เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์--สื่อจีนก็ตกอยู่ในอาการเดียวกับสื่อหลายประเทศที่กำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในยุควิกฤตการเงินโลกนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ประชาชน หรือ People Daily หนึ่งในกระบอกเสียงหลักของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็ประกาศเพิ่มจำนวนหน้าสื่อ พร้อมขยายฝ่ายต่างประเทศ
พีเพิลเดลี่โฉมใหม่มาในรูปลักษณ์อ้วนกว่าเดิม ด้วยจำนวนหน้าหนังสือพิมพ์ 20 หน้า จากเดิม 16 หน้า อัดฉีดคุณภาพสำนักงานต่างๆ 72 แห่งทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายใหญ่หนึ่งคือ ขยายอิทธิพลจีนสู่ประชาคมโลก และรัฐบาลก็ได้อัดฉีดงบประมาณหลายพันล้านหยวนเพื่อบรรลุภารกิจนี้
ผู้อ่านต่างแดนทั่วไปมักหันไปหาสื่อกระแสหลักข้ามชาติมากกว่า ด้วยเงื่อนไขพื้นฐานที่สื่อจีนส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นของรัฐบาล ผู้อ่านจึงมองภาพลักษณ์ของสื่อจีนเป็นกระบอกเสียงของรัฐ และการนำเสนอข่าวสารของสื่อจีนที่ผ่านมานั้น ก็ไม่ผิดอะไรกับกระดานข่าวของรัฐบาล เสนอเนื้อหานโยบายเป็นข้อๆยาวเหยียด แม้นักอ่านตัวยงก็ยังถอย
การควบคุมสื่ออย่างเข้มงวดที่ผ่านมาถึงวันนี้ที่สังคมจีนเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว ก็ยังตอกย้ำภาพลักษณ์กระบอกเสียงรัฐบาลในสื่อจีน นับจากยุคคอมมิวนิสต์เข้มข้น ที่กลุ่มประเด็นอ่อนไหวไม่มีวันได้ปรากฏบนหน้าหนังสือเด็ดขาด อาทิ ประเด็นแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างไปจากแนวของรัฐบาล การประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ หรือประเด็นอื่นๆที่ทำให้รัฐเสียหน้า ฯลฯ
ภาพลักษณ์เหล่านี้ทำให้ผู้อ่านต่างชาติหรือแม้แต่ผู้อ่านในประเทศเมินสื่อจีน และหันไปพึ่งพิงข่าวสารจากสื่อตะวันตกอย่างช่วยไม่ได้
ขณะเดียวกันระบบตลาดก็ขยายตัวมากขึ้น ภาคบริษัทหน่วยลงทุนของรัฐ ก็ทยอยปรับโครงสร้างและเข้าสู่ระบบตลาดมากขึ้น เลิกระบบ “ชามข้าวเหล็ก” โดยเป้าหมายสำคัญคือใช้ระบบตลาดผลักดันประสิทธิภาพ และขณะนี้ก็ถึงคิวของกลุ่มสื่อลุกขึ้นมายกเครื่องปรับโฉมสลัดภาพลักษณ์เก่า ดึงดูดผู้อ่าน และสร้างความเชื่อถือและความสนใจจากผู้อ่านนอกประเทศ ซึ่งเป็นช่องทางให้โลกหันมาฟังเสียงของจีน
จีนเริ่มออกข่าวปฏิรูปสื่อในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยรัฐบาลมีแผนเลิกอุ้มสื่อภายใน 2 -3 ปี และกระตุ้นเหล่าสื่อยักษ์ใหญ่ใช้การตลาดสร้างแรงแข่งขันบนเวทีโลก ปรับโฉมให้ดูอินเตอร์ฯ อันเป็นช่องทางขยายอิทธิพลระดับโลก
หลังออกข่าวปฏิรูปสื่อไม่กี่วัน จีนก็เปิดตัวสื่อของรัฐพากษ์ภาษาอังกฤษน้องใหม่ Global Times ซึ่งเป็นทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และออนไลน์ ออกมาช่วยเสริมแรง China Daily ที่มุ่งกลุ่มเป้าหมายต่างชาติ
ในข่าวเปิดตัว Global Times ระบุว่าสื่อภาษาอังกฤษนี้จะเป็นช่องทางโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์จากต่างชาติ และสร้างชื่อเสียงขยายอิทธิพลจีนสู่นานาชาติ สำหรับเนื้อหาจะนำเสนอประเด็นเหตุการณ์ต่างๆทั่วโลกผ่านแนวคิดทัศนะของจีน
บรรณาธิการ Global Times คือ นายหู ซีจิน เผยเป้าหมายของสื่อใหม่นี้ว่า จะช่วยสร้างสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับต่างชาติ ขยายช่องทางที่สะดวกง่ายดายในการสื่อสารระหว่างจีนกับประชาคมโลก
สื่อของตะวันตกชี้ว่าการเผยแพร่หนังสือพิมพ์ฉบับใหม่นี้ บ่งชี้ว่าจีนกำลังใช้ “อำนาจละมุน” (soft power) ในการขยายอิทธิพล ต้านกระแสวิพากษ์วิจารณ์นานาชาติ และเผยแพร่ทัศนะของผู้นำจีนในประเด็นที่มักทำให้จีนตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ และตกที่นั่งผู้ร้ายในสายตาชาวโลก อาทิ ประชาธิปไตย ความขัดแย้งทิเบต และประเด็นสิทธิมนุษย์ชนอื่นๆ
Global Times จะบรรลุเป้าหมายหรือไม่ ในการฉีกภาพลักษณ์หนังสือพิมพ์ของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องควบคุมสื่อ และสรรค์สร้างความเข้าใจ ก็ขึ้นอยู่กับพีเพิลเดลี่ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ที่อย่างไรก็ตามก็ยังต้องรับผิดชอบรับใช้พรรคคอมมิวนิสต์โดยตรง
สำหรับหนังสือพิมพ์กระแสหลักอื่นๆในดินแดนจีนก็มีการขยายปรับปรุงโฉมกันอย่างคึกคัก อาทิ ยักษ์ใหญ่หนังสือพิมพ์ค่ายฮ่องกง เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ ก็เปิดเผยว่าแผนขยายธุรกิจโดยตั้งงบฯอัดฉีด 45,000 ล้านหยวน (6,600 ล้านเหรียญสหรัฐ)
“อย่าซีซีทีวีเกินไป”
ถึงคิวยักษ์ใหญ่สถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือซีซีทีวี ก็เพิ่งออกข่าวเมื่อไม่นานมานี้ เตรียมปรับแผงรายการครั้งใหญ่ กอบกู้สถานการณ์เรตติ้งดิ่งเหวในรอบ 10 ปี จากการสำรวจความนิยมใน 35 เมืองในจีน ก็พบว่าอัตราผู้ชมรายการโทรทัศน์ซีซีทีวีตกไปถึงร้อยละ 10 เทียบกับร้อยละ 40 ในปี 2541 โดยความนิยมรายการข่าวช่วงไพร์มไทมส์ของซีซีทีวี อยู่ที่ร้อยละ 5.6
ปัจจุบันรายการข่าวของซีซีทีวีที่เสนอในช่วงเวลา 19.30 น.นั้น มุ่งเสนอการทำงานของกลุ่มผู้นำพรรคฯ การปฏิบัติภารกิจของกลุ่มผู้นำสูงสุดอย่างประธานาธิบดีหู จิ่นเทา จากนั้นก็เป็นประกาศทางการ และประเด็นเศรษฐกิจ แถมผู้ประกาศข่าวก็ขาดลักษณะเฉพาะตัว รายงานข่าวอย่างเคร่งขรึมเกินไป จนชาวจีนนำมาเป็นสำนวนล้อคนที่เคร่งขรึมจริงจังเกินไป ว่า “อย่าซีซีทีวีเกินไป”
ด้วยเหตุนี้ ผู้ชมแดนมังกรจึงหันไปหาสื่ออื่นที่มีสีสันมากกว่าในการติดตามข่าวสาร เสพรายการบันเทิง กีฬา และอื่นๆ อาทิ เว็บท่าใหญ่Sohu.com ,Sina.com สถานีเคเบิลทีวี และสื่ออินเทอร์เน็ตแทน