เอเยนซี – รัฐบาลจีนยอมเผยรายละเอียดแผนใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล หลังจากมีเสียงเรียกร้องจากนักท่องเว็บหลายล้านคนที่หวั่นเกรงว่าอาจเป็นช่องทางคอร์รัปชัน นักสังเกตการณ์ ระบุ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้เพิ่มอำนาจต่อรองให้ชาวจีน
โดยข้อมูลการใช้เงินจำนวน 4 ล้านล้านหยวน (ราว 18.4 ล้านล้านบาท) ที่รัฐบาลจีนอนุมัติในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น จะมีการเปิดเผยในเว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (National Development and Reform Commission - NDRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กุมแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีน
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะมีขึ้น หลังจากร่างงบประมาณของรัฐบาล และโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ ได้รับอนุมัติจากสภาประชาชนแห่งชาติจีนแล้ว
“มันเป็นเรื่องเข้าใจได้ ที่ประชาชนแสดงความกังวล ว่า รัฐบาลจะใช้จ่ายเงินจำนวนมหาศาลนี้อย่างไร และข้อมูลเหล่านี้จะได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างแน่นอน” นายมู่ หง รองประธานคณะกรรมาธิการ กล่าว
การที่รัฐบาลจีน ยอมเปิดเผยรายละเอียดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากมีเสียงเรียกร้องจากสาธารณชนนั้น นายหู ซิ่งโต่ว นักสังคมศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีปักกิ่ง มองว่า ปรากฏการณ์นี้มีนัยยะสำคัญยิ่ง
“ความก้าวหน้าของอินเทอร์เน็ตในจีน ทำให้สาธารณชนสามารถใช้เวทีนี้ เพื่อตรวจสอบและต่อรองกับหน่วยงานของรัฐได้ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมของจีนกำลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยความตึงเครียด จนทำให้รัฐบาลต้องหันมารับฟังความคิดเห็นของสาธารณชนมากขึ้น” นายหู ระบุ
จีนได้ประกาศใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงิน 4 ล้านล้านหยวน เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา โดยหวังที่จะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากวิกฤตการเงินโลก โดยวงเงินที่รัฐบาลอนุมัตินี้จะนำไปใช้ในภาคส่วนเศรษฐกิจต่างๆ 10 ภาคส่วน ในระยะเวลา 2 ปี แผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ชาวจีนจำนวนมากออกมาแสดงความกังวลว่า เงินภาษีของพวกเขาจะถูกใช้ไปอย่างไม่ถูกต้อง และอาจมีการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้น
สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีน ระบุว่า เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา นายเหยียน อี้หมิง นักกฎหมายจากนครเซี่ยงไฮ้ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจีนเปิดเผยรายละเอียดของการใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อสาธารณชน และยังขู่ว่าจะดำเนินคดีหากรัฐบาลเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องนี้
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนหลายล้านคนก็ได้เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการ เปิดเผยรายละเอียดของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเกรงว่า เงินจำนวนมหาศาลนี่จะถูกใช้ไปอย่างไม่ถูกต้อง ด้าน หนังสือพิมพ์ไชน่า ยูธ เดลี่ ก็ได้ระบุไว้ในบทบรรณาธิการ ก่อนหน้านี้ว่า ชาวจีนทุกคนมีสิทธิที่จะรู้ว่ารัฐบาลใช้จ่ายเงินของพวกเขาอย่างไร
เรื่องการคอร์รัปชันในพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้น ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ได้กล่าวไว้ในหลายๆ โอกาสว่า ถือเป็นเรื่องที่คุกคามต่อความชอบธรรมของรัฐบาลจีน
อย่างไรก็ตาม การที่ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอำนาจชี้ขาดตัวเลขเงินที่จะนำมาใช้ แถมยังขาดสื่ออิสระที่จะคอยตรวจสอบ ก็ไม่มีอะไรประกันได้ว่าข้อมูลจะถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด
นายเดวิด ซไวก์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจีน จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวให้เปิดเผยข้อมูลในเรื่องนี้ ได้สะท้อนให้เห็นว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนกำลังเผชิญกับอำนาจของอินเทอร์เน็ต
“รัฐบาลจีนตระหนักเสมอมาว่าอินเทอร์เน็ตจะเข้ามาท้าทายอำนาจรัฐ และได้พยายามที่จะรักษาการผูกขาดการสื่อสารภายในประเทศไว้”
ขณะเดียวกัน นักรัฐศาสตร์ก็กำลังถกเถียงกันว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่น อินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ จะเข้ามามีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในจีน เพราะอุปกรณ์เหล่านี้สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการระดมพลเพื่อผลทางการเมืองได้ ยกตัวอย่างเช่น การชุมนุมเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นเมื่อต้นปี 2548 ตามเมืองใหญ่ๆ หลายแห่ง การจัดการประท้วงครั้งนั้นกระทำโดยผ่านอีเมล์ และการส่งเอสเอ็มเอสทางโทรศัพท์มือถือ
ถึงแม้ว่าหน่วยงานของรัฐบาลจีนจะอนุญาตให้ประชาชนประท้วงได้ แต่ก็เป็นเสมือนการปล่อยให้ไอน้ำออกจากหม้อบ้าง ก่อนที่จะปิดฝาหม้อลงอีกครั้งหนึ่ง เพราะมีหลายครั้งที่หน่วยงานรัฐได้ส่งข้อความหลายล้านข้อความผ่านทางเอสเอ็มเอสเพื่อทำการขัดขวางการประท้วง