เอเจนซี่ – จีนขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับราคา ที่ดำเนินการมานาน เพื่อสะท้อนต้นทุน และส่งเสริมการประหยัดพลังงาน
เมื่อเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยคาดว่าจีดีพีของจีนจะโตกว่าร้อยละ 8 ในปีนี้ รัฐบาลมังกรจึงหันมามุ่งเน้นการวางแผนนโยบายและการประหยัดพลังงานในระยะยาว โดยคณะกรรมาธิการด้านการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) แจ้งว่า การขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าได้ชะลอมาก่อนหน้า เพื่อไม่เป็นการเพิ่มภาระให้แก่ภาคธุรกิจ ซึ่งกำลังเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ทั้งนี้ มีการขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับภาคธุรกิจอีกร้อยละ 5.7 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ (20 พ.ย.) โดยภาคธุรกิจต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 0.028 หยวน (0.4 เซนต์) ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นการขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว
ขณะที่จะมีการขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับผู้อยู่อาศัยในต้นปีหน้าหลังจากอัตราค่าไฟฟ้าในส่วนนี้ไม่ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2549
ทางการจีนระบุว่า การขึ้นอัตราค่าไฟฟ้านี้จะช่วยลดภาระบริษัทผู้ผลิตกระแสไฟฟ้า หลังจากที่ถ่านหินขึ้นราคา โดยปัจจุบัน จีนพึ่งถ่านหินถึง 3 ใน 4 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ และช่วยชดเชย หลังจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเมื่อต้นปีลดลง เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจ ตลอดจนช่วยให้บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ามีเงินทุนในการปรับปรุงเครือข่ายการส่งกระแสไฟฟ้า ที่มีไม่เพียงพอในประเทศ
นอกจากนั้น รัฐบาลยังได้ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซล ซึ่งเหมือนกับค่าไฟฟ้า ที่มีราคาถูกกว่าในหลายประเทศ เพื่อสะท้อนราคาน้ำมันดิบในโลก ที่กำลังปรับตัวขึ้น การขึ้นราคาน้ำมันยังช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อโรงกลั่น ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญเงินมหาศาล เมื่อราคาน้ำมันดิบนำเข้าดีดขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาลในการจำกัดการพึ่งพาน้ำมันดิบราคาแพงจากต่างชาติอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม NDRC ระบุว่า ทางการจะเข้ามาควบคุมการปรับขึ้นราคา เพื่อช่วยยับยั้งภาวะเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ การใช้ไฟฟ้าบนแดนมังกรเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 16 ในเดือนต.ค. จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็น 313.4 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อเป็นเดือนที่ 5 ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองใหญ่อื่น ๆ เกิดขาดแคลนไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติชั่วขณะ เนื่องจากอุณหภูมิอากาศลดลง ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติพุ่งขึ้น
รัฐบาลจีนได้รณรงค์มาเป็นเวลานาน เพื่อลดการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม โดยจีนมีการใช้พลังงานมากกว่าสหรัฐฯ ถึง 4 เท่าเมื่อเทียบผลผลิตทางเศรษฐกิจต่อหนึ่งดอลลาร์ และสูงกว่าการใช้พลังงานในญี่ปุ่นถึง 11 เท่า