รัฐมนตรีเมกามั่นใจ จีนพร้อมร่วมมือสู้ภาวะโลกร้อน

เอเอฟพี – รัฐมนตรีจาก 2 กระทรวงหลักของสหรัฐฯ เชื่อมั่น จีนพร้อมจับมือเมกาต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ขณะที่โฆษก ก.ต่างประเทศจีนยัน ยังไงจีนก็ไม่เปลี่ยนนโยบายลดการปล่อยก๊าซ ชี้ชาติเจริญแล้วต้องรับภาระมากกว่าชาติด้อยพัฒนา

โดยนายแกรี ล็อค รัฐมนตรีการค้า และนายสตีเว่น ชู รัฐมนตรีพลังงานของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังเข้าพบ นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ที่ดูแลในด้านสิ่งแวดล้อมและการค้า เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดี (16 ก.ค.) ว่า การเดินทางมาจีนครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ

“รัฐมนตรีชูและผม ตั้งเกณฑ์ความสำเร็จของการเดินทางมาจีนครั้งนี้ ไว้ที่คำตอบต่อคำถามที่ว่า สหรัฐฯ และจีน จะเพิ่มความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานสะอาด และเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในด้านพลังงานได้หรือไม่ หลังจากใช้เวลาถึง 3 วันในการพูดคุยกับฝ่ายต่างๆ คำตอบก็คือ ได้” นายแกรี ล็อค กล่าว

ผลที่ได้จากการเจรจานอกเหนือจากนี้ก็คือ จีนและหรัฐฯ ตกลงที่จะก่อตั้งศูนย์วิจัยพลังงานสะอาดร่วมกัน เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์จาก 2 ชาติมาทำงานร่วมกัน โดยที่ตั้งของสำนักงานใหญ๋ของศูนย์นี้จะอยู่ใน 2 ประเทศ และศูนย์วิจัยแห่งนี้ยังจะเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญๆ รวมถึงประสิทธิภาพด้านพลังงาน เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด และรถยนต์ที่มีมลพิษต่ำ

การเดินทางมาเยือนจีนของ 2 รัฐมนตรีสหรัฐฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการเจรจาระหว่างจีน-สหรัฐฯ ว่าด้วยยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ ที่จะจัดในกรุงวอชิงตันสัปดาห์หน้า และยังเป็นการเตรียมการก่อนการประชุมที่กรุงโคเปนเฮเก้นในปลายปีนี้ ซึ่งสหประชาชาติจะจัดขึ้นเพื่อให้ 180 ชาติได้เจรจาหาข้อตกลงใหม่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ที่จะนำมาใช้แทนที่พิธีสารเกียวโต

ก่อนหน้านี้ จีนและชาติกำลังพัฒนาอื่นๆ ปฏิเสธที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเห็นว่าควรเป็นภาระของชาติพัฒนาแล้ว ที่ได้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมานานหลายทศวรรษ จนเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อน

แต่หลังจากได้พูดคุยกับฝ่ายจีนแล้ว นายชูมองว่าการประชุมที่กรุงโคเปนเฮเกนปลายปีนี้จะได้ผลที่ดีออกมา “จีนตระหนักถึงปัญหาที่เขากำลังเผชิญเหมือนกับชาติอื่นๆ ทั่วโลก และมีท่าทีที่อ่อนลง ผมรู้สึกว่าสิ่งดีๆ กำลังจะเกิดขึ้นที่โคเปนเฮเกน”

ขณะที่ นายฉิน กัง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แสดงให้เห็นว่า การเดินทางมาเยือนจีนของนายล็อคและนายหู ไม่มีผลต่อนโยบายเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของจีนแต่อย่างใด

“ประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ คือการยึดหลักการร่วมกันแต่ความรับผิดชอบแตกต่างกัน เพื่อให้มีจัดการกับภาวะโลกร้อนที่ประชาคมโลกกำลังเผชิญร่วมกัน” นายฉิน เผยกับผู้สื่อข่าว

ในการเดินทางเยือนจีนของนายทอดด์ สเติร์น ผู้แทนการเจรจาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อโน้มน้าวให้จีนตกลงที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงทีละน้อย กลับไม่ได้รับการตอบสนองจากกรุงปักกิ่ง

ขณะเดียวกัน สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ก็ตั้งแง่ว่า หากจีนไม่ยอมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สภาคองเกรสก็จะไม่ผ่านร่างกฎหมายเรื่องนี้ออกมา

โดยร่างกฎหมายที่สภาคองเกรสสหรัฐฯ กำลังพิจรณาอยู่ ระบุว่าสหรัฐฯ จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 17 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2563 และจะลดให้ได้ 83 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2593 แต่จีนกลับเห็นว่าข้อเสนอของสหรัฐฯ ดังกล่าวยังไม่ดีพอ และว่าชาติพัฒนาแล้วควรพยายามให้มากกว่านี้