ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ภาวะส่งเสริมการลงทุน 9 เดือน 11 จังหวัดอีสานตอนบนทรงตัว แต่อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนกลับสดใส ระบุได้รับส่งเสริมการลงทุนกว่า 5 โครงการ วงเงินลงทุนกว่า 1,020 ล้านบาท ชูโครงการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลมีกว่า 3 โครงการ เหตุน้ำมันแพงและมีแนวโน้มหมดไป ดันพลังงานทดแทนสดใส เชื่อยังมีลู่ทางการลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจเศรษฐกิจช่วงไตรมาสสุดท้ายเริ่มฟื้น โยงตัวชี้วัดเศรษฐกิจดีขึ้น ทั้งนักลงทุนเข้ามาปรึกษาขอลงทุนและขยายกิจการใหม่คึกคัก
น.ส.ชุติมา พุ่มศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 จังหวัดขอนแก่น (บีโอไอ ขอนแก่น) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยถึงภาวะส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่ 1 มกราคม-30 กันยายน 52 ในพื้นที่ 11 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนว่า มีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 18 โครงการ วงเงินลงทุน 2,268.70 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 23 โครงการ เงินลงทุน 2,198.10 ล้านบาท จำนวนโครงการลดลงร้อยละ 21.74 เงินลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.21
ภาพรวมภาวะส่งเสริมการลงทุน 9 เดือนแรกของปี 2552 บรรยากาศด้านการลงทุน ไม่อำนวยต่อการลงทุนนัก ทำให้จำนวนโครงการลดลงบ้าง แต่ในแง่ของเม็ดเงินลงทุนกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนในช่วงนี้แต่ละโครงการมีมูลค่าการลงทุนค่อนข้างสูง
ที่น่าสนใจ เมื่อแยกประเภทอุตสาหกรรม พบว่า โครงการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมีผู้ประกอบการยื่นขอรับและได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วง 9 เดือนแรกของ 11 จังหวัดอีสานตอนบน โดยเป็นการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลถึง 3 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 1,020 ล้านบาท แยกเป็นโครงการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลของบริษัทบัวสมหมาย จำกัด 2 โครงการ เงินลงทุนรวม 980 ล้านบาท มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 18,000 กิโลวัตต์
โครงการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ของบริษัท พรีเมียร์ไบโอเอนเนอร์จี จำกัด เงินลงทุน 40 ล้านบาท มีกำลังผลิตไฟฟ้าจำนวน 1,000 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการลงทุนในกิจการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ 2 โครงการ เงินลงทุนรวม 53 ล้านบาท
การลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมีสัดส่วนค่อนข้างสูง มีผู้ประกอบการยื่นและได้รับอนุมัติมาตั้งแต่ปลายปี 2551 ที่เริ่มประสบปัญหาน้ำมันราคาแพง ขณะเดียวกัน ภาครัฐมีนโยบายลดการพึ่งพาน้ำมัน สนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกทุกชนิดทั้ง พลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล เชื้อเพลิงจากเอทานอล ไบโอดีเซล ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ทุกภาคส่วน พุ่งเป้าให้ความสำคัญต่อพลังงานทดแทนมาก
“การลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สอดรับกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น เพื่อหวังทดแทนน้ำมัน ที่ประสบปัญหาราคาแพง ทั้งมีแนวโน้มหมดไปในระยะเวลาไม่นานนัก พลังงานทดแทนจึงเป็นทางออกและสร้างความมั่นคงด้านพลังงานกับประเทศ ที่สำคัญพลังงานทดแทนหลายชนิด ก่อมลภาวะต่ำและช่วยลดภาวะโลกร้อน ทำให้การลงทุนในพลังงานทดแทนมีความโดดเด่นเหนือกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่น” ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกหรือพลังงานทดแทน ยังมีลู่ทางที่สดใส ได้รับความสนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่ 11 จังหวัดอีสานตอนบนอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความพร้อมด้านวัตถุดิบรองรับ และการพัฒนาเทคโนโลยีของการใช้พลังงานทดแทนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง
สำหรับแนวโน้มการลงทุนใน 11 จังหวัดอีสานตอนบน ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่า การลงทุนน่าจะกระเตื้องขึ้น จากสัญญาณที่ดีทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราการใช้กำลังผลิต การนำเข้าวัตถุดิบและชิ้นส่วนในภาคอุตสาหกรรม สอดรับกับงานภายในศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 ที่มีนักลงทุนรายใหม่และนักลงทุนเดิม เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในจำนวนที่เพิ่มขึ้น ต่อการลงทุนใหม่ ขยายกิจการ ส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนในระยะนี้
น.ส.ชุติมา พุ่มศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 จังหวัดขอนแก่น (บีโอไอ ขอนแก่น) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยถึงภาวะส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่ 1 มกราคม-30 กันยายน 52 ในพื้นที่ 11 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนว่า มีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 18 โครงการ วงเงินลงทุน 2,268.70 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 23 โครงการ เงินลงทุน 2,198.10 ล้านบาท จำนวนโครงการลดลงร้อยละ 21.74 เงินลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.21
ภาพรวมภาวะส่งเสริมการลงทุน 9 เดือนแรกของปี 2552 บรรยากาศด้านการลงทุน ไม่อำนวยต่อการลงทุนนัก ทำให้จำนวนโครงการลดลงบ้าง แต่ในแง่ของเม็ดเงินลงทุนกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนในช่วงนี้แต่ละโครงการมีมูลค่าการลงทุนค่อนข้างสูง
ที่น่าสนใจ เมื่อแยกประเภทอุตสาหกรรม พบว่า โครงการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมีผู้ประกอบการยื่นขอรับและได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วง 9 เดือนแรกของ 11 จังหวัดอีสานตอนบน โดยเป็นการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลถึง 3 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 1,020 ล้านบาท แยกเป็นโครงการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลของบริษัทบัวสมหมาย จำกัด 2 โครงการ เงินลงทุนรวม 980 ล้านบาท มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 18,000 กิโลวัตต์
โครงการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ของบริษัท พรีเมียร์ไบโอเอนเนอร์จี จำกัด เงินลงทุน 40 ล้านบาท มีกำลังผลิตไฟฟ้าจำนวน 1,000 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการลงทุนในกิจการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ 2 โครงการ เงินลงทุนรวม 53 ล้านบาท
การลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมีสัดส่วนค่อนข้างสูง มีผู้ประกอบการยื่นและได้รับอนุมัติมาตั้งแต่ปลายปี 2551 ที่เริ่มประสบปัญหาน้ำมันราคาแพง ขณะเดียวกัน ภาครัฐมีนโยบายลดการพึ่งพาน้ำมัน สนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกทุกชนิดทั้ง พลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล เชื้อเพลิงจากเอทานอล ไบโอดีเซล ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ทุกภาคส่วน พุ่งเป้าให้ความสำคัญต่อพลังงานทดแทนมาก
“การลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สอดรับกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น เพื่อหวังทดแทนน้ำมัน ที่ประสบปัญหาราคาแพง ทั้งมีแนวโน้มหมดไปในระยะเวลาไม่นานนัก พลังงานทดแทนจึงเป็นทางออกและสร้างความมั่นคงด้านพลังงานกับประเทศ ที่สำคัญพลังงานทดแทนหลายชนิด ก่อมลภาวะต่ำและช่วยลดภาวะโลกร้อน ทำให้การลงทุนในพลังงานทดแทนมีความโดดเด่นเหนือกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่น” ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกหรือพลังงานทดแทน ยังมีลู่ทางที่สดใส ได้รับความสนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่ 11 จังหวัดอีสานตอนบนอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความพร้อมด้านวัตถุดิบรองรับ และการพัฒนาเทคโนโลยีของการใช้พลังงานทดแทนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง
สำหรับแนวโน้มการลงทุนใน 11 จังหวัดอีสานตอนบน ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่า การลงทุนน่าจะกระเตื้องขึ้น จากสัญญาณที่ดีทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราการใช้กำลังผลิต การนำเข้าวัตถุดิบและชิ้นส่วนในภาคอุตสาหกรรม สอดรับกับงานภายในศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 ที่มีนักลงทุนรายใหม่และนักลงทุนเดิม เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในจำนวนที่เพิ่มขึ้น ต่อการลงทุนใหม่ ขยายกิจการ ส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนในระยะนี้
