ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเตรียมรับมือภาวะโลกร้อนที่นับวันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้ (28 ส.ค.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ พ.ศ.2553-2562 โดยมี นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ณ ห้องรายา โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้
นางอุษา เกียรติชัยพิพัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในปัจจุบันนานาประเทศในประชาคมโลกได้ยอมรับ และมีความตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รายงานประเมินผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับที่ 4 (IPCC Fourth Assessment Report:AR4) ซึ่งเป็นรายงานฉลับล่าสุดของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิกาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change:IPCC) ได้ยืนยันว่า อุณหภูมิของโลกกำลังกำลังเพิ่มสูงขึ้นจริงอยางไม่ต้องสงสัย การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดจากโลกร้อนสามารถสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจนจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉลี่ย อันเนื่องมาจากการขยายปริมาตรของน้ำทะเล การละลายของหิมะและธานน้ำแข็งขั้วโลกในอัตราที่เร็วขึ้น สภาวะโลกร้อนยังส่งผลต่อความแปรปรวนของอากาศ
เช่น ปริมาณของฝน จำนวนวันที่อากาศร้อน และอากาศเย็น รวมทั้งเพิ่มความรุนแรงอขงพายุโซร้อนที่เกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ อีกด้วย
ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลก ซึ่งนานาประเทศต้องร่วมกันรับผิดชอบ ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) และพิธีสารเกียวโต ถึงแม้ประเทศไทยจะยังไม่มีพันธกรณีต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้พิธีสารเกียวโต แต่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และการเพิ่มขึ้นของประชากร ทำให้ประเทศไทยเพิ่มการปล่อยก๋าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แม้ว่าประเทศไทยจะมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสัดส่วนที่น้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ หลายประเทศ
แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆในโลกอย่างไม่เลือกพรหมแดน ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เล็งเห็นความสำคัญในการตอบสนองต่อปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ.2551-2555 ขึ้น ซึ่ง ครม.ได้มีมิตรับทราบเมื่อวันที่ 22 ม.ค.2551
นอกจากนี้ เนื่องจากในระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยและประชาคมโลกมีความตื่นตัวต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำแผนจัดทำแผนแม่บทรองรบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ในระยะเวลา 10 ปี (พ.ศ 2553-2562) เพื่อใช้เป็นกรอบและแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของทุกภาคส่วนให้สามารถรองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างเป็นระบบในระยะยาว
ในการจัดทำแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ.2553-2562 ทาง สผ.ได้รับความร่วมมือทางวิชาการจากสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการศึกษา รวบรวม วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและจัดทำร่างแผนแม่บท รวมถึงร่างแผนปฏิบัติการในระยะเร่งด่วน 3 ปีแรก
โดยในกระบวนการจัดทำร่างแผนแม่บท และร่างแผนปฏิบัติการนั้น ได้มีการจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นและการประเมินจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคาม ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ผู้แทนหน่วยงาน และผู้แทนที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนแล้ว และในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดสัมมนาเชิงปฎิบัติเพื่อชี้แจงและประชาสัมพันธ์การดำเนินโครงการ
รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นสาธารณะที่มีต่อร่างแผนแม่บทฯจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในส่วนภูมิภาค รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยจะจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการใน 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี อยุธยา ขอนแก่น และ ภูเก็ต
เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างแผนแม่บทดังกล่าว และนำเสนอข้อคิดเห็นมาประมวลเพื่อพิจารณาปรับปรุงร่างแผนแม่บทฯและร่างแผนปฏิบัติการให้มีความสมบูรณ์ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ก่อนที่จะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติและเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป
สำหรับแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ พ.ศ.2553-2562 ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์การสร้างความสามารถในการปรับตัวเพื่อรับมือและลดความล่อแหลมของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยุทธศาสตร์ การสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มแหล่งดูดซับก๊าซเรือนกระจกบนพื้นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน และยุทธศาสตร์การบูรณาการการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ