xs
xsm
sm
md
lg

ฐานบินยักษ์มะกันเทียบท่าฮ่องกง เทียบเชิงมังกร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฐานรบยักษ์ ทอดสมอนอกฝั่งฮ่องกง เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ด้วยความยาว 333 เมตร ระวางขับน้ำ 102,000 ตัน พลังงานขับเคลื่อนนิวเคลียร์ บรรทุกเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ได้มากถึง 90 ลำ-ยูเอสเอส นิมิตซ์ คือจ้าวแห่งท้องทะเล และแสนยานุภาพของสหรัฐฯ ที่หยิบยื่นให้ได้ทั้งมิตรไมตรี และอสูรกายแล้วแต่ว่าใครจะเลือก (ภาพเอเยนซี)
เอเยนซี-แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่จีนขู่ตัดความสัมพันธ์ทางการทหารกับสหรัฐฯ อยู่ แต่เงาทะมึนของเรือบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์และถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ จ้าวแห่งน่านน้ำ ของพญาอินทรีย์ในศตวรรษที่ 21 นี้ ก็ได้เข้าเทียบเกาะฮ่องกงในเขตน่านน้ำของจีน เมื่อวันที่ 17 ก.พ. แล้ว หลังจากมีกระแสข่าวว่าจีนอาจไม่อนุญาตให้แวะเทียบท่าฯ

พลเรือตรี จอห์น มิลเลอร์ ผู้บังคับการเรือ "ยูเอสเอส นิมิตซ์” และเป็นผู้บัญชาการกองเรือในปฏิบัติการนี้ ได้สงวนท่าทีที่จะพูดถึงความตึงเครียดที่มีต่อจีน โดยให้ความสนใจกับแสวงหาหนทางที่จะสร้างความร่วมมือระหว่างกันมากกว่า

จอห์น กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐฯ พูดอยู่เสมอถึงผลในทางสร้างสรรค์ที่จะมี ถ้าสามารถร่วมมือกับจีนได้ พร้อมทั้งชี้แจงว่า นี่เป็นการเข้าเทียบท่าฮ่องกงทางร่องน้ำปกติ เพื่อเข้ารับการซ่อมบำรุง พักตามกำหนด และมีความยินดีที่ได้รับอนุญาตฯ เพราะฮ่องกงเป็นเมืองที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา และเป็นเมืองท่าที่เหล่าทหารเรือสหรัฐฯ นิยม เชื่อว่าจะมีความสนุกสนานที่ฮ่องกงมาก

จอห์น ยังแสดงความเห็นว่า ข้อตกลงที่ขัดกันระหว่างจีน-สหรัฐฯ ก็เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่แต่ละชาติต่างไม่ได้เห็นพ้องกันเสมอไป ซึ่งก็คงเป็นจุดต่างที่ต้องสงวน ขณะเดียวกันก็สามารถมีจุดร่วมกันได้ และปฏิบัติการทางทะเลก็เช่นกัน ดังเช่น ในภารกิจปราบโจรสลัด ในน่านน้ำฯ ซึ่งเป็นภารกิจร่วมกันของทั้งจีน สหรัฐฯ และนานาชาติ

ทั้งนี้ ในความเป็นจริง ความร่วมมือของสองชาติก็ยังมีไม่มากพอ ขณะเดียวกันความขัดแย้งยังดูจะเพิ่มมากขึ้นดัวย

หยัดยืนทุกแนวต้าน
หลิว ม่ง หั่ง นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการ กิจการระหว่างประเทศ ของสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน (The Chinese People's Political Consultative Conference-CPPCC) กล่าวว่า ถ้าทำเนียบขาวเหยียบย่ำกับสิ่งที่จีนถือสามากได้แล้ว ทางการจีนก็คงจะมีชั้นเชิงในการเอาคืนแบบของตนอยู่ ก็ถ้าอเมริกามาแบบไม่เป็นมิตร ก็จะรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะอยู่กันสบายๆ อีกต่อไป เช่น ถ้าอิหร่านอยากซื้อยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศขึ้นมา จีนก็พอจะจัดหาให้ได้บ้าง

หลิวกล่าวว่า สหรัฐฯ ก็มีเรื่องที่แตะไม่ได้ ดุจกล่องดวงใจของตนอยู่ ทั้งที่ไม่ยากที่จีนจะจัดชุดบทเรียนสำหรับทำเนียบขาว และเพนตากอนก็คงรู้ตัวอยู่ถึงแสนยานุภาพทางการทหารของจีนที่มีมากขึ้นทุกที และเคยกล่าวว่าจุดประสงค์ของการพัฒนากำลังทหารของจีนเป็นไปอย่างเคลือบแคลง

เหยียบทาบเงา เค้ารางความขัดแย้ง
หยาน สวีย์ถง ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยชิงหัว ลงความเห็นว่ายิ่งช่องว่างระหว่างจีนกับสหรัฐฯ น้อยลง เท่าไหร่ ความขัดแย้งรังแต่จะยิ่งมีมากขึ้น ในเบื้องต้นนี้ จะเป็นเรื่องเศรษฐกิจก่อน เพราะจีนเขยิบเข้าไปทาบเงาทะมึนของสหรัฐฯ มากแล้ว จากนั้นก็จะเป็นเรื่องอื่นๆ อีก

หยาน มองว่านัยยะการเยือนของเรือรบนิมิตซ์ ในกาละเทศะเช่นนี้ จึงมีความจริงจังพอดู เพราะถ้าจีนกับสหรัฐฯ เลือกเผชิญหน้าแทนที่จะหันหน้าเข้าหากัน สถานการณ์โลกคงยากคาดเดา พญาช้างสารชนกัน มีหรือหญ้าแพรกไม่แหลก

ทั้งนี้ ฐานบินยักษ์ฯ ที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติแด่นายพลเรือเชสเตอร์ ดับเบิลยู. นิมิตซ์ ผู้บัญชาการกองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯ (ที่เผชิญกับฝูงบินกามิกาเซ่ ในสงครามโลกครั้งที่สอง) มีความยาว 1,092 ฟุต (333 เมตร) ระวางขับน้ำ 102,000 ตัน มาพร้อมกับเรือร่วมภารกิจอีก 4 ลำ จะแวะพักเพื่อส่งลูกเรือ 5,000 คน ขึ้นฝั่งพักผ่อน หาความสำราญ เป็นเวลา 4 วัน หลังจากถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจนาน 5 เดือน ในคาบสมุทรอาระเบีย เพื่อเป็นฐานรบในอัฟกานิสถาน โดยก่อนหน้ามาฮ่องกง ก็ได้แวะพักที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 31มกราคม-4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

อนึ่ง การแวะยกพลขึ้นฝั่งหาความสำราญของกองเรือสหรัฐฯ ในฮ่องกงนั้น เคยเป็นจุดหมายปกติของทหารเรือสหรัฐฯ อยู่แล้ว นับตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม เพียงแต่ในเวลานั้น ฮ่องกงยังเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร แต่หลังจากที่ฮ่องกงกลับคืนเป็นของจีนในปี 2540 แล้ว ก็มีบางโอกาสเช่นกัน ที่จีนไม่ต้อนร้บการเยือนในลักษณะนี้ เช่น เมื่อปี 2550 ที่เรือรบ ยูเอสเอส คิตตี้ ฮอว์ก (USS Kitty Hawk) ของสหรัฐฯ ถูกปฏิเสธ โดยบรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่สภาคองเกรสฯ ได้เชิดชูเกียรติให้องค์ทะไล ลามะเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด

เช่นเดียวกับเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จีนก็ปฏิเสธคำขอเทียบท่าฮ่องกงของกองทัพเรือญี่ปุ่น ซึ่งในตอนนั้น ไชน่าเดลี่สื่อของทางการจีนบอกว่า เป็นเหตุผลมาจากญี่ปุ่นเปิดประเทศรับองค์ทะไลลามะ และ ผู้นำชาวมุสลิมอุยกูร์พลัดถิ่น นางเรบียะ กอดีร์ สองบุคคลซึ่งจีนระบุว่าคือกลุ่มแบ่งแยกดินแดน

โดยเฉพาะในยามนี้ ที่คลื่นลมตะวันตกและตะวันออกไม่ราบเรียบนัก จากความขัดแย้งซึ่งเกิดอย่างต่อเนื่องของจีน-สหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯ กล่าวหาจีนในประเด็นสิทธิมนุษยชน เสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต ที่จีนเห็นว่าเป็นช่องทางบั่นทอนเสถียรภาพสังคม มอมเมาประชาชน ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ซึ่งรู้อยู่ว่าจีนถือไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่ไม่อาจแบ่งแยก ก็ยังค้ายุทโธปกรณ์ให้ไต้หวัน และล่าสุด เมินคำขอของจีน เปิดทำเนียบขาวนั่งคุยกับองค์ทะไลลามะ ผู้ที่โอบามาอ้างว่ามาในฐานะของผู้นำศาสนาซึ่งได้รับความเคารพในระดับสากล แต่จีนเห็นว่าคือกลุ่มลัทธิแบ่งแยกดินแดน ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวเอกราชของเขตปกครองตัวเองทิเบต

การแวะมาของ "ยูเอสเอส นิมิตซ์" ปีนี้ จึงอดมีนัยยะให้คนคิดว่าไม่ได้ว่า นี่เป็นการเทียบท่าปกติ หรือเทียบเชิงโดยเฉพาะ


กำลังโหลดความคิดเห็น