xs
xsm
sm
md
lg

ทนายความมุสลิมแฉเจ้าหน้าที่รัฐละเมิดกฎหมายใน 3 จชต.แต่ไม่ถูกลงโทษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทนายความมุสลิมเผยเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนในการละเมิดกฎหมายใน 3 จังหวัดใต้ ระบุกฎหมาย 3 ฉบับ ที่ประกาศใช้มีทั้งละเมิดรัฐธรรมนูญ คุกคามสิทธิชาวบ้านแต่ไม่เคยถูกลงโทษในทุกกรณี ด้านสื่ออิสระเผยสื่อมวลชนถูกปิดกั้นอ้างเป็นเครื่องมือผู้ก่อการ

ในงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ “การเข้าถึงสิทธิมนุษยชนของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ท่ามกลางกฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ” จัดโดยสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) และเครือข่ายฯ ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ กรรมการบริหารศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดยะลา กล่าวว่า ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา รัฐไม่เคยยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้มีการละเมิดกฎหมาย และไม่เคยมีเจ้าหน้าที่คนใดได้รับโทษทางกฎหมาย ทั้งกรณีเล็กๆ หรือกรณีใหญ่อย่างเหตุการณ์ที่อำเภอตากใบ หรือที่มัสยิดกรือเซะ ที่มีความผิดชัดเจน อ้างเพียงว่ามีการลงโทษแล้ว แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการลงโทษอย่างไร และเมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึกในปี 2547 ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจในการกักตัวตรวจค้น หรือขับไล่ไม่ให้อยู่ในพื้นที่ โดยอ้างว่าส่งไปฝึกอาชีพ ถือเป็นการละเมิดและลบล้างสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ และทำให้การเข้าถึงสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาถูกหักล้างด้วยกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ นอกจากนี้ องค์กรที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนหรือชาวบ้านยังถูกปิดกั้นจากเจ้าหน้าที่รัฐเพราะถูกหวาดระแวง เช่น การถูกตั้งคำถามจากเจ้าหน้าที่ว่าจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหรือสร้างปัญหา

นายอภิศักดิ์ สุขเกษม หัวหน้าโครงการสื่อสันติภาพเพื่อลดความรุนแรง กล่าวว่า ขณะนี้การเยียวยาสถานการณ์ใน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังไม่สามารถเข้าถึง ทั้งนี้ ภายหลังการใช้กฎหมายพิเศษทั้ง 3 ฉบับ มีเจ้าหน้าที่เข้าไปจู่โจม ตรวจค้น ชาวบ้านมากขึ้น ภายใต้แผน “ยุทธการพิทักษ์แดนใต้” ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ส่วนหน้าพบว่ามีการจับกุมชาวบ้านมากถึง 4,700 คน แต่มีเพียง 200 คนเท่านั้นที่ถูกดำเนินคดี ขณะที่สื่อมวลชนกลับถูกเจ้าหน้าที่รัฐตั้งสมมติฐานว่าเป็นเครื่องมือของผู้ก่อการ ทำให้มีการควบคุมสื่อและปิดกั้นข้อมูล นอกจากนี้ ยังพบว่าการที่มีทหารเข้ามาในพื้นที่มากเกินไป ทำให้เพิ่มความหวาดระแวงของชาวบ้านมากยิ่งขึ้น หลายพื้นที่ เช่น โรงเรียน วัดหรือมัสยิด กลายเป็นสถานที่ร้างชาวบ้านไม่กล้าเข้าเพราะทหารไปตั้งค่ายอยู่ จึงอยากเสนอให้หลายพื้นที่เป็นพื้นที่สีเขียว หรือเขตปลอดความรุนแรงโดยที่ทหารไม่ต้องเข้าไปใกล้ๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น