จีนสั่งบ.รัฐโอนหุ้นป้อนกองทุนบำนาญ อุ้มผู้เกษียณ-รักษาเสถียรภาพตลาด

เอเจนซี – รัฐบาลจีนออกใบสั่งให้วิสาหกิจรัฐโอนหุ้น 10% จากหุ้นไอพีโอทั้งหมดเข้ากองทุนบำนาญ เพื่อช่วยเหลือคนวัยเกษียณที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น และเป็นความพยายามหนึ่งเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มังกร

กระทรวงการคลังร่วมกับคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศจีนเผยได้มีการออกกฎระเบียบใหม่ระบุ วิสาหกิจรัฐที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นหลังจากปฏิรูปโครงสร้างตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นไป หากต้องการกระจายหุ้นสู่สาธารณะครั้งแรก หรือ ทำไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์แดนมังกร จะต้องโอนหุ้น 10% จากหุ้นไอพีโอทั้งหมดให้แก่กองทุนเพื่อความมั่นคงทางสังคมแห่งชาติ (NSSF) ซึ่งเป็นกองทุนบำนาญของประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้เกษียณอายุที่นับวันยิ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดย NSSF จะขยายระยะเวลาห้ามจำหน่ายหุ้น (lock-up perios) เพิ่มเป็น 3 ปีด้วย

มาตรการข้างต้นเป็นความพยายามส่วนหนึ่งในการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบความมั่นคงทางสังคม และช่วยเหลือประชาชนวัยเกษียณ โดยประกาศใช้กับบริษัทที่รัฐควบคุม 131 แห่ง รวมไปถึงบริษัทรัฐรายใหญ่ อาทิ ธนาคารเพื่ออุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ไอซีบีซี), ธนาคารแห่งประเทศจีน,ยักษ์ปิโตรเลียม ซิโนเปค กรุ๊ป และบริษัทประกันภัย ไชน่า ไลฟ์ อินชัวรันซ์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตามราคาตลาดรวม 63,900 ล้านหยวน (9,300 ล้านเหรียญสหรัฐ)

นอกจากนี้มาตรการดังกล่าวยังประกาศขึ้นเพียง 1 วันหลังจากรัฐบาลจีนได้ยกเลิกกฎแช่แข็งการกระจายหุ้นไอพีโอในตลาดภายในประเทศเป็นเวลานานถึง 9 เดือน อันเป็นความพยายามในการเรียกความมั่นใจของนักลงทุนกลับคืนมา โดยปีนี้หุ้นจีนส่งสัญญาณดีพุ่งขึ้นมากกว่า 50% เนื่องจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นตัว

ด้านแหล่งข่าววงในเผยว่า นี่เป็นมาตรการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างเสถียรภาพในระยะยาวให้แก่ตลาดหลักทรัพย์

“มาตรการนี้สะท้อนให้เห็นว่า ทางการให้ความสำคัญต่อเสถียรภาพของตลาด และความสนใจของนักลงทุนหลังจากหุ้นไอพีโอกลับมาเทรดในตลาดจีนได้อีกครั้ง” เฉา เฟิงฉี หัวหน้าศูนย์วิจัยการคลังและตลาดหลักทรัพย์แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งกล่าว

พร้อมมองว่า “หุ้นจะถูกโอนไปให้แก่ NSSF แทนที่จะถูกขาย ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดรอง และการขยายระยะเวลาห้ามจำหน่ายหุ้นเป็นอย่างน้อย 3 ปีนั้น ก็จะกระตุ้นความมั่นใจให้แก่นักลงทุนมากขึ้น คาดว่ามาตรการนี้จะยังประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาดทุนในระยะยาวอย่างมาก”

เช่นเดียวกับ เจ้า ซีจวิ้น ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการคลังจากมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งปักกิ่งที่ระบุว่า “มันเป็นข่าวดีสำหรับกองทุนบำนาญที่ต้องการเงินทุนและการสนับสนุน อีกทั้ง การขยายเวลาห้ามจำหน่ายหุ้นออกไปก็จะช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบจากหุ้นตัวใหม่ที่จะล้นทะลักตลาด และช่วยให้ตลาดปรับตัวรับการทำไอพีโอล็อตใหม่ได้ดียิ่งขึ้น"

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทวิสาหกิจรัฐจีนที่ไปกระจายหุ้นไอพีโอยังตลาดต่างประเทศได้มีการโอนหุ้นบางส่วนมาให้แก่กองทุนบำนาญแล้ว อย่างไรก็ตาม กองทุนบำนาญแห่งชาติ ซึ่งนำเงินไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในและนอกประเทศ เมื่อปลายปี 2551 มีสินทรัพย์ทั้งหมดลดลงจาก 569,200 ล้านหยวนในปีก่อนหน้าเหลือเพียง 562,5000 ล้านหยวนเท่านั้น สืบเนื่องจากปัญหาตลาดหุ้นภายในประเทศร่วงกราวรูดเกือบ 70% ในปีที่แล้ว จากที่เคยทำสถิติสูงสุด 6,124 จุดในเดือนตุลาคมปี 2550