เอเจนซี – เอฟดีไอในจีนลดลงอีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้ ถือเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุ ตัวเลขการลงทุนในเดือนมีนาคมยังดีกว่าช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ถือเป็นนิมิตหมายว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวแล้ว
ทั้งนี้ การสรุปสภาวการณ์ทางเศรษฐกิขของกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุด้วยว่า มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment – FDI) ในเดือนมีนาคมคิดเป็น 84,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดลง 9.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในไตรมาสแรกของปีนี้มีมูลค่า 21,780 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดลง 21 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าการลงทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ดี นายเหยา เจี่ยน โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ระบุว่า เมื่อดูภาพรวมของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่า อัตราการลงทุนที่ลดลงในเดือนมีนาคมคือ 9.5 เปอร์เซ็นต์ ยังดีกว่าเดือนกุมภาพันธ์ที่ลดลง 16 เปอร์เซ็นต์ และเดือนมกราคมที่ลดลงถึง 26 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนมากกว่า
นายเหยา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นโยบายกระตุ้นการส่งออกของรัฐบาลจีนก็เริ่มจะเห็นผล โดยตัวเลขจากสำนักงานศุลกากรจีนที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า มูลค่าการส่งออกในเดือนมีนาคมคิดเป็น 90,920 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดลง 17 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าส่งออกในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าคิดเป็น 71,730 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดลง 25 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าการนำเข้าในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกในเดือนมีนาคมยังมีมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์
นายเหยา ยังย้ำด้วยว่า ทางการจีนจะยังควงมาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออก อย่างเช่นการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่แม้บางครั้งจะถูกวิจารณ์ว่าเป็นการอุดหนุนการส่งออก แต่มาตรการดังกล่าวก็ยังอยู่ในกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (WTO) พร้อมกันนี้ก็ได้เตือนว่า หากสหรัฐฯ จะออกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดแก่ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าของจีน ก็จะส่งผลร้ายต่อความสัมพันธ์ทางการค้าจีน-สหรัฐฯ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ ได้ฟ้องร้องผู้ผลิตเหล็กกล้าจากจีนในข้อหาดั๊มพ์ราคาผลิตภัณฑ์ท่อและท่อส่งก๊าซที่ทำจากเหล็กกล้าในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งทางการจีนก็ได้เตรียมส่งตัวแทนไปเจรจากับสหรัฐฯ ในเรื่องนี้ ทั้งนี้ นายเหยา ระบุว่า ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ การส่งออกเหล็กกล้าไปยังตลาดสหรัฐฯ ของจีน มีอัตราลดลง 55 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนนอกจากสหรัฐฯ แล้ว ทางการจีนยังจะส่งตัวแทนไปยังฝรั่งเศส เพื่อเจรจาเรื่องการค้าขาย
นายเหยา เจี่ยน ยังได้กล่าวถึงทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนว่ายังอยู่ในระดับที่มั่นคง อันเนื่องมาจากการเกินดุลทางการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันจีนก็ใช้เงินเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ลงทุนในต่างประเทศ
สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในจีนของบริษัทอื่นๆ นั้น บริษัทคิงฟิชเชอร์ ผู้ค้าปลีกของตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดในยุโรป มีแผนการว่าจะปิดร้านค้าปลีกกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนร้านค้าที่มีอยู่ในจีน หลังจากประสบภาวะขาดทุนอันเนื่องมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลง
ขณะที่บริษัทเวิร์ลพูลแห่งหสรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังจะปิดโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าในนครเซี่ยงไฮ้ และยุบมารวมกับโรงงานของหุ้นหุ้นส่วนจีนที่อยู่ในมณฑลเจ้อเจียง และยังมีแผนว่าจะปลดคนงานอีก 600 ราย ทั้งนี้ ยักษ์ใหญ่เวิร์ลพูลได้ร่วมทุนกับบริษัทไหซิ่น เค้อหลง อิเล็กทรอนิกส์ โฮลดิ้ง ในปี 2551 และถือครองกรรมสิทธิ์ 50 เปอร์เซ็นต์ในหุ้นของบริษัท เพื่อร่วมผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าและตู้เย็น
นอกจากนี้ สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังเห็นได้จากยอดขายรถกระบะและอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น การปล่อยเงินกู้มีมากขึ้น และการบริโภคภายในประเทศที่สูงขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ใช้เงินจำนวน 2 หมื่นล้านหยวน (ราว 92,000 ล้านบาท) เพื่ออุดหนุนการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเช่นทีวีและตู้เย็นในเขตชนบท โดยโครงการเพิ่มแรงซื้อในชนบทนี้ จะช่วยผู้ผลิตสินค้าต่างชาติ อาทิ โนเกีย และซัมซุง เป็นต้น
จากการคาดการณ์ของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ระบุว่า เมื่อปีที่แล้วตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในทั่วโลก มีมูลค่ารวม 1.4 ล้านล้านหยวน หรือลดลง 21 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน อันเนื่องมาจากปัญหาสินเชื่อ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และกำไรที่ลดลงและในปีนี้ตัวเลขการลงทุนยังจะลดลงอีก
