เอเอฟพี – คดีแย่งชิงมรดกนิน่า หวังในศาลฮ่องกงกำลังตกเป็นข่าวครึกโครม การไต่สวน ซึ่งย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 7 ได้สาวลึกถึงข้อมูล ที่ทำให้หลายคนต้องอึ้ง เมื่อมีการเปิดเผยว่า อดีตเศรษฐีนีผู้ร่ำรวยที่สุดของเอเชียยอมทุ่มเงินกว่า 264 ล้านดอลลาร์ให้ซินแสฮวงจุ้ย โดยเชื่อมั่นว่า เขาจะช่วยให้ชีวิตของเธอยืนยาวออกไปได้
ศึกแย่งชิงมรดกเกิดขึ้น เมื่อโทนี่ เฉิง ซินแสฮวงจุ้ย อ้างว่า คุณนายหวังได้ยกอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 13,000 ล้านดอลลาร์ให้ตนแต่เพียงผู้เดียว ก่อนหน้าจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ทำให้ครอบครัวญาติพี่น้องของคุณนายหวังต้องยื่นฟ้องร้องต่อศาล
ในการพิจารณาคดีเมื่อวันจันทร์ (29 มิ.ย.2552) นายเฉิงให้การต่อศาลว่า เขาได้รับเงินจากคุณนายหวัง 3 งวดจากจำนวน 688 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (88,200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ) ในระหว่างปี 2548-2549
แต่ลอว์เรนซ์ ลั่ว ทนายความฝ่ายโจทก์ ซึ่งทำในนามของมูลนิธิการกุศลไชน่าเคม ได้ซักนายเฉิงว่า เหตุใดเขาจึงได้รับเงินมากมายขนาดนั้น
“มันเป็นของขวัญให้ผม เธอเรียกผมว่าเป็นสามีของเธอ เธอรักผม ฉะนั้นมันจึงเป็นของขวัญ” นายเฉิงซึ่งผันจากอาชีพบาร์เทนเดอร์ มาเป็นหมอดูฮวงจุ้ยตอบ และยังอ้างว่าเขาเป็นคนรักของคุณนายหวัง
แต่ทนายลั่วไม่เชื่อโดยระบุว่า จริง ๆแล้ว เงินก้อนดังกล่าวมีการให้ก่อนหน้าช่วงเวลา ที่นายเฉิงระบุ กล่าวคือมีการให้กันในช่วงที่สุขภาพคุณนายหวังกำลังย่ำแย่เต็มที หลังจากแพทย์ตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งเมื่อปลายปี 2547 และคุณนายเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี 2550 ขณะอายุ 69 ปี
ทนายลั่วยังอ้างคำให้การในศาลก่อนหน้านี้ของนายแพทย์ผู้หนึ่ง ซึ่งกล่าวว่านายเฉิง ได้เคยบอกกับผู้ตายว่า เขาสามารถช่วยทำให้สุขภาพของคุณนายดีขึ้นได้ด้วยการนำเส้นผมและเสื้อผ้าของเธอไปยังจีนแผ่นดินใหญ่
มอลลี่ กง น้องสาวของคุณนายหวัง ก็เคยให้การต่อหน้าก่อนหน้านี้เช่นกันว่า นายเฉิงเคยคุยให้เธอฟังว่า เขาสามารถ “พูดกับพระพุทธเจ้า” เพื่อให้คุณนายหวังกลับมามีเรี่ยวแรงกำลังวังชาเหมือนเดิมได้
นอกจากนั้น ทนายลั่วยังระบุหลักฐานเพิ่มเติมว่า มีพยานอีกคนหนึ่งไปสิงค์โปร์กับคุณนายหวัง ซึ่งเข้ารักษาในโรงพยาบาลที่นั่นเมื่อปี 2549 ได้ระบุว่า เธอได้ยินคุณนายหวังพูดโทรศัพท์กับนายเฉิงว่า
“ เธอน่ะไม่ได้เรื่อง ฉันไม่เห็นจะดีขึ้นเลย”
“คุณบอกกับคุณนายหวังว่า คุณมีวิธีต่อชีวิตให้เธอ” ทนายลั่วพูดกับนายเฉิน
แต่นายเฉินปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ระบุว่า เขาไม่มีความสามารถเช่นนั้น
ทนายลั่วระบุว่า พินัยกรรมฉบับปี 2549 ซึ่งยกมรดกก้อนมหาศาลให้นายเฉิงนั้นเป็นของปลอม และถูกร่างขึ้นมาเพื่อให้หมอดูฮวงจุ้ยผู้นี้ “ขายธุรกิจไชน่าเคมได้ทีละชิ้นละชิ้น”ซึ่งแตกต่างจากพินัยกรรม ที่คุณนายหวังเขียนขึ้นเมื่อปี 2545 ซึ่งเจาะจงว่า อาณาจักรไชน่าเคมต้องเติบโตต่อไป
ตัวคุณนายหวังเองก็เคยทำศึกแย่งชิงสมบัติของเท็ดดี้ หวัง ผู้เป็นสามี กับพ่อผัวมาแล้วนานถึง 8 ปี หลังจากเท็ดดี้ หวังถูกลักพาตัวเป็นครั้งที่ 2 ในปี 2533 และอีก 9 ปีต่อมา ศาลได้ประกาศให้เขาเสียชีวิต แม้เพื่อน ๆ กล่าวว่า คุณนายไม่เคยล้มเลิกการตามหาสามีก็ตาม โดยคุณนายถูกกล่าวหาว่า ปลอมพินัยกรรมของสามี แต่ในที่สุด เธอก็ชนะคดี
คุณนายหวัง เจ้าของเอกลักษณ์การแต่งตัวด้วยการถักผมหางเปีย นุ่งมินิสเกิร์ต และมีความตระหนี่ถี่เหนียวรู้กันไปทั่ว ได้สร้างบริษัทไชน่าเคมของเท็ดดี้ จนกลายเป็นอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วยทาวเวอร์สำนักงานกว่า 200 หลัง และบริษัทอีก 400 แห่งทั่วโลก
นายเฉิงยังให้การต่อศาลอีกว่า คุณนายหวังเคยบอกกับเขาว่า เธออยากให้เขามาคุมธุรกิจของเธอ และครั้งหนึ่งยังเคยขอให้เขามานั่งในตำแหน่งประธานไชน่าเคมอีกด้วย
ทว่านายเฉิงก็กล่าวต่อไปอีกว่า พินัยกรรมที่ยกมรดกทั้งหมดให้เขานั้น ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่า คุณนายหวังรักเขา “อย่างลึกซึ้งเหลือเกิน”