เอเอฟพี – หมู่นี้ฝูงหมาออกอาละวาด ขย้ำแกะของชาวบ้านเขตมองโกเลียตอนในถี่ขึ้นทุกที
“พวกมันมากันตอนกลางคืน แต่คุณไม่ได้ยินเสียงมันหรอก ถ้าเมื่อไรได้ยินอะไรละก้อ เป็นเสียงแกะร้อง ถึงตอนนั้น ก็สายไปแล้ว” เดลเจอร์ ชายมองโกล วัย 44 ปี กล่าวพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ ท้องทุ่งกว้าง มีไม้เท้าเป็นอาวุธคู่กายเพียงอย่างเดียวสำหรับปกป้องฝูงแกะจากศัตรูมรณะ ที่กำลังซุ่มอยู่ ณ ที่ใดสักแห่ง
สองปีที่ผ่านมา แกะของเดลเจอร์ ที่มีอยู่ 40 ตัว ตกเป็นเหยื่ออันโอชะไปแล้ว 6 ตัว
ทว่าเดลเจอร์กับพรรคพวกหมดปัญญาต่อกร เพราะทุกวันนี้ หมาป่าเป็นสัตว์ ที่ได้รับการคุ้มครองในจีน
ผิดกับในยุคของเหมา เจ๋อตง ตอนนั้น ฝูงหมาป่าถูกไล่ล่าซมซาน จนเกือบสูญพันธุ์ ท่านประธานเหมาต้องการกำจัดพวกมัน เพราะเห็นว่าเป็นอุปสรรคในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งจะสร้างจีนให้กลายเป็นดินแดนยูโทเปีย
ฝูงหมาป่าโจมตีหนักข้อขึ้น กระทั่งทางการเขตอัลซา (Alxa)ต้องสร้างรั้วยาว 100 กิโลเมตร ใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐมองโกเลีย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถสกัดกั้นกองโจรหน้าขน ที่ในช่วง 2 ปีก่อน โชว์ฝีมือ ปล้นแกะไปจากคนเลี้ยงสัตว์ในเขตอัลซา กว่า 600 ตัว อูฐอีกกว่า 300 ตัว
เมื่อเดือนธันวาคม เจ้าหมาป่าตัวหนึ่งยังปรากฏกายให้คนเห็นแถวกำแพงเมืองจีน ห่างจากกรุงปักกิ่งแค่ 50 กิโลเมตร ก่อนหน้านั้น ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
ทำไมพวกมันถึงได้กล้าขนาดนี้? ปริศนา ที่ยังไม่ได้รับคำอธิบายกระจ่างแจ้ง
จากรายงานของรัฐบาลและสื่อรัฐ อ้างถึงดัชนีทุกตัว ที่ระบุว่าประชากรหมาป่ากำลังขยายเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากมาตรการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
แต่เกา จงซิ่น โต้แย้งด้วยเหตุผลตรงกันข้าม !
เกาเป็นผู้เชี่ยวชาญ กำลังศึกษาเรื่องหมาป่าอาละวาดให้กับสถาบันป่าไม้แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเขาชี้ว่า เนื่องมาจากการเสื่อมโทรมลงของสิ่งแวดล้อม การขยายตัวของทะเลทราย และการบุกรุกของมนุษย์ จนทำให้เหยื่อในธรรมชาติร่อยหรอ
อย่างไรก็ตาม หมาป่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกของชาวมองโกล ซึ่งมีธรรมเนียมการสร้างรูปบูชาหมาป่าเป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณกาล
จอมจักรพรรดิเจงกิสข่านแห่งมองโกลสร้างกองทัพอาชาว่องไวปานสายฟ้าแลบได้ ก็เพราะจำลองแบบมาจากฝูงหมาป่า จนในที่สุดสามารถรวบรวมดินแดน จนกลายเป็นมหาจักรวรรดิ
ชนเผ่าเร่ร่อนมองโกลรบรากับหมาป่า เพื่อปกป้องฝูงสัตว์เลี้ยงมานานหลายศตวรรษ ทว่าขณะเดียวกันก็เคารพยกย่องให้พวกมันเป็นผู้พิทักษ์แห่งทุ่งหญ้า
“ฝูงหมาป่าคือหัวใจวัฒนธรรมแห่งมองโกล แต่เรื่องราวเหล่านี้ หลงเหลือน้อยลงในปัจจุบัน คนมองโกลรุ่นหนุ่มสาวทุกวันนี้ไม่ได้ยินเรื่องราวเก่า ๆ เกี่ยวกับหมาป่ากันอีกแล้ว” หลี่ว์ เจียหมิน ชาวจีนเชื้อสายฮั่นระบุ
เขาใช้ชีวิตคลุกคลีกับคนเลี้ยงสัตว์มองโกลในสมัยการปฏิวัติวัฒนธรรม และเล่ารายละเอียดความเชื่อมโยงด้านจิตวิญญาณระหว่างชาวมองโกลกับหมาป่าไว้ในหนังสือเรื่อง “วูล์ฟ โทเทิม” (Wolf Totem) หรือ “รูปบูชาหมาป่า”
หลี่ว์เห็นด้วยว่า การอาละวาดถี่ขึ้นบ่งชี้ว่าพวกมันกำลังถูกกดดัน ซึ่งเป็นลางร้ายสำหรับชนกลุ่มน้อยเชื้อสายมองโกลจำนวน 6 ล้านคนในจีน โดยหลายคนระบุว่า วัฒนธรรมของตนกำลังสูญหายไปอย่างรวดเร็วภายใต้การปกครองของจีน
จนถึงขณะนี้ ข้อเสนอให้มีการผ่อนปรนการห้ามล่าหมาป่า ยังไม่คืบหน้า!
เดลเจอร์จึงต้องต้อนฝูงแกะ มาไว้ใกล้บ้าน ไม่ปล่อยให้ออกท่องเที่ยวหากินในตอนกลางคืนอีก
เดลเจอร์ยังถูกกดดันจากราคาเนื้อแกะที่ตกต่ำ ส่วนสัญญาของรัฐบาลที่ว่าจะจ่ายเงินชดใช้ให้สำหรับแกะ ที่ถูกหมาป่าฉกไป จนบัดนี้ ยังไม่เห็นเงินสักหยวน
“พวกมันเคยล่าสัตว์ป่า” เขาพูดถึงฝูงหมาป่า
“แต่ตอนนี้ พวกมันกำลังล่าเรา”