เอเอฟพี / บีบีซี นิวส์ ผู้ผลิตรถยนต์จีนเปิดตัว “รถยนต์ไฮบริด” ขับเคลื่อนได้ทั้งพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน แซงหน้ายักษ์ใหญ่อย่าง โตโยต้าและจีเอ็ม ตั้งเป้าใช้เทคโนโลยีสะอาด รุกตลาดจีนและโลก
รถยนต์ไฮบริด ที่ขับเคลื่อนได้โดยทั้งพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันนี้ ใช้ชื่อรุ่นว่า F3DM ผลิตโดยบริษัท บีวายดี ออโต้ (BYD Auto) บริษัทรถยนต์สัญชาติจีนที่ถือหุ้น 9.9 % โดย วอร์เรน บัพเฟท มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน
F3DM ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กชาร์ทไฟได้รุ่นแรกของโลกที่ผลิตออกจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ซึ่งเจ้าของรถสามารถเสียบปลั๊กชาร์ทไฟให้กับรถได้ จากทั้งที่บ้าน และสถานีชาร์ทไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ แต่ถ้าหากแบตเตอรี่หมดก็สามารถเปลี่ยนมาใช้น้ำมันได้
หวัง ชวนฝู ประธานของบีวายดี กล่าวกับสื่อจีนว่า บริษัทของเขาและประเทศจีนกำลังอยู่บนเส้นทางที่ก้าวไปสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของโลก
“เครื่องยนต์ไฟฟ้าของ F3DM ทำให้บีวายดี เป็นผู้นำในการเริ่มต้นในตลาดรถยนต์ที่ใช้พลังงานแบบใหม่” หวัง ชวนฝู ประธานของบีวายดี กล่าวระหว่างการเปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวที่เมืองเซินเจิ้น เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.)
บีวายดี เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมา 13 ปีแล้ว และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตแบตเตอร์รี่แบบชาร์ทซ้ำได้ โดยทางบริษัทได้เริ่มต้นผลิตรถยนต์ใน ปี 2003 หลังจากได้ซื้อกิจการบริษัทรถยนต์ที่ล้มละลายแห่งหนึ่งที่เดิมเป็นของรัฐ โดยขณะนี้บีวายดีมีโรงงานขนาดใหญ่เจ็ดโรง และมีพนักงาน 130,000 คน โดยรถยนต์ไฮบริดรุ่น F3DM นี้ ผลิตโดยโรงงานแห่งใหม่ที่เซินเจิ้น ที่เพิ่งเปิดตัวได้เพียง 15 เดือนเท่านั้น
ทั้งนี้ บีวายดี ตั้งเป้าจะก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของบริษัทรถยนต์จีน ภายในปี 2015 และยังหวังว่าจะก้าวไปชิงแชมป์ในตลาดโลกในปี 2025
mycar168.com เว็ปไซต์รถยนต์ของจีน อ้างคำพูดของหวัง ชวนฝู ว่า รถยนต์ไฮบริดนี้จะเริ่มต้นวางตลาดใน 14 เมืองของจีน โดยทางบริษัทตั้งเป้าที่จะขายให้กับบริษัทต่างๆ มากกว่าจะบุกตลาดรถส่วนบุคคล
โฆษกของบีวายดี บอกว่า ขณะนี้ทางสหรัฐอเมริกา กำลังตรวจสอบว่า รถยนต์ F3DM บรรลุมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับตลาดภายในสหรัฐฯหรือไม่ โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯจะเริ่มต้นได้ในปี 2010
“ผมวางเท้าลงบนคันเร่ง และขับไปรอบๆโรงงาน เครื่องยนต์เงียบแต่มีอัตราเร่งที่เหลือเชื่อ เมื่อเทียบกับรถยนต์นั่งทั่วไป” ปีเตอร์ เดย์ ผู้สื่อข่าวของบีบีซี บรรยายถึงความรู้สึกของเขาขณะทดลองขับรถยนต์ไฮบริดรุ่นนี้
ถ้าพูดถึงการส่งออก ช่วงนี้จีนได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย แต่การมีโรงงานที่ดีเยี่ยมและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้บีวายดีเปลี่ยนตัวเองจากผู้ที่รับจ้างผลิตของให้คนอื่น มาเป็นการสร้างรถยนต์ภายใต้ชื่อยี่ห้อของตัวเอง นักวิจารณ์บางคนอาจบอกว่า นี่เป็นการเลียนแบบ แต่ด้วยการเลียนแบบเช่นนี้มิใช่หรือ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นมาแล้ว ผู้สื่อข่าวจากบีบีซี ให้ความเห็น
ก่อนหน้านี้ รถยนต์ไฮบริดรุ่น Prius ที่ผลิตโดยบริษัทโตโยต้า ของญี่ปุ่น ก็มีจำหน่ายในประเทศจีน แต่ F3DM ถือเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกที่ผลิตภายในประเทศจีนทั้งคัน
ต้วน เฉิงอู๋ นักวิเคราะห์จากบริษัทโกเบิล อินไซท์ ประจำเซี่ยงไฮ้ บอกว่า ที่จริงแล้วผู้ผลิตรถยนต์ในจีนรายอื่นๆก็ผลิตรถยนต์ไฮบริดเช่นกัน เพียงแต่ว่าไม่ได้เปิดตัวออกขายกับสาธารณชน
F3DM สามารถเอาชนะโตโยต้า และเจนเนอร์รัล มอเตอร์ได้ในตลาดรถยนต์แบบเสียบปลั๊กชาร์ทไฟ เนื่องจากทั้งสองบริษัทนี้(โตโยต้า และเจนเนอร์รัล มอเตอร์) วางแผนที่จะวางตลาดรถยนต์ไฮบริดที่สามารถชาร์ทไฟจากที่บ้านได้ในปี 2009 และ2010 ตามลำดับ ต้วน เฉิงอู๋กล่าว
รถยนต์ไฮบริดของบีวายดี ซึ่งสามารถวิ่งได้ 100 กม. (62ไมล์) ในสภาวะแบตเตอรี่เต็มคันนี้ มีราคาขายประมาณ 150,000 หยวน (22,000 เหรียญสหรัฐฯ )
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อย่าง ต้วน เฉิงอู๋ ก็ยังสงสัยว่ารถยนต์ไฮบริด F3DM นี้จะประสบความสำเร็จในหมู่ลูกค้าชาวจีนหรือไม่ เพราะราคาเช่นนี้ยังถือว่าแพง
“ในระยะเริ่มต้น ผมไม่คิดว่าลูกค้าชาวจีนจะซื้อรถรุ่นนี้มากนัก แต่ทางบีวายดีต้องการจะใช้มันทดลองทำตลาดดูก่อน แต่ในที่สุดแล้ว รถไฮบริดแบบนี้มีศักยภาพอย่างมากในตลาดจีนและตลาดโลก เพราะเราต่างรู้ดีว่าเราต้องการรถที่ใช้พลังงานแบบใหม่ เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และวิกฤตราคาน้ำมัน” ต้วน เฉิงอู๋ กล่าว
ต้วน เฉิงอู๋ ยังบอกว่า ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนยังตามหลังบริษัทชาติตะวันตกอยู่มากในเทคโนโลยีรถยนต์แบบดั้งเดิม แต่ถ้าใช้เทคโนโลยีไฮบริดแล้วถือว่าอยู่ในระดับเดียวกันทีเดียว
“ผู้ผลิตรถยนต์จีนมีโอกาสที่จะกระโดดข้ามเทคโนโลยีแบบดั้งเดิม และก้าวขึ้นนำในส่วนของรถยนต์ที่ใช้พลังงานใหม่” ต้วน เฉิงอู๋ กล่าว
และหาก บีวายดี สามารถประสบความสำเร็จได้ในตลาดรถยนต์ไฮบริด คำขวัญของบริษัทที่ว่า “สร้างความฝัน” หรือ "Build Your Dream" ก็จะเป็นจริง
