เอเอฟพี – ช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จีนลดการบริโภคพลังงานโดยเฉลี่ยที่ 3.53 เปอร์เซ็นต์ จาก 2.89 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากทุ่มงบประมาณมหาศาลในโครงการพลังงานสะอาด
คณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน(เอ็นดีอาร์ซี) กล่าวว่า จีนได้ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานโดยเฉลี่ยที่ 20 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ 2549 – 2553 ซึ่งหมายความว่าจะต้องลดการใช้พลังงานโดยเฉลี่ยที่ 4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งขณะนี้ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ในแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 4 ล้านล้านหยวน(580 ,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ของรัฐบาลจีน ที่ประกาศใช้ในปลายปี 2551 เพื่อกระตุ้นความต้องการในประเทศช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ในจำนวนดังกล่าวจีนร่างงบประมาณราว 440,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อใช้ในพลังงานทดแทน
อย่างไรก็ตาม จีนอาจให้สัญญาว่าจะปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในประเทศในส่วนต่างที่เหลืออยู่ ที่ระบุในพิธีสารเกียวโต มากกว่าจะยอมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยที่ผ่านมา จีนกล่าวว่าตนเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาภายใต้พิธีสารเกียวโต และว่าไม่อาจยอมรับข้อตกลงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ขณะที่จีนเป็นประเทศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก เนื่องจากพึ่งพิงพลังงานจากถ่านหินร้อยละ 70 ของการบริโภคพลังงานทั้งหมด