นายกฯจีนย้ำเพิ่มลงทุนกระตุ้นศก. ตลาดหุ้นดีดตัวรับประชุมสภาปชช.

เอเจนซี – นายกรัฐมนตรีจีน เวิน เจียเป่า แถลงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนยืนยันว่า รัฐบาลจีนจะเพิ่มการลงทุนในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังชะลอตัว ขณะตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นขานรับการประชุม เนื่องจากทั่วโลกตั้งความหวังว่าการประชุมครั้งนี้จีนจะคลอดมาตรการต่างๆ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลกออกมา

นายกรัฐมนตรี เวิน เจียเป่า แถลงรายงานการทำงานว่าด้วยภารกิจและโครงการของรัฐบาลในปี 2552 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (CNPC) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5 มี.ค.) ว่า “เรากำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากและความท้าทายอย่างไม่เคยมีมาก่อน วิกฤตการเงินโลกยังคงแผ่ขยายและเลวร้ายขึ้น”

แต่เวินก็ยืนยันว่า รัฐบาลจะเพิ่มการลงทุนในปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังชะลอตัว โดยรายงานระบุว่า รัฐบาลจีนซึ่งเพิ่งจะทุ่มงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไป 130,000 ล้านหยวนในไตรมาสนี้กำลังเตรียมอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของโลก หลังจากที่ยอดการส่งออกของจีนอันเป็นรายได้สำคัญของประเทศลดลงอย่างมาก จนฉุดให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลดลงมาอยู่ที่ 9% ต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี และทำให้แรงงานที่อพยพย้ายถิ่นจากชนบทเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่กว่า 20 ล้านคนต้องตกงาน

นอกจากนี้เวินยังให้คำมั่นต่อที่ประชุมว่า รัฐบาลจะรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ไว้ที่ 8% แม้ว่าก่อนหน้านี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของจีนในปีนี้น่าจะเติบโตเพียง 6.7% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเจริญเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี

พร้อมทั้งจะสร้างงานใหม่ในเขตเมืองราว 9 ล้านอัตรา โดยจะใช้งบประมาณราว 42,000 ล้านหยวน โดยปัญหาคนตกงานในจีนเป็นปัญหาที่รัฐบาลกังวลและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความต้องการสินค้าจีนจากทั่วโลกลดลง ส่งผลให้ผู้ผลิตหลายรายตัดสินใจเลิกจ้าง

“ประเทศจีนเป็นประเทศกำลังพัฒนาและมีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคน ดังนั้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะกระตุ้นการจ้างงานทั้งในเมืองและชนบท ตลอดจนยกระดับเงินเดือนประชาชน และสร้างความมั่นคงให้แก่สังคมมากยิ่งขึ้น” คำกล่าวของเวินนี้สอดคล้องกับความคิดของเจ้าหน้าที่รัฐก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หากต่ำกว่า 7% ก็จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงในสังคม

ขณะเดียวกันรัฐบาลก็จะทุ่มงบประมาณในด้านความมั่นคงทางสังคมเพิ่มขึ้น 17.6% เป็น 293,000 ล้านหยวน เพิ่มงบประกันสุขภาพ 38.2% เป็น 118,100 ล้านหยวน และเพิ่มงบทางทหาร 15.3% เป็น 472,900 ล้านหยวน

อย่างไรก็ตาม นาย เอแวนส์ นักวิเคราะห์ด้านยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจแห่ง State Street Global Markets ในฮ่องกงออกมาแสดงความเห็นโดยระบุว่า การประกาศเพิ่มการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของนายเวิน เจียเป่าในครั้งนี้ น่าจะมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่การสร้างงานเป็นอันดับแรก แต่นายเอแวนส์กลับมองว่า รัฐบาลจีนจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศมากกว่า เพื่อชดเชยรายได้จากการส่งออกของเล่น สิ่งทอ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ชะลอตัวจากผลของวิกฤตเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับ 3 รองจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ดังนั้นทั่วโลกต่างพากันจับตามองการประชุมสภาฯ ของจีนอย่างใกล้ชิด ด้วยความหวังว่าจีนจะประกาศนโยบายและแผนการใหม่ ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของโลกได้อีกครั้ง ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกก็ต่างปรับตัวขึ้นขานรับการประชุมของจีนด้วย

ดังเช่น ตลาดหุ้นจีนเมื่อวันพฤหัสบดี (5 มี.ค.) ปิดตัวเพิ่มขึ้น 1.04% โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพซิท ซึ่งครอบคลุมหุ้นกระดานเอและบีปิดตัวเพิ่มขึ้น 22.97 จุดแตะ 2,221.08 มีปริมาณการซื้อขาย 154,400 ล้านหยวน (22,600 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่ดัชนีนิเคอิปรับขึ้น 142.53 จุดปิดตลาดที่ 7,433.49

แม้ว่าวันพฤหัสบดีเวินเพียงออกมาย้ำถึงเป้าหมายเศรษฐกิจขยายตัว 8% แต่ไม่มีรายละเอียดงบประมาณชุดใหม่ออกมา แต่หลี่ เหนียน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เซินอิ๋นวั่นกั๋ว ซีเคียวริตี้ส์ ก็ให้สัมภาษณ์แก่ดาวโจนส์ว่า “แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เห็นแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ในวันนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรตามมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”