บีบีซี นิวส์/ หนานฟังตูซื่อเป้า – ธนาคารกลางจีนประกาศลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 11 ปี เพื่อเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนับเป็นการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่สี่ ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
การลดดอกเบี้ยจะมีผลในวันนี้ (27 พ.ย.) โดยดอกเบี้ยเงินกู้ระยะเวลาหนึ่งปีจะลดลงเหลือ 5.58% (จากเดิม 6.66%) ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากระยะเวลาหนึ่งปีจะลดลงเหลือ 2.52% (จากเดิม 3.6%) โดยการลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการลดครั้งใหญ่ที่สุด หลังจากเหตุวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียปี 1997
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังสั่งลดวงเงินสำรอง ที่แต่ละธนาคารต้องตั้งไว้เพื่อค้ำประกันเงินกู้ที่ปล่อยออกไปอีกด้วย โดยธนาคารขนาดใหญ่ จะลดวงเงินสำรองลง 1% ส่วนธนาคารขนาดเล็กจะลดวงเงินสำรองลง2%
ธนาคารกลางจีน ประกาศว่า การลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่นี้ เพื่อช่วยรับประกันว่าจะมีสภาพคล่องมากพอในระบบธนาคาร เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งของรัฐบาลกลางและท้องถิ่น
การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นมาตรการเสริม หลังจากรัฐบาลกลางจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ มูลค่า 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 4ล้านล้านหยวน) และรัฐบาลท้องถิ่นต่างก็ออกมาตรการเพิ่มเติมอีกหลายล้านหยวนเช่นกัน
“อัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคมอยู่ที่ 4% ทำให้ต้นทุนการกู้เงินจากธนาคารถูกมาก ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจจีนกู้เงินไปขยายกิจการได้มากขึ้น นอกจากนี้ ก็จะทำให้การออกพันธบัตรของรัฐบาลมีต้นทุนที่ต่ำลงเช่นกันเป็นมาตรการที่ผลักดันในการบริโภคภายในประเทศ และการใช้จ่ายของภาครัฐ กลายเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทนการส่งออกที่ซบเซาลงไป” นักเศรษฐศาสตร์จาก แสตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ให้ความเห็น
ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยของจีนยังมีแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
นักวิเคราะห์หลายคนต่างแปลกใจกับการตัดสินใจลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ของทางการจีน พร้อมระบุด้วยว่านี่คือหลักฐานที่แสดงว่า จีนได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกอย่างอย่างจัง
“การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ถือว่าดุเดือดกว่าที่เคยมีมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนซบเซาลงอย่างมาก” แอนโทนี่ มูห์ ผู้บริหารบริษัท เอที แอสเซ็ท แมนเนจเมนต์ ในฮ่องกง กล่าว
“เพื่อนร่วมงานของผมต่างตกใจกับการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่บอกว่าเศรษฐกิจของประเทศเราน่าเป็นห่วงกว่าที่คาดคิดไว้” หลิว ตงเหลียง ผู้บริหารธนาคารไชน่า เมอร์แชนท์ ในเซินเจิ้น กล่าว
นักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับจีน เพราะราคาสินค้าทั่วโลกต่างลดลง ยอดสั่งสินค้าจีนก็น้อยลงด้วย ซึ่งจะทำให้จีนมีคนตกงานมากขึ้นและอาจเข้าสู่ภาวะเงินฝืด
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อมั่นว่า ทางการจีนตัดสินใจถูกแล้ว เพราะการลดดอกเบี้ยนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนรองรับเศรษฐกิจตกต่ำในปีหน้า ถึงแม้ตลาดอาจจะตกใจในช่วงแรก แต่ในระยะต่อมาการลดดอกเบี้ย บวกกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่รอบด้านของทางการจีนจะช่วยให้เศรษฐกิจจีนเดินหน้าต่อไปได้
