เอเจนซี – ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ประกาศ จีนจะพยายามเต็มที่ในการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงจำนวนมาก พร้อมเร่งประเทศพัฒนาแล้วช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาแก้ปัญหา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนประกาศจุดยืนดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ย้ำเสมอว่าจีนเป็นประเทศกำลังพัฒนา การลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับเป็นการชะลอเศรษฐกิจของประเทศ
จีนจะพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง ขณะเดียวกันก็เร่งประเทศพัฒนาแล้วช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ และปฏิบัติตามพิธีสารเกียวโตที่พวกเขาให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 5% จากระดับการปล่อยก๊าซในประเทศของพวกเขาเมื่อปี 1990 ผู้นำจีน หู จิ่นเทา กล่าวเมื่อวันอังคาร (22 ก.ย.) กลางที่ประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศที่นิวยอร์ก ซึ่งมีผู้นำระดับสูงของประเทศมากกว่า 100 คนเข้าร่วมการประชุม นับเป็นการรวมตัวของผู้นำประเทศทั่วโลกจำนวนมากสุด เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ หูยังได้กระตุ้นให้ประเทศร่ำรวยช่วยเหลือด้านการเงินและเทคโนโลยีแก่ประเทศยากจน รวมถึงประเทศแอฟริกา ประเทศหมู่เกาะเล็ก ประเทศด้อยพัฒนาและไม่มีทางออกทางทะเล ด้วย
“จีนจะเดินหน้าใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างไม่ลดละ และภายในปี 2020 เราจะพยายามบรรลุเป้าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยจีดีพีลง”
ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถ้อยแถลงครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของผู้นำจีนที่ประกาศนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แทนที่จะเน้นจุดยืนในการใช้พลังงานเพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในฐานะประเทศกำลังพัฒนา ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่จีนประกาศเป้าระยะกลางในการบรรเทาปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง แม้จะไม่ได้ระบุจำนวนตัวเลขก็ตาม
แดเนียล ดูเด็ก นักเศรษฐศาสตร์ชั้นแนวหน้าจากสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมในสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าวไชน่าเดลี่ว่า “แผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนนั้น ได้ถูกระบุในนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคตของจีนแล้ว” โดยก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ยืนยันว่า รัฐบาลจีนจะบรรจุการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไว้ในแผนพัฒนาแห่งชาติ ซึ่งเหอ เจี้ยนควน รองประธานคณะผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคาดการณ์ว่า น่าจะเป็นแผนพัฒนาฉบับที่ 12 ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี (2011-2015)
ดูเด็กยังกล่าวเสริมว่า ปี 2020 นั้นนับเป็นปีสำคัญ เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นของช่วงที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่า ทั่วโลกจะปล่อยก๊าซคาร์บอนสูงที่สุด หากโลกยังเพิกเฉยต่อผลกระทบจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม “คำประกาศลดปล่อยก๊าซคาร์บอนจำนวนมหาศาลของจีนนี้ จะทำให้แนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกเปลี่ยนจากขยายตัวเป็นลดลง” ดูเด็กกล่าว
พร้อมกันนี้ หู จิ่นเทา ยังได้ประกาศต่อผู้นำทั่วโลกว่า จีนจะพยายามผลิตพลังงานที่ไม่ใช่อินทรีย์สารคิดเป็น 15% ของพลังงานที่ผลิตได้ในประเทศ อาทิ พลังงานทางเลือกและพลังงานนิวเคลียร์ภายในปี 2020 ขณะเดียวกันก็จะปลูกต้นไม้เพิ่ม โดยจะเพิ่มพื้นที่ป่าราว 40 ล้านเฮคตาร์
ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้การพัฒนาเศรษฐกิจจีนจะพุ่งเร็วติดจรวดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่หูก็ยังยืนยันว่าจีนเป็นประเทศกำลังพัฒนา และจีดีพีต่อหัวปรับลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศไม่สมดุล “เรากำลังเผชิญหน้ากับอุปสรรคครั้งใหญ่ และต้องพยายามอีกมากกว่าจะพัฒนาประเทศสู่ความทันสมัย