เอเอฟพี – ดัชนีเศรษฐกิจหลายตัวของจีนบ่งชี้ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลของรัฐบาลปักกิ่งได้ติดปีกเศรษฐกิจพญามังกรให้ทะยานสู่เป้าหมายเติบโตร้อยละ 8 ในปีนี้
นาย หลี่ เสี่ยวเชา โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนแถลงว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 580,000 ล้านดอลลาร์ ที่รัฐบาลเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศนั้น คือปัจจัยหลัก ที่ทำให้เศรษฐกิจของจีนกำลังมีเสถียรภาพ และเริ่มฟื้นตัว โดยเศรษฐกิจจีนกำลังก้าวไปสู่การเติบโต ที่ร้อยละ 8 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า การฟื้นตัวดังกล่าวมิได้มาจากการขับเคลื่อนของภาคส่งออก เนื่องจากการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกในปีนี้ของจีนปรับลดกว่าร้อยละ 20 แต่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรตามเมืองต่าง ๆ ในช่วงเดียวกันกลับปรับขึ้นร้อยละ 33
นอกจากนั้น ยอดขายปลีก ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญในการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้นร้อยละ 15.4 ในเดือนสิงหาคม เทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ในเดือนกรกฎาคม ปรับขึ้นร้อยละ 15.2 จากปีก่อนหน้า
นายหลี่ระบุด้วยว่า ยังไม่ปรากฏปัญหาเงินเฟ้อในขณะนี้ หากดูจากดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อนั้น ปรับลงร้อยละ 1.2 ในเดือนสิงหาคม เทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมนั้นเป็นการปรับลงต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 7 แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายหลี่เตือนว่า จีนยังมีภารกิจ ที่จะต้องทำอีกมากมาย ก่อนจะบรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 8 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่จำเป็นสำหรับการสร้างงานให้แก่ประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง และสกัดกั้นการก่อเหตุวุ่นวายในสังคม
ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ตัวเลขดัชนีหลายตัว ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนแถลงนั้น แข็งแกร่งกว่า ที่เคยมีการคาดการณ์กัน แต่ก็เตือนให้จีนยังคงระมัดระวัง โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนควรได้รับแรงหนุนต่อไปจากการส่งออก ที่แข็งแกร่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเปิดช่องให้จีนค่อย ๆ ถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจบางส่วนไปได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า