เดอะ วอลสตรีท เจอร์นัลด์ - นโยบายสนับสนุนตลาดรถยนต์จีนสัมฤทธิ์ผล ผลักดันยอดขายเดือนพฤษภาคมขยับขึ้นร้อยละ 46.8
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนเปิดเผย ยอดขายรถยนต์เดือนที่แล้วยอดรวม 1.12 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.8 ตรงข้ามกับยอดขายของสหรัฐฯ ในเดือนเดียวกันที่ตกฮวบลงร้อยละ 34 เหลือเพียง 925,824 คันเท่านั้น
“ด้วยลักษณะการแกว่งตัวในปัจจุบัน ผมเชื่อว่ายอดขายรถยนต์ของจีนมีโอกาสแตะ 10 ล้านคันได้อย่างง่ายดาย สำหรับจีนปีนี้ยอดขายต้องกระฉูดอย่างไม่ต้องสงสัย” จอห์น เจิง นักวิเคราะห์จากโกลบอล อินไซท์เผย
โดยเมื่อปี 2551 ยอดขายรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 แตะ 9.38 ล้านคัน และยอดขายโดยรวม 5 เดือนแรกของปีนี้ก็เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 14 ขึ้นมาอยู่ที่ 4.96 ล้านคัน ตามข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน
ข้อมูลล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคจีนยังคงตอบรับมาตรการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ขนาดเล็กไม่เกิน 1.6 ลิตรที่รัฐบาลประกาศใช้ไปเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยการอัดฉีดเงินช่วยเหลือและลดภาษีซื้อรถ โดยรถมินิบัส ซึ่งได้รับประโยชน์จากมาตรการข้างต้นโดยตรง มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 84 ในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 172,600 คัน
ส่วนยอดขายรถประเภทอื่นๆ นั้น ก็ปรับตัวขึ้นตามเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 เป็น 591,300 คัน และรถยนต์อเนกประสงค์เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เป็น 47,700 คัน
จะเห็นได้ว่ายอดขายรถในประเทศจีนปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยอดขายในประเทศพัฒนาแล้วกลับตกฮวบ ดังเช่นประเทศญี่ปุ่นซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วมีการลงทะเบียนรถยนต์ใหม่ลดลงร้อยละ 19 เหลือ 178,503 คัน ขณะที่ในยุโรปลดลงร้อยละ 12 เหลือ 1.25 ล้านคันในเดือนเมษายน
เจิงให้สัมภาษณ์ว่า ผลจากมาตรการกระตุ้นตลาดนี้สร้างความประหลาดใจแก่อุตสาหกรรมไม่น้อย เนื่องจากเมื่อช่วงต้นปีแหล่งข่าววงในและนักวิเคราะห์ต่างพากันคาดการณ์ว่า ยอดขายรถในปีนี้จะขยายตัวเพียงแค่ตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น
ด้านจาง ซิน นักวิเคราะห์ นักวิเคราะห์จากบริษัทกั๋วไท่ จี๋ว์หนัน แสดงความเห็นว่า “ดูเหมือนว่ามาตรการกระตุ้นยอดขายของรัฐบาลยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของยอดขายรถในเดือนพฤษภาคม หลายคนที่ตั้งใจชะลอแผนซื้อสินค้าราคาแพงก็เปลี่ยนใจ ส่วนคนที่ไม่มีแผนจะซื้อรถยนต์ก็เปลี่ยนมาให้ความสนใจมากขึ้น”
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนเปิดเผย ยอดขายรถยนต์เดือนที่แล้วยอดรวม 1.12 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.8 ตรงข้ามกับยอดขายของสหรัฐฯ ในเดือนเดียวกันที่ตกฮวบลงร้อยละ 34 เหลือเพียง 925,824 คันเท่านั้น
“ด้วยลักษณะการแกว่งตัวในปัจจุบัน ผมเชื่อว่ายอดขายรถยนต์ของจีนมีโอกาสแตะ 10 ล้านคันได้อย่างง่ายดาย สำหรับจีนปีนี้ยอดขายต้องกระฉูดอย่างไม่ต้องสงสัย” จอห์น เจิง นักวิเคราะห์จากโกลบอล อินไซท์เผย
โดยเมื่อปี 2551 ยอดขายรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 แตะ 9.38 ล้านคัน และยอดขายโดยรวม 5 เดือนแรกของปีนี้ก็เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 14 ขึ้นมาอยู่ที่ 4.96 ล้านคัน ตามข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน
ข้อมูลล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคจีนยังคงตอบรับมาตรการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ขนาดเล็กไม่เกิน 1.6 ลิตรที่รัฐบาลประกาศใช้ไปเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยการอัดฉีดเงินช่วยเหลือและลดภาษีซื้อรถ โดยรถมินิบัส ซึ่งได้รับประโยชน์จากมาตรการข้างต้นโดยตรง มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 84 ในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 172,600 คัน
ส่วนยอดขายรถประเภทอื่นๆ นั้น ก็ปรับตัวขึ้นตามเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 เป็น 591,300 คัน และรถยนต์อเนกประสงค์เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เป็น 47,700 คัน
จะเห็นได้ว่ายอดขายรถในประเทศจีนปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยอดขายในประเทศพัฒนาแล้วกลับตกฮวบ ดังเช่นประเทศญี่ปุ่นซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วมีการลงทะเบียนรถยนต์ใหม่ลดลงร้อยละ 19 เหลือ 178,503 คัน ขณะที่ในยุโรปลดลงร้อยละ 12 เหลือ 1.25 ล้านคันในเดือนเมษายน
เจิงให้สัมภาษณ์ว่า ผลจากมาตรการกระตุ้นตลาดนี้สร้างความประหลาดใจแก่อุตสาหกรรมไม่น้อย เนื่องจากเมื่อช่วงต้นปีแหล่งข่าววงในและนักวิเคราะห์ต่างพากันคาดการณ์ว่า ยอดขายรถในปีนี้จะขยายตัวเพียงแค่ตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น
ด้านจาง ซิน นักวิเคราะห์ นักวิเคราะห์จากบริษัทกั๋วไท่ จี๋ว์หนัน แสดงความเห็นว่า “ดูเหมือนว่ามาตรการกระตุ้นยอดขายของรัฐบาลยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของยอดขายรถในเดือนพฤษภาคม หลายคนที่ตั้งใจชะลอแผนซื้อสินค้าราคาแพงก็เปลี่ยนใจ ส่วนคนที่ไม่มีแผนจะซื้อรถยนต์ก็เปลี่ยนมาให้ความสนใจมากขึ้น”