xs
xsm
sm
md
lg

จีนผ่านแผนปฏิรูปใหญ่เกษตร-ชนบท ดันอัตราเติบโตรับมือวิกฤตเงินโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเพิ่งปิดฉากไป
เอเจนซี่ - พรรคคอมมิวนิสต์จีนปิดประชุมใหญ่ ย้ำเศรษฐกิจจีนมั่นคงแข็งแกร่ง ออกนโยบายสำคัญปฏิรูปภาคเกษตร 2020 เกษตรกรหายจน ดันเศรษฐกิจภายในประเทศเติบโตรับมือวิกฤตโลก ส่วนการเงินใช้นโยบายยืดหยุ่น มั่นคง

การประชุมใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนวาระที่สาม สมัยประชุมที่ 17 (中国共产党第十七届中央委员会第三次全体会议) ได้ปิดฉากลงเมื่อวานนี้ โดยสาระของการประชุมเน้นไปที่นโยบายพัฒนาชนบท และนโยบายเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินโลก ทั้งนี้ที่ประชุมพรรคได้อนุมัติแผนปฏิรูปและแก้ไขปัญหาภาคชนบท《中共中央关于推进农村改革发展若干重大问题的决定》ซึ่งตั้งเป้าหมายภายในปี 2020 ภาคชนบทต้องมีหลักประกันทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นสองเท่า

มุ่งใช้เกษตรกร 750 ล้านคนเป็นกลไกหลักในการสร้างเศรษฐกิจ
นโยบายที่ถูกจับตาอย่างมากในการประชุมพรรคครั้งนี้ คือ แผนปฏิรูปเศรษฐกิจภาคเกษตร โดยมีแนวทางหลัก ได้แก่

1. การปฏิรูปสิทธิในที่ดิน ซึ่งอาจเปิดทางให้เกษตรกรซื้อขาย จำนองสิทธิการใช้ที่ดินได้ ซึ่งถือเป็นการผลิกโฉมครั้งใหญ่ของภาคเกษตร

“การรักษาความมั่นคงของภาคชนบท ไม่ได้หมายความว่าระบบสัญญาที่ดินที่มีอยู่มานานแล้ว จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เกษตรกรควรจะมีสิทธิในที่ดินเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้พวกเขาร่วมกันปกป้องที่ดิน เและบุกเบิกที่ดินใหม่ๆเพิ่มขึ้น”
  นักวิชาการ ผู้หนึ่งให้ความเห็น

2. เพิ่มพื้นที่การเกษตร โดยจะมีการจัดแบ่งเขตอนุรักษ์และเขตพื้นที่ใช้งานการเกษตรให้ชัดเจน รวมทั้งจัดวางระบบจัดการที่ดินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. รัฐบาลจะลงทุนภาคการเกษตรมากขึ้น ให้เงินอุดหนุนเกษตรกร ยกระดับราคาสินค้าเกษตร เพื่อสร้างระบบเกษตรอุตสาหกรรม

4. สร้างระบบการเงินเพื่อสนับสนุนภาคการเกษตร โดยทางการจีนตั้งเป้าจะเพิ่มธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ให้มีไม่น้อยกว่า 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ( ในเดือนสิงหาคมปีนี้ มีทั้งสิ้น 61แห่ง) ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงเงินกู้ได้มากขึ้น

ทั้งนี้ผู้นำจีนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จีนยังคงมุ่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน โดยหากทำให้ประชาชน 1300 ล้านคนอยู่ดีมีสุข ก็ถือเป็นคุณูปการต่อโลกแล้ว

ช่องว่างระหว่าง เมืองและชนบท
นับตั้งแต่ปี 1958 รัฐบาลจีนได้ใช้นโยบายที่เรียกว่า “เฉิงเซียงเอ้อหยวน” 城乡二元结构 ซึ่งเป็นการแยกชนบทกับเมืองออกจากกัน โดยใช้ระบบทะเบียนราษฎร์ ทำให้การพัฒนาระหว่างเมืองและชนบทมีความแตกต่างกันมาก คนชนบทลักลอบเข้ามาหางานทำในเมืองมากขึ้น ทั้งๆที่ตามกฎหมายแล้ว การย้ายถิ่นที่อยู่ของผู้ที่มีทะเบียนราษฎร์ ระบุว่า เป็นชาวชนบทนั้นไม่สามารถทำได้

แต่หลังจากนี้ รัฐบาลจีนจะปฏิรูประบบเสียใหม่ โดยจะผ่อนคลายการออกใบอนุญาตอาศัยชั่วคราว และจะเพิ่มการลงทุนในสาธารณูปโภค และการศึกษาของชนบท โดยทุกวันนี้ในแต่ละปี รัฐบาลได้สนับสนุนเงินกว่า 1,000,000 ล้านหยวน เพื่อสนับสนุนให้ชาวชนบทมีสวัสดิการห้าด้าน เท่าเทียมกับชาวเมือง ได้แก่ เงินบำนาญยามชรา, การรักษาพยาบาล, ประกันการว่างงาน, เงินช่วยเหลือยามประสบภัย และเงินอุดหนุนพิเศษ

ทั้งนี้รัฐบาลจีนจะให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโตเคียงคู่ภาคเกษตร ชนบทพัฒนาเป็นเมือง

นโยบายภาคการเงิน – เน้นการเติบโตภายในประเทศ
สำหรับนโยบายภาคการเงินนั้นผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ต่างยืนยันว่า เศรษฐกิจจีนยังคงแข็งแกร่ง และทางการจีนยืนยันคงนโยบายเศรษฐกิจแบบยืดหยุ่น และรอบคอบ โดยมุ่งขยายเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อชดเชยกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และเน้นสร้างความมั่นคงใน 4 ด้าน

“ภาพรวมของประเทศของเราถือว่าดี เศรษฐกิจจะรักษาการเติบโต ภาคการเงินมั่นคง แนวนโยบายพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะนี้ตลาดการเงินโลกเกิดวิกฤต เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ปัจจัยความไม่มั่นคงของเศรษฐกิจโลกมีมากขึ้น ส่วนเศรษฐกิจภายในประเทศของเราก็มีปัญหาสั่งสมหลายอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือต้องทำเรื่องภายในประเทศของเราให้ดี ใช้นโยบายที่ฉับไวและ ต้องรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางการเงิน ความมั่นคงทางทรัพยากร และความมั่นคงทางสังคม”  คำแถลงในการปิดการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้อ้างไว้

ประเทศจีนไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกมากนัก เนื่องจาก ภาคธนาคารและการเงินของจีนยังคงจำกัดตัวอยู่เเต่ในประเทศ แต่สิ่งที่ต้องเตรียมรับมือของผลกระทบจากการส่งออกที่ชะลอตัวลง ซึ่งจะทำให้การใช้หนี้เงินกู้อาจมีปัญหาได้

ทั้งนี้ จีนได้เปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจ จากเดิมที่เน้นกดเงินเฟ้อให้ต่ำ เพื่อรับมือกับราคาอาหารที่แพงขึ้น และรักษาระดับการจ้างงานในประเทศ เปลี่ยนมาเป็นการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น

ธนาคารกลางจีน ได้ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อสร้างอุปสงค์ในประเทศ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้วถึงสองครั้งในรอบไม่ถึงหนึ่งเดือน , ลดการกันสำรองเงินกู้ , เพิ่มเงินคืนภาษีส่งออก, เพิ่มโควตาเงินกู้สำหรับธนาคาร และลดภาษีในการซื้อขายหุ้น เป็นต้น

ส่วนทางภาครัฐ ก็จะเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อัดฉีดเงินสู่ภาคเกษตร ผ่อนคลายกฎระเบียบด้านภาษี และทำให้การกู้ยืมเงินทำได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ต่างจากเดิมที่ทางการจีนเน้นชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจไม่ให้ร้อนแรงจนเกินไป

นักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่า ในปีนี้จีนจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 9 % ลดลงจากปีที่แล้วที่มีอัตราการเติบโตที่ 11.9% แต่ก็ยังถือว่าสูงกว่าหลายประเทศ
สัญญาเช่าและใช้ประโยชน์ที่นา
กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศรับมือวิกฤตโลก
ภาคเกษตรเติบโตคู่ภาคอุตสาหกรรม
ปัญหาปากท้องของประชาชนยังเป็นเรื่องหลัก
กำลังโหลดความคิดเห็น