เอเจนซี--จีนยืนยันนโยบายชนชาติส่วนน้อยสอดคล้องกับสถานการณ์และลักษณะเฉพาะของชนชาติส่วนน้อยในประเทศจีน และมิได้เป็นต้นเหตุบ่มเพาะความไม่พอใจจนเกิดจลาจลระหว่างเชื้อชาติจีนฮั่นและอุยกูร์ในอูหลู่มู่ฉี ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นใดๆต้องปรับเปลี่ยนนโยบายด้านชนชาติส่วนน้อยนี้
นายอู๋ ซื่อหมิน รองรัฐมนตรีคณะกรรมการกิจการชนชาติส่วนน้อยแห่งรัฐแถลงยืนยันนโยบายดังกล่าวในที่ประชุมข่าววันนี้(21 ก.ค.)
สืบเนื่องจากจลาจลระหว่างเชื้อชาติในอูหลู่มู่ฉี เมืองเอกของเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียงในวันที่ 5 ก.ค. ซึ่งนับเป็นการปะทะรุนแรงครั้งใหญ่ในรอบหลาย 10 ปี มีผู้เสียชีวิต 197 คน และบาดเจ็บราว 2,000 คน แม้เหตุการณ์รุนแรงบานปลายจากการประท้วงของชาวอุยกูร์ที่เรียกร้องให้มีการไต่สวนการเสียชีวิตของชาวอุยกูร์ในเหตุวิวาทะที่โรงงานในมณฑลกวางตุ้ง แต่นโยบายสู่ชนชาติส่วนน้อยของรัฐบาลกลางก็ตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญ
แต่รัฐบาลยืนยันว่าจลาจลเมื่อวันที่ 5 ก.ค. เป็นฝีมือของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน อู๋ ซื่อหมินเจ้าหน้าที่สูงสุดที่ดูแลด้านนโยบายชนชาติส่วนน้อยยืนยันในที่ประชุมข่าววันนี้(21 ก.ค.) ว่านโยบายสู่ชนชาติส่วนน้อยทั้ง 56 กลุ่มในประเทศมิมีปัญหาใดๆ และไม่ต้องเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากความวุ่นวายในซินเจียง
ในวันอาทิตย์(19 ก.ค.) สำนักข่าวซินหัวรายงานตัวการก่อเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ในอูหลู่มู่ฉี เป็นแผนการก่อความวุ่นวายที่มีการตระเตรียมอย่างดีของชนชาติส่วนน้อยอุยกูร์ในซินเจียง มีการจัดหาอาวุธสำหรับการโจมตีเป้าหมายมากกว่า 50 จุดในอูหลู่มู่ฉี
จีนกล่าวหาว่าแผนก่อความรุนแรงนี้เป็นแผนสมรู้ร่วมคิดระหว่างกลุ่มสภาอุยกูร์โลกของนางรอบียะ กอดีร์ นักเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนที่พลัดถิ่นอยู่ในสหรัฐอเมริกาหนุนหลัง และกลุ่มลัทธิแบ่งแยกดินแดน ที่เชื่อมโยงกับขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก (ETIM) ซึ่งถูกสหประชาชาติขึ้นบัญชีดำเป็นลัทธิก่อการร้าย นอกจากนี้ ETIM ยังเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์อีกด้วย
แต่นางกอดีร์ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ของจีน
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญสถานการณ์ในซินเจียงแสดงความเคลือบแคลงว่าการแถลงเชื่องโยงเหตุการณ์รุนแรงในซินเจียงกับลัทธิก่อการร้ายนี้ มีเป้าหมายเบี่ยงเบนความสนใจประชาชนจากประเด็นที่แท้จริงที่สร้างความไม่พอใจแก่ชาชาติส่วนน้อยอุยกูร์
ทั้งนี้ กลุ่มมุสลิมอุยกูร์ มีจำนวนราว 9 ล้านคน ของประชากรทั้งหมดในซินเจียง ร้องทุกข์เกี่ยวกับกระแสชาวจีนฮั่นหลั่งไหลเข้ามาในซินเจียง และการกีดกันทางศาสนาของรัฐบาล ชาวอุยกูร์กลุ่มหนึ่งชี้ถึงการเลือกปฏิบัติระหว่างเชื้อชาติ นอกจากนี้พรรคคอมมิวนิสต์ยังพยายามกลืนชาติวัฒนธรรมและภาษาพวกเขา
รัฐบาลจีนสนับสนุนจีนฮั่นเข้ามาอยู่ในซินเจียงภายใต้แผนพัฒนาภาคตะวันตก จนมีอัตราส่วนจีนฮั่นในซินเจียงมากถึงร้อยละ 40 ในปี 2543 จากปี 2492 ที่มีเพียงร้อยละ 6.
คลิกอ่าน: “กบฏซินเจียงเป็นใครน่ะ?”