มังกรยิ้มร่า ท่อส่งก๊าซเอเชียกลาง-จีนเปิดใช้แล้ว

รอยเตอร์ – ท่อส่งก๊าซอันมหึมาจากภูมิภาคเอเชียกลางเชื่อมสู่แดนมังกรเปิดใช้แล้ว ประกาศศักดาพญามังกร ที่สามารถเข้าควบคุมขุมทรัพยากรพลังงานแหล่งสำคัญของโลก ที่ยังไม่มีใครแตะต้องได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

ประธานาธิบดี หู จิ่นเทาของจีนและประธานาธิบดี นูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ แห่งคาซักสถาน ได้ร่วมกันกดปุ่ม เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของพิธีเปิดท่อส่งก๊าซแห่งใหม่ในส่วนของคาซักสถานที่กรุงอัสตาน่า, ประเทศคาซักสถาน เมื่อวันเสาร์ (12 ธ.ค.)

“วันหนึ่งโครงการอันใหญ่มหึมานี้จะฟื้นคืนชีวิตเส้นทางสายไหมในสมัยโบราณ” ประธานาธิบดีนาซาร์บาเยฟกล่าวกับประธานาธิบดีหู โดยเขาหมายถึงเครือข่ายเส้นทางการค้าในสมัยประวัติศาสตร์ยุคกลาง ซึ่งเชื่อมผ่านยุโรปกับเอเชีย

ขณะเดียวกันที่บริเวณทุ่งน้ำแข็งติดพรมแดนคาซักสถาน ตรงจุดที่ท่อส่งก๊าซเข้าไปยังจีน บรรดาเจ้าหน้าที่จากทั้งสองชาติต่างสวมกอด แสดงความยินดีกัน พร้อมกับโบกธงชาติในพิธีเปิดซึ่งจัดขึ้นอีกงาน

ท่อส่งก๊าซแห่งนี้จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (14 ธ.ค.) เมื่อผู้นำจีนเดินทางไปทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการที่เติร์กเมนิสถาน ซึ่งอุดมด้วยก๊าซธรรมชาติมหาศาล โดยท่อส่งก๊าซ ซึ่งบริษัทน้ำมัน CNPC ของจีนเป็นผู้ก่อสร้าง เริ่มต้นจากเติร์กเมนิสถาน ผ่านอุซเบกิสถาน และคาซักสถาน ต่อเข้าไปยังภูมิภาคซินเจียงของจีน

โครงการดังกล่าวนับเป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของจีน ที่พยายามเข้าควบคุมขุมทรัพยากรพลังงานในย่านเอเชียกลาง ที่ยังไม่ถูกใครเจาะมาก่อน

พญามังกรได้เข้ามาแผ่บารมีในเอเชียกลางก่อนหน้าด้วยการหยิบยื่นเงินกู้จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์, เข้าซื้อสินทรัพย์ด้านพลังงาน และก่อสร้างท่อส่งน้ำมันจากคาซักสถาน

ในระหว่างการเยือนคาซักสถานของผู้นำจีนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สองฝ่ายยังได้ลงนามข้อตกลงการลงทุนร่วมกันหลายฉบับทั้งในภาคอุตสาหกรรมโลหะ, เคมี, พลังงานสะอาด และการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันในคาซักสถานขึ้นมาใหม่

นอกจากนั้น จีนยังให้คำมั่นร่วมลงทุนจำนวน 3,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมนอกภาคพลังงานตามแผนการสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจของคาซักสถาน และลดการพึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมัน

หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนคาซักสถาน ประธานาธิบดีหูได้เดินทางต่อไปยังเติร์กเมนิสถาน เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดกับผู้นำชาติ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการท่อส่งก๊าซ ซึ่งมีประธานาธิบดีอิสลาม คาริมอฟ แห่งอุซเบกิสถาน ซึ่งปกติชอบสันโดษ เข้าร่วมด้วย

ที่ผ่านมา ผู้นำประเทศในเอเชียกลางมีปัญหาขัดแย้งกันหลายประเด็น เช่นปัญหาการใช้น้ำและการส่งกระแสไฟฟ้าข้ามพรมแดน จึงแทบมิได้มีการประชุมด้านความร่วมมือกันเลย นอกจากนั้น ยังติดต่อกันในวงจำกัดในการประชุมสุดยอดระดับภูมิภาค ที่รัสเซียเป็นผู้จัดขึ้นอีกด้วย

ท่อส่งก๊าซแห่งใหม่นี้มีกำลังการส่งก๊าซ 40,000 ล้านคิวบิกเมตรต่อปี และจะช่วยให้เติร์กเมนิสถานลดการพึ่งพารัสเซีย ซึ่งเคยซื้อก๊าซจากเติร์กเมนิสถานราวปีละ 50,000 ล้านคิวบิกเมตร แต่ในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา บริษัทก๊าซพร็อมของรัสเซียได้เลิกซื้อ หลังเกิดเหตุระเบิดท่อส่งก๊าซ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งทางการทูตเกี่ยวกับเรื่องก๊าซธรรมชาติในเวลาต่อมา

การยกเลิกดังกล่าวทำให้เติร์กเมนิสถานต้องสูญรายได้ถึงประมาณเดือนละ 1,000 ล้านดอลลาร์ จึงต้องพยายามกระชับความสัมพันธ์กับชาติอื่น

ด้านจีนได้ยื่นมือช่วยเหลือ โดยให้เงินกู้เติร์กเมนิสถานจำนวน 3,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับพัฒนาแอ่งก๊าซธรรมชาติ เซาท์ ไอโอโลตัน (South Iolotan) ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติใหญ่สุดแห่งหนึ่งในจำนวนทั้งหมด 5 แห่งในโลก