย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2524 นั้น บ่งชี้ถึงความสำเร็จในการดำเนินนโยบายตลาดเสรีของรัฐบาลปักกิ่งในช่วง 30 ปีทีผ่านมา ซึ่งผลักดันให้จีนผงาดขึ้นเป็นชาติเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก และเป็นชาติผู้ส่งออกอันดับ 1
หลายคนมองว่า เซี่ยงไฮ้ จุดกำเนิดของธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ พีแอลซี และอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงก์ จะช่วงชิงบัลลังก์เมืองหลวงทางการเงิน ที่เคยครองมาก่อน ที่คอมมิวนิสต์จะขึ้นปกครองแผ่นดินใหญ่ในปี 2492 กลับคืนมาได้แน่ ๆ
อย่างไรก็ตาม เฮเลน ชาน นักเศรษฐศาสตร์ของคณะผู้บริหารฮ่องกงมองว่า เซี่ยงไฮ้มีประชากรราว 19 ล้านคน ซึ่งมากกว่าฮ่องกงเกือบ 3 เท่า อีกทั้งเศรษฐกิจยังโตอย่างรวดเร็ว ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ที่จีดีพีของเมืองบนแผ่นดินใหญ่แห่งนี้จะโตกว่าฮ่องกงในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ฮ่องกงก็ยังคงเหนือเซี่ยงไฮ้ในแง่ผลผลิตต่อหัวประชากร โดยจีดีพีต่อหัวประชากรในปี 2551 ของฮ่องกงอยู่ที่ 30,977 ดอลลาร์ ขณะที่เซี่ยงไฮ้อยู่ที่ 10,713 ดอลลาร์ นอกจากนั้น เมื่อดูจากดัชนีโกลบอล ไฟแนนเชียล เซ็นเตอร์ส ประจำเดือนก.ย. ที่ผ่านมา รวบรวมโดยกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา Z/Yen Group ฮ่องกงติดอันดับ 3 และเซี่ยงไฮ้ อันดับ 10 ของเมืองน่าดึงดูดใจสำหรับมืออาชีพด้านบริการการเงิน อีกทั้งยังมีจุดดึงดูดใจอื่น ๆ เช่น ระบบกฎหมาย ที่อังกฤษวางรากฐานไว้ อัตราการเก็บภาษีที่ต่ำกว่า และการเคลื่อนไหวอย่างอิสระของกองทุน
“เซี่ยงไฮ้ หรือเมืองอื่น ๆ ในจีน แม้กระทั่งในเอเชียจำลองแบบความแข็งแกร่งของฮ่องกงได้ยากมาก” มาร์ก คลิฟฟอร์ด ผู้อำนวยการบริหารของเอเชีย บิสซิเนส เคาน์ซิลในฮ่องกงฟันธง
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ของคณะผู้บริหารฮ่องกงระบุว่า การแข่งขันระหว่างฮ่องกงกับเมืองใหญ่อื่น ๆของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ ย่อมดำเนินต่อไป แต่ยังมีช่องทางอีกมากมาย ที่เมืองทั้งสองจะจับมือเพื่อพัฒนาความเจริญร่วมกันในอนาคตได้