xs
xsm
sm
md
lg

ทีมชาติปิงปองจีนหวังกวาดเหรียญทอง เพื่อเอกลักษณ์ศักดิ์ศรีของชาติจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จาง อี๋หนิง แชมป์ปิงปอง
เอเจนซี่ – ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งปักกิ่งเป็นเจ้าภาพปีนี้ การแข่งขันปิงปองเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ผู้คนแดนมังกรรอลุ้นเต็มที่ เพราะสำหรับชาวจีนแล้ว ปิงปองไม่ใช่เป็นเพียงแค่กีฬา แต่มันคือเอกลักษณ์และความภาคภูมิใจของชาติ ซึ่งมีประชากรถึง 1,300 ล้านคนเลยทีเดียว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นักกีฬาปิงปองทีมชาติจีนทั้ง 6 คนกำลังรู้สึกกดดันแค่ไหน เมื่อการแข่งขันใกล้เข้ามา เพราะนอกจากคาดหวังว่าพวกเขาจะต้องคว้าชัยชนะแล้ว แฟนๆ แดนมังกรยังหวังได้ชมฝีไม้ลายมือในการตบ,สกัด และตัดลูกปิงปองอย่างดุเดือดเผ็ดมันอีกด้วย

“ได้ที่ 2 มันก็เหมือนกับแพ้น่ะแหละ นั่นทำให้การแข่งปิงปองเป็นเรื่องลำบากจริง ๆ ” จาง อี๋หนิง ซึ่งคว้าเหรียญทองประเภทหญิงเดี่ยวและหญิงคู่ในการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงเอเธนส์เมื่อ 4 ปีก่อนระบุ

“’ปิงปองเป็นกีฬาประจำชาติจีน เราถึงได้เผชิญการกดดันมากที่สุด”

สำหรับคนอเมริกันแล้ว โดยทั่วไปมองปิงปองว่าเป็นกีฬาในร่มสำหรับเล่นในวันที่ฝนตก

แต่สำหรับคนจีนแล้ว ปิงปอง หรือเทเบิลเทนนิส มันคือส่วนหนึ่งที่หลอมรวมเป็นเอกลักษณ์ของชาติทีเดียว เช่นเดียวกับหมีแพนด้า, อาหารประจำชาติ และกำแพงเมืองจีน

นอกจากนี้ในประวัติศาสตร์จีนปิงปองยังมีบทบาทอย่างมากในการสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ของจีนด้วย รู้จักกันในนาม "การทูตปิงปอง" โดยขณะนั้นจีนมีความต้องการเปิดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เพื่อคานอำนาจโซเวียตที่ขัดแย้งกับจีนอยู่ในตอนนั้น และจีนไม่สามารถสู้ได้จึงพยายามหาพันธมิตร โดยจีนเปิดฉากความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ด้วยการจัดการแข่งขันปิงปองโลกขึ้นในประเทศ แล้วเชิญตัวแทนนักกีฬาจากสหรัฐฯ เข้าร่วม แล้วจึงเพิ่มระดับเป็นการเชิญผู้นำสหรัฐฯ มาเยือนประเทศจีน

“ปิงปองเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของฉัน เป็นอาชีพ … ณ ตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือฉันต้องเล่นให้ดี” หวัง หนัน นักกีฬาทีมชาติหญิงฝีมือฉกาจกล่าวระหว่างเก็บตัวอยู่ในค่ายฝึกซ้อม ซึ่งใช้เวลาฝึกวันละ 3 ช่วง

ลูกโฟร์แฮนด์, แบ็คแฮนด์, ลูกเซิร์ฟ นักกีฬาทีมชาติจีนตีได้อย่างแม่นยำเหมือนหุ่นยนต์

ความสำเร็จของพวกเขาส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการดำเนินการอย่างเป็นระบบของจีน เริ่มตั้งแต่ค้นหาเด็ก ๆ ที่มีแวว อายุ 5 หรือ 6 ขวบ จากนั้น นำมาฝึกซ้อมด้วยระบบการฝึกซ้อมแบบสหภาพโซเวียต จนกระทั่งปั้นนักกีฬาทีมชาติได้สำเร็จ

นักกีฬาทีมชาติของจีนฝีกซ้อมสัปดาห์ละ 6 วัน กินนอนร่วมกัน มีเวลาส่วนตัวนิดหน่อย และมีงานอดิเรกทำไม่กี่อย่าง ได้แก่ดูทีวี,อ่านหนังสือ,เล่นอินเตอร์เน็ต

หวัง ลีฉิน นักกีฬาปิงปองทีมชาติชายชอบดูหนังเรื่อง “Heroes” และ“Prison Break” ส่วนจางมีนิตยสารคอสโมโปลิแทน 2-3 เล่มอยู่บนหิ้งหัวนอน

“เป็นนักกีฬา คุณสูญเสียอะไรไปเยอะ แต่ได้รับมาน้อยมาก ถ้าฉันเลือกได้อีกครั้ง ก็จะไม่เลือกเป็นนักกีฬาหรอก” จาง วัย 26 ปีบ่น เธอเริ่มเล่นปิงปองก่อนอายุ 5 ขวบ

“ถ้าคุณขี้เกียจไปนิดเดียว คุณก็จะไม่ประสบผลอย่างที่คุณต้องการ”

โปรแกรมการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด ทำให้จีนมีทีมชาติปิงปองแข็งแกร่งที่สุดในโลก และทีมโอลิมปิกจีนคราวนี้มีมืออันดับโลกถึง 4 คน โดยทีมชาติจีนประกอบด้วยหวัง ลีฉิน แชมป์โลกชาย 3 สมัย และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกที่ซิดนีย์ ,หวัง หนัน นักปิงปองหญิง เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัย

ส่วนทีมชาติชายอีก 2 คนคือหวัง หาว และหม่า หลิน และทีมชาติหญิงอีก 2 คนคือจาง และกัว เย่ว์

ขณะที่อดีตนักเล่นทีมชาติจีนคนอื่น ๆ ยังลงแข่งขันในรายการต่าง ๆทั่วโลก

ประวัติศาสตร์มีบทบาทต่อความนิยมกีฬาปิงปอง

กีฬาปิงปองช่วยเปิดประเทศจีนสู่โลกภายนอก โดยการแข่งขัน"ปิงปองเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี” กับสหรัฐฯ ในปี 2514 ทำให้บรรดาผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนยอมเปิดประเทศในที่สุด และอีก 37 ปีต่อมา จีนกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ปิงปองยังเป็นกีฬาง่าย ๆ เล่นได้ทุกวัย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพง จึงเล่นได้ทั้งคนรวยและคนจน

การแข่งขันจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 13 สิงหาคม โดยการแข่งขันปิงปองจัดขึ้นที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยปักกิ่ง และตั๋วขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่เดือนก่อน

จีนหวังกวาดเหรียญทองทั้งหมด 4 เหรียญให้ได้ในการแข่งขันคราวนี้ โดยทีมชาติจีนเคยทำสำเร็จมาแล้วถึง 2 ครั้ง นับตั้งแต่จีนส่งทีมปิงปองเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกในการแข่งขันโซล เกมส์เมื่อปี 2531

และการแข่งขันรอบชายเดี่ยวจะเป็นการแข่งขัน ที่ชาวจีนทั้งประเทศเตรียมลุ้น เพราะจีนเคยพลาดเหรียญทองมาแล้ว2 ครั้ง แต่คราวนี้ คงต้องฝ่าด่านอรหันต์อีกเช่นกัน เพราะมีแชมป์โอลิมปิก ริว ซุง มิน จากเกาหลีลงแข่ง รวมทั้งนักปิงปองยุโรปฝีมือเยี่ยมจากเยอรมนี และเบลารุส

เมื่อถามว่า หากคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ จะถือเป็นความสำเร็จส่วนตัว หรือความสำเร็จของประเทศชาติ หวัง หนัน ตอบอย่างไม่ลังเลว่า

“ประเทศชาติ”

แล้วเธอก็ผงกศรีษะให้ผู้สัมภาษณ์ถามคำถามต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น