xs
xsm
sm
md
lg

เวินเตือนเศรษฐกิจจีนปีนี้แย่ ปัญหาว่างงานยังเป็นฝันร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เวิน เจียเป่านายกรัฐมนตรีจีนกำลังเจรจากับผู้นำของรัสเซียเพื่อหาแนวทางร่วมในการต่อสู้กับวิกฤติการเงินโลกเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2551 - ภาพ:รอยเตอร์
เอเจนซี่ – ปัญหาพลเมืองแดนมังกรตกงานทำผู้นำจีนนอนไม่หลับ ซึ่งสถานการณ์จะทรุดหนักก่อนถึงตรุษจีน ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าได้ป่าวร้องคนในพรรคคอมมิวนิสต์ให้ตื่นขึ้นได้แล้ว เพราะปี2551เป็นปี ที่เศรษฐกิจจีนย่ำแย่ที่สุด

ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีนเคยตอบคำถามของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิ้ลย บุช อย่างไม่ลังเลระหว่างเยือนกรุงวอชิงตันอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2549 ว่า การว่างงานเป็นปัญหาหนักหนาสาหัสที่สุด ซึ่งทำให้เขาต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก

ขณะนั้นเศรษฐกิจจีนกำลังโตในอัตราตัวเลข 2 หลัก ซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงานอย่างเพียงพอสำหรับผู้หางานใหม่จำนวน 20 ล้านคนในแต่ละปี

แต่มาวันนี้ โรคนอนไม่หลับของผู้นำจีนต้องเข้าขั้นรุนแรงอย่างแน่นอน เนื่องการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของจีนหล่นลงมาอยู่ที่ร้อยละ9 ในไตรมาสสามของปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขประจำไตรมาส ที่ต่ำสุด นับตั้งแต่กลางปี2546 เป็นต้นมา สาเหตุหนึ่ง เนื่องมาจากการชะลอตัวของภาคการส่งออก และคาดว่าตัวเลขจีดีพีจะอยู่ในทิศทางขาลงต่อไป อันเป็นผลจากวิกฤตการเงินโลก ที่ผลักดันให้เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
นักดนตรีอิสระกำลังเปิดหมวกนั่งบรรเลงเอ้อหู เครื่องดนตรีพื้นบ้านของจีนในทางเดินใต้ดินแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง แต่ไร้ซึ่งวี่แววของผู้คนที่จะมาฟังและร่วมบริจาค - ภาพ: เอเอฟพี
โรงงานผลิตสินค้าสำหรับผู้บริโภค เช่นของเล่น หรือสินค้าพลาสติกต้องเลิกกิจการไปแล้วหลายรายในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) นอกจากนั้น ยังคาดว่าโรงงาน 45,000 ราย ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางอุตสาหกรรมทางภาคใต้ในเมืองกวางโจว, ตงกว่าน และเซิ่นเจิ้น จะต้องปิดกิจการถึงราว 9,000 ราย ก่อนหน้าเทศกาลตรุษจีนในปลายเดือนมกราคมจะมาถึง จากการประเมินของสมาคมผู้ประกอบการลงทุนจากต่างชาติของเมืองตงกว่าน อันหมายถึงการตกงานของคนงานจำนวน 2 ล้าน 7 แสนคน ซึ่งเป็นประมาณการณ์ตัวเลขอย่างต่ำ

นายเดวิด ดอลลาร์ หัวหน้าสำนักงานจีนของธนาคารโลกในกรุงปักกิ่งระบุว่า วิกฤตการณ์ดังกล่าวจะเป็นตัวเร่งกระบวนการกำจัดโรงงานระดับล่าง เพื่อก้าวไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตสินค้า ที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ตลอดจนอุตสาหกรรมภาคบริการบนแดนมังกร

“ในแง่หนึ่ง วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นอาจส่งผลดีต่อจีน โดยมีแนวโน้นช่วยปรับดุลภาพทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมการผลิตไปสู่การสร้างงานมากขึ้นในภาคบริการ” ดอลลาร์ระบุ

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์เตือนว่า ถ้าตลาดทุนและตลาดแรงงานในจีนปรับเปลี่ยนเร็วเกินไป ก็อาจเกิดความยุ่งยากขึ้นได้ ดังตัวอย่างกรณีการประท้วงเรียกร้องเงินเดือนของคนงาน 3 พันคน หลังจากโรงงานบริษัทสมาร์ต ยูเนียน กรุ๊ป ในเมืองกว่านตงปิดตัวกะทันหัน และผู้บริหารหนีไปฮ่องกง กระทั่งคณะผู้ปกครองท้องถิ่นต้องประกาศค้ำประกันการจ่ายเงินดังกล่าว ซึ่งมีจำนวนรวมกว่า 3 ล้านดอลลาร์

นอกจากนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลจีนกำลังวิตกกังวลก็คือสักวันหนึ่งการประท้วงทำนองเดียวกันนี้อาจลุกลามไปสู่เมืองใหญ่ และทวีความรุนแรง

ด้านนายกรัฐมนตรีเวินได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ ฉิวซื่อ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้ปี 2551 เป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจจีนเท่าที่เขาเคยจดจำได้ พร้อมกับเตือนว่าสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงอีก

“ความปั่นป่วนทางการเงินและการตกต่ำของเศรษฐกิจโลกกำลังเลวร้ายลงทุกที แรงกดดันของเงินเฟ้อยังคงมีอย่างกว้างขวาง ขณะที่ราคาน้ำมันโลกยังแตะระดับสูง แม้ได้มีการปรับลดลงมาบ้างแล้วก็ตาม”

“ปัจจัยลบทั้งหมดเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบและจะส่งผลกระทบกับจีนต่อไป” เวินเตือน

ในบทความ ซึ่งปรากฏขึ้นในห้วงเวลาที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนชะลอลงมากที่สุดในรอบ 5 ปี เวินยังได้เตือนให้จีนมุ่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอดในปีที่แล้ว นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้กระตุ้นการบริโภคในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออก

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าบทความของเวินพุ่งเป้าเตือนคนในพรรคคอมมิวนิสต์เป็นหลัก เนื่องจากในขณะที่ภัยเศรษฐกิจมาจ่อถึงบ้านแล้ว แต่คนเหล่านี้ยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่อีกว่า เศรษฐกิจจีนจะได้รับผลกระทบระดับใดในท่ามกลางวิกฤตโลกขณะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น