จีนโต้"อัลสตอม" พัฒนาเทคโนโลยีรถไฟเองได้

เอเจนซี่ – กระทรวงการรถไฟจีนโต้ข้อกล่าวหาของ อัลสตอม ผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่จากฝรั่งเศส ที่ว่า จีนส่งออกรถไฟ ที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีของชาติตะวันตก และปิดกั้นต่างชาติเข้าไปแบ่งเค้กในตลาดรถไฟ

หวัง หย่งผิง โฆษกกระทรวงการรถไฟของจีน ได้แถลงว่า อุตสาหกรรมรถไฟของจีนสามารถพัฒนานวัตกรรมของตนเองขึ้นมา พร้อมยืนยันว่า บริษัทต่างชาติยังสามารถจะมีส่วนแบ่งในตลาดรถไฟได้

การออกมาโต้ตอบของกระทรวงการรถไฟจีนครั้งนี้ เนื่องมาจาก นาย Philippe Mellier ประธานบริษัทอัลสตอม ทรานสปอร์ต (Alstom Transport) ผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่อันดับสองของโลก จากฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์ผ่านไฟแนนเชียลไทมส์ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ม.ค. เรียกร้องต่างชาติ อย่าซื้อรถไฟจีน เนื่องจากจีนได้ส่งออกรถไฟ ที่ใช้เทคโนโลยีซึ่งต่างชาติได้ถ่ายโอนเทคโนโลยีให้เเก่จีน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าจีนจะไม่นำเทคโนโลยีนี้ ไปใช้นอกประเทศ พร้อมทั้งกล่าวหาว่าจีน กีดกั้นบริษัทต่างชาติเข้าประมูลชิงเค้กตลาดรถไฟ

“เราเชื่อว่า ถ้าหากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอัลสตอม ออกมากล่าวหาทางการจีนเช่นนั้นจริง ก็ถือเป็นพฤติกรรมที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างยิ่ง” โฆษกกระทรวงการรถไฟจีน แถลง โดยมีแถลงการณ์เป็นเอกสารในเว็บไซต์ของกระทรวงฯด้วย

ทั้งนี้ การที่รัฐบาลจีนมีนโยบายที่จะขยายและยกระดับระบบรถไฟของจีน ทำให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนจำนวนมาก โดยหลายปีที่ผ่านมา บริษัทอัลสตอม ของฝรั่งเศส, บริษัท บอมบาร์ดิเออร์ ของแคนาดา และบริษัทซีเมนต์ ของเยอรมัน ได้ชนะการประมูลในการขายและพัฒนารถไฟความเร็วสูง และเทคโนโลยีให้กับจีน

หวัง หย่งผิง โฆษกกระทรวงการรถไฟจีน ระบุว่า ความร่วมมือระหว่างจีนกับต่างชาติถือเป็นการสมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยบริษัทต่างชาติได้เงิน ส่วนบริษัทจีนก็ได้เรียนรู้ว่าจะพัฒนารถไฟความเร็วสูงอย่างไร โดยเทคโนโลยีที่ต่างชาติถ่ายทอดนั้นเป็นรถไฟความเร็วสูงที่ 180 ไมล์ต่อ ชม. (300 กม.ต่อชม.) แต่รถไฟความเร็วสูงรุ่นใหม่นั้นเป็นการพัฒนาขึ้นโดยฝ่ายจีนทั้งหมด โดยมีความเร็วที่ 210 ไมล์ต่อชม. (350 กม.ต่อชม.)

“นวัตกรรมนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของฝ่ายจีนทั้งหมด โดยไม่ได้ขโมยเทคโนโลยีของตะวันตกแต่อย่างใด” หวัง หย่งผิง กล่าว

ทั้งนี้ในปี 2008 รัฐบาลจีนได้ใช้งบประมาณ 330,000 ล้านหยวน (48,350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อก่อสร้างเส้นทางรถไฟ และในปี 2009 รัฐบาลจีนจะทุ่มงบประมาณเพิ่มอีกเกือบ 2 เท่าตัว เพื่อสร้างระบบการขนส่งทางรถไฟที่ทันสมัย และครอบคลุมกว้างขวางมากขึ้น