นางจิตราภา สุนทรพิพิธ รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภาวะสังคมไทยในไตรมาส 2 (ปี 2551 ว่า มีนักเรียนนักศึกษา แอบแฝงมาขายบริการทางเพศอย่างแพร่หลายมากขึ้นโดยมีแนวโน้มมีผู้ขายบริการทางเพศสูงถึงกว่า 40,000 คน ว่าจากภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นอยู่ สิ่งยั่วยุการบริโภคนิยม และวัตถุทางเพศที่มีมากขึ้น ทำให้เด็ก เยาวชนเห็นวิธีการเพื่อให้สามารถสนองตอบการบริโภคได้ง่าย และการขายตัวก็เป็นค่านิยมที่เด็กเห็นว่า ได้เงินมาง่ายไม่ต้องทำงานหนัก คุณค่าการรักนวลสงวนตัวหมดลงไป รับวัฒนธรรมตะวันตกมากขึ้น ซึ่งได้รับอิทธิพลจากการเสพสื่อที่หลากหลาย และสิ่งสำคัญคือ การถูกเพื่อนชักจูง ซึ่งวัยรุ่นจะเชื่อเพื่อนมากกว่าครอบครัว
รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวอีกว่า ปัญหาใหญ่ที่มีคนเข้าสู่วงจรการค้าบริการทางเพศ เนื่องจากผู้ซื้อบริการ ยังคงมีความต้องการซื้อสูง ซึ่งต้องสร้างจิตสำนึกผู้ชายที่ซื้อบริการ และทุกภาคส่วน ต้องร่วมกันปลูกฝังอย่างจริงจัง เริ่มจากครอบครัวต้องอบรมสั่งสอนลูกให้ใช้จ่ายเงินแต่พอเพียงไม่ฟุ้งเฟ้อ ขณะที่โรงเรียนและวัดต้องพยายามสอดแทรกการลดบริโภคนิยม เพื่อไม่ให้ซึมซับว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ สื่อต้องหยุดนำเสนอภาพ ข่าว ที่มุ่งเน้นไปในความฟุ้งเฟ้อ แต่ควรนำเรื่องที่ดีมีประโยชน์ เช่น ส่งเสริมสังคมคุณธรรม จริยธรรมให้มากขึ้น
รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวอีกว่า ปัญหาใหญ่ที่มีคนเข้าสู่วงจรการค้าบริการทางเพศ เนื่องจากผู้ซื้อบริการ ยังคงมีความต้องการซื้อสูง ซึ่งต้องสร้างจิตสำนึกผู้ชายที่ซื้อบริการ และทุกภาคส่วน ต้องร่วมกันปลูกฝังอย่างจริงจัง เริ่มจากครอบครัวต้องอบรมสั่งสอนลูกให้ใช้จ่ายเงินแต่พอเพียงไม่ฟุ้งเฟ้อ ขณะที่โรงเรียนและวัดต้องพยายามสอดแทรกการลดบริโภคนิยม เพื่อไม่ให้ซึมซับว่าเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ สื่อต้องหยุดนำเสนอภาพ ข่าว ที่มุ่งเน้นไปในความฟุ้งเฟ้อ แต่ควรนำเรื่องที่ดีมีประโยชน์ เช่น ส่งเสริมสังคมคุณธรรม จริยธรรมให้มากขึ้น