เอเจนซี-สืบเนื่องจากศึกจลาจลระหว่างเชื้อชาติจีนฮั่น และชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียงของจีนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปในชั่วเวลาไม่ถึงวันถึง 156 คน บาดเจ็บกว่า 1,000 คน จากตัวเลขที่สรุปในวันอังคาร(7ก.ค.) ขณะที่ผู้นำคอมมิวนิสต์จีนพยายามหยุดศึกโดยประกาศเคอร์ฟิว ทั้งระดมกองกำลังตำรวจทหารจำนวนมากยาตราทัพเข้ารักษาความสงบในอูหลู่มู่ฉีเมื่อวันพุธ(8 ก.ค.) กลุ่มผู้นำโลกในองค์การโลกบาลยูเอ็น ชาติอำนาจต่างๆ ตลอดจนกลุ่มชาติมุสลิม ต่างแสดงความวิตกต่อสถานการณ์ตึงเครียดในอูหลู่มู่ฉี
ขณะเดียวกัน ก็มีการประท้วงจีนตามชาติต่างๆทั่วโลก
Navi Pillay เจ้าหน้าที่องค์การสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นแถลงการณ์เรียกร้องให้บรรดาผู้นำกลุ่มต่างๆในท้องถิ่นและผู้นำจีน “ใช้ความอดกลั้นและยับยั้งชั่งใจอย่างมาก” ในการสกัดความรุนแรงในซินเจียง ซึ่งได้สร้าง “โศกนาฏกรรมใหญ่” มาแล้วเมื่อวันอาทิตย์
ด้านยักษ์ใหญ่ชาติอำนาจแห่งสหรัฐอเมริกา โฆษกทำเนียบขาว โรเบิร์ต กิบบส์ แถลงแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและเรียกร้องให้คู่ปฏิปักษ์ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจ
ขณะเดียวกันประธานสภาผู้แทนราษฎร์แห่งสหรัฐฯ นาง แนนซี เพโลซี โทษจีนว่าดำเนินนโยบายแข็งกร้าว ซึ่งเป็นเสมือนเชื้อเพลิงโหมไฟแห่งความไม่พอใจต่อรัฐบาลกลางในหมู่ชนชาติส่วนน้อยมุสลิมในซินเจียง พร้อมกันนี้เพโลซีแนะให้จีนเปิดการเจรจากับผู้นำอุยกูร์
ประธานสหภาพยุโรป หรืออียู ก็เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในซินเจียงยับยั้งความรุนแรงเช่นกัน
ด้านกลุ่มอำนาจมุสลิม ได้แก่ องค์การที่ประชุมอิสลามิก หรือ OIC ก็ออกโรงในวันอังคาร(7 ก.ค.) ว่าผู้นำจีนใช้กำลังอย่างไม่เหมาะสม พร้อมเรียกร้องให้จีนไต่สวนเหตุการณ์รุนแรงอย่างซื่อสัตย์ และนำตัวผู้ที่มีส่วนกระตุ้นความรุนแรงมาลงโทษ
โฆษก OIC ยังตอกย้ำถึง “สัมพันธภาพฉันท์มิตรระหว่างรัฐบาลจีนและโฆษกมุสลิมในอดีต พร้อมเรียกร้องผู้นำในปักกิ่งหาทางแก้ไขปัญหาที่กระตุ้นความวุ่นวายโดยตรวจสอบถึงต้นตอที่ทำให้ความวุ่นวายนี้ระเบิดขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มรณรงค์สิทธิมนุษยชนหลายกลุ่ม ต่างแสดงความวิตกถึงชะตากรรมของประชาชน 1,434 คน ที่ตำรวจจับกุมตัวหลังจลาจลเมื่อวันอาทิตย์(5 ก.ค.)
ศึกรุนแรงในอูหลู่มู่ฉี ยังกระตุ้นการประท้วงตามที่ต่างๆ อาทิ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สำนักงานกงสุลของสถานทูตจีนในกรุงเฮกปิดทำการเมื่อวันอังคาร(7 ก.ค.) เพื่อความปลอดภัย หลังจากที่เกิดเหตุกลุ่มประท้วงขว้างปาก้อนหินใส่สำนักงานเมื่อวันจันทร์ ตำรวจดัทช์จับกุมผู้ประท้วงที่ทำลายทรัพย์สินสถานทูตจีน 142 คน
นอกจากนี้ ตำรวจเยอรมนีเผยว่ามีมือมืดขว้างระเบิดเพลิงใส่สถานทูตจีนในเมืองมิวนิกระหว่างคืนวันอาทิตย์ และวันจันทร์ และมีการเผาธงชาติจีนด้วย
ในวันพุธ(8 ก.ค.) ชาวอุยกูร์ในญี่ปุ่นนับสิบคนก็มาชุมนุมประท้วงที่สถานทูตจีนในกรุงโตเกียว และหย่อนจดหมายใส่ตู้รับเอกสารของสถานทูต ส่งสารแก่ผู้นำจีน “หยุดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์ อนุญาตให้สื่อในประเทศและต่างชาติรายงานข่าวอย่างอิสระ”
“จีนบ่มเพาะความเกลียดชังในใจของชาวฮั่น ให้ต่อต้านชาวอุยกูร์ โดยแพร่ข่าวกล่าวหาว่าอุยกูร์เป็นผู้ก่อเหตุความวุ่นวาย” Ilham Mahmut ประธานสมาคมอุยกูร์แห่งประเทศญี่ปุ่น กล่าว