รอยเตอร์ - พญามังกรกับหมีขาวสลัดเรื่องขุ่นเคืองใจ หลังจากเล็งผลประโยชน์ ที่ต้องพึ่งพากัน หันมาเกี่ยวก้อยลงนามข้อตกลงการค้ามูลค่ามหาศาลหลายฉบับ รวมทั้งข้อตกลงด้านขีปนาวุธ โดยทั้งสองฝ่ายยังเตรียมจรดปากกาลงนามข้อตกลงก๊าซธรรมชาติ ทั้งที่ยังติดขัดเรื่องปัญหาราคากันอยู่ก็ตาม
นายกรัฐมนตรี วลาดิเมียร์ ปูติน อดีตประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย ได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี เวิน เจียเป่า ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ระหว่างการมาเยือนถิ่นมังกร เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงระหว่างผู้นำจีน,รัสเซีย และชาติในเอเชียกลาง
ในวันเดียวกันนั้นเอง บริษัทของรัสเซียและจีนก็ได้มีการลงนามข้อตกลงการค้าร่วมกันหลายฉบับ รวมมูลค่าถึง 3,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อตกลงฉบับหนึ่งได้แก่ข้อตกลงปล่อยสินเชื่อจำนวน 500 ล้านดอลลาร์ของธนาคารการเกษตรแห่งจีน (Agricultural Bank of China) ให้แก่VTB ซึ่งเป็นสถาบันผู้ปล่อยกู้รายใหญ่อันดับสองของรัสเซีย
ตลอดจนการลงนามข้อตกลงว่าด้วยการแจ้งให้แต่ละฝ่ายทราบเกี่ยวกับแผนการยิงขีปนาวุธนำวิถีนอกดินแดนของตน อันนับเป็นย่างก้าวหนึ่งในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน โดยรัสเซียกับสหรัฐฯ เคยทำข้อตกลงแบบเดียวกันนี้เมื่อปี 2514 และมีการขยายขอบเขตข้อตกลงในปี 2543 สื่อมวลชนจีนระบุว่า ข้อตกลงระหว่างจีนกับรัสเซีย มีความแตกต่างออกไป แต่มิได้ให้รายละเอียดว่าแตกต่างกันอย่างไร
นอกจากนั้น ยังคาดกันว่าทั้งสองฝ่ายจะมีการลงนามข้อตกลงว่าด้วยการวางกรอบแนวทางในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติของรัสเซียให้แก่จีนอีกด้วย โดยนาย
อเล็กไซ มิลเลอร์ ประธานของก๊าซพรอม (Gazprom) วิสาหกิจรัฐ ผู้ผูกขาดการผลิตก๊าซของรัสเซีย ระบุว่า ข้อตกลงฉบับนี้ อาจนำไปสู่การจัดส่งก๊าซจากเขตไซบีเรียตะวันตก หรือตะวันออกของรัสเซีย ให้แก่จีนในปริมาณราว 70,000 ล้านคิวบิกเมตรในที่สุดก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม แทบไม่มีหลักฐานรองรับว่า ข้อตกลงฉบับนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาความไม่ลงรอยในเรื่องการกำหนดราคา และเงื่อนไขอื่น ๆ ระหว่างกันได้เลย แม้สองฝ่ายได้มีการลงนามข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดส่งก๊าซธรรมชาติไปแล้วเมื่อกว่า 3 ปีก่อนก็ตาม
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนในช่วงที่ผ่านมาไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากความไม่สมหวัง และความหวาดระแวงกันอยู่ลึก ๆ โดยจีนขุ่นเคืองนโยบายภาษีศุลกากรของรัสเซีย หลังจากรัสเซียปิดตลาดเชอร์กิซอฟสกี้ ซึ่งเป็นตลาดขายสินค้าในกรุงมอสโคว์ โดยอ้างว่าเพื่อปราบสินค้าเถื่อน และสินค้าที่พ่อค้าชาวจีนนำไปขายนั้น ถูกกล่าวหาว่า เป็นสินค้าหนีภาษี
ขณะที่ก๊าซพรอมเคยระบุเมื่อปี 2549 ว่า ก๊าซพรอมจะสร้างท่อส่งก๊าซ 2 แห่งไปยังจีน แต่โครงการต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับการกำหนดราคาซื้อขาย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า วิกฤตการเงินโลก ซึ่งทำให้เศรษฐกิจและการค้าของรัสเซียหดตัวคือสาเหตุที่ทำให้รัสเซียกระตือรือร้นต้องการทำข้อตกลงกับจีน โดยจีนเชื่อมั่นว่าจีดีพีของตนจะโตถึงร้อยละ 8 ในปีนี้ ซึ่งยิ่งทำให้ฐานะชาติเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ 3 ของจีนแข็งแกร่ง ในขณะที่เศรษฐกิจของรัสเซีย ซึ่งใหญ่อันดับ 9 ของโลก กำลังพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง หลังจากซวนเซ เพราะวิกฤตการเงินโลก จนส่งผลให้คาดการณ์ว่า จีดีพีของรัสเซียในปีนี้จะตกลงร้อยละ 8 จากอัตราการเติบโตร้อยละ 7 ต่อปี
ขณะเดียวกัน ปักกิ่งก็มีเหตุผล ที่ต้องเอาอกเอาใจปูติน กล่าวคือจีนเห็นรัสเซียมีค่าอย่างมากในฐานะเป็นตัวถ่วงดุลอิทธิพลของสหรัฐฯ ทางยุทธศาสตร์ นอกจากนั้น ยังเชื่อด้วยว่าแหล่งพลังงานและทรัพยากรมหาศาลในรัสเซีย รวมทั้งตลาดการค้าจะยังมีความสำคัญกับจีนต่อไปในอีกสองสามทศวรรษข้างหน้า
