“เซ็กส์”ตัวการร้าย แพร่เชื้อเอชไอวี แดนมังกร

เอเจนซี – เพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิงคือตัวการใหญ่ แพร่เชื้อไวรัสเอชไอวี ระบาดอย่างรวดเร็วที่สุดบนแดนมังกรเวลานี้ ขณะที่การค้าประเวณีผุดเกลื่อน แต่ชายจีนส่วนใหญ่กลับไม่สวมถุงยางอนามัย

จากรายงานของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอดส์ ซึ่งเผยแพร่ที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันอังคาร (24 พ.ย.) ระบุว่า ร้อยละ 40 ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในจีน เกิดจากสาเหตุเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง ขณะที่ผู้ติดเชื้อจากรักร่วมเพศมีร้อยละ32 และผู้ติดเชื้อ ที่เหลือ ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้เข็มฉีดยาเสพติด ซึ่งเคยเป็นสาเหตุใหญ่ของการแพร่ระบาด และเป้าหมายป้องกันหลักของรัฐบาลจีนในอดีต

ทั้งนี้ การติดเชื้อผ่านเพศสัมพันธ์ระหว่างชายจริงหญิงแท้ในจีนพุ่ง 3 เท่าระหว่างปี 2548-2550 ส่วนการติดเชื้อจากรักร่วมเพศเพิ่มสูงกว่า 2 เท่า นับตั้งแต่ปี2550 เป็นต้นมา

นายไมเคิล ไซดิ๊บ ผู้อำนวยการบริหารของยูเอ็นเอดส์ระบุว่า ลักษณะการแพร่ระบาดในจีนกำลังเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นแนวโน้ม ที่ต้องการยุทธศาสตร์ใหม่ในการรับมือ หลังจากการยับยั้งการแพร่ระบาดประสบความคืบหน้ามานานหลายปี โดยแนวโน้มที่คล้ายกันในเอเชียและแอฟริกาบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนที่มีความเสี่ยง เช่นผู้อพยพ และผู้ให้บริการทางเพศ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนยังคงมีความวิตกกังวลไม่เข้าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาโรคเอดส์ โดยทางการได้ปราบปรามนักรณรงค์และผู้ป่วย ซึ่งเรียกร้องการเพิ่มความช่วยเหลืออยู่เสมอ และล่าสุดที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (25 พ.ย.) ตำรวจได้จับกุมผู้ป่วยโรคเอดส์กว่า 30 คนจากมณฑลเหอหนัน ที่มาประท้วงเรียกค่าชดเชยหน้ากระทรวงสาธารณสุข โดยมีผู้ป่วยที่เป็นเด็กรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม มีการควบคุมตัวไม่นาน ก็ปล่อย

นางเกา ผู้ประท้วงคนหนึ่งเปิดเผยว่า ผู้ป่วยเหล่านี้ ส่วนใหญ่ติดเชื้อเอชไอวี-เอดส์ จากการถ่ายโลหิตที่โรงพยาบาลในเหอหนัน

“ โรงพยาบาลท้องถิ่นในเมืองไคเฟิงขาดผู้เชี่ยวชาญและการรักษาผู้ ป่วยอย่างพวกเรา เราต้องการการรักษาเป็นพิเศษ จึงต้องบากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง” นางกล่าว

นางเกาถูกตรวจพบเชื้อเมื่อปี2550 หลังจากสามีเสียชีวิตด้วยโรค เอดส์ โดยเขาไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ หลังจากขายโลหิตให้ศูนย์รับบริจาคเมื่อปี 2536 นางเกาเดินทางมากรุงปักกิ่ง 2 ครั้งแล้วในปีนี้ เพื่อยื่นคำร้องขอค่าชดเชยเพิ่ม โดยต้องนั่งมาในรถไฟนานถึง 8 ชั่วโมงกว่าจะมาถึง

ปัจจุบันได้รับเงินสวัสดิการเพียงเดือนละ 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2,970 บาท แต่มีภาระต้องเลี้ยงดูบุตรชาย วัย 12 ปี และเช่าบ้านอาศัย เนื่องจากขายบ้านไปสำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลสามี

ด้านนาย เฉิน จู รัฐมนตรีสาธารณสุขรายงานว่า มีผู้ป่วยอย่างเป็นทางการจำนวน 319,877 รายในจีนเมื่อสิ้นเดือนตุลาคม จาก 264,302 รายเมื่อปีที่แล้ว และ135,630 รายเมื่อปี 2548 แต่ตัวเลขแท้จริงอาจสูงเกือบ 740,000 ราย

นายเฉินยืนยันว่า นโยบายป้องกันและควบคุมเชื้อเอชไอวี-เอดส์ของรัฐบาลมีความโปร่งใส

ยูเอ็นเอดส์ยังระบุว่า เอดส์ครองตำแหน่งฆาตกรอันดับหนึ่งในบรรดาโรคระบาดทั้งหลายบนแดนมังกรเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว และการค้าบริการทางเพศ ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เป็นตัวเร่งการระบาด โดยประเมินว่า มีชายราว 37 ล้านคนเป็นลูกค้าสถานบริการทางเพศ และผลสำรวจพบว่า ร้อยละ60 มักไม่สวมถุงยางอนามัย

สาเหตุดังกล่าวมีส่วนทำให้สตรีจีนติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 10 ปีที่แล้ว

รายงานยังระบุด้วยว่า นโยบายให้สถานบริการทางเพศเป็นสิ่งผิดกฎหมายในจีน ได้ปิดกั้นการให้ความรู้และการตรวจร่างกายแก่หญิงขายบริการ