“พิภพ” เตือน “โกร่ง” ลาก ครม.เข้าคุก-จับตารัฐเผด็จการยึดคลื่นความถี่

“พิภพ” เชื่อ “พปช.” แตกแน่ หลัง “อ้อ” ถูกสั่งจำคุก คาด “หมัก-เนวิน” จับมือแยกขั้วชิ่งหนี “แม้ว” เตือน “โกร่ง” นั่งเป็นที่ปรึกษา ลาก ครม.ทั้งคณะเข้าคุก หากมีข้อมูลลับภาครัฐรั่วไหล แฉธาตุแท้เผด็จการโผล่อีก "หุ่นเชิด"จ้องฮุบคลื่นวิทยุ-ทีวี โละกรรมการอิสระ ตามมาตรา 41 ตั้งหน่วยงานรัฐคุมแทน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

เวลา 21.00 น. วันที่ 7 ส.ค.นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชน ขึ้นเวทีปราศรัยที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า การเมืองของเราตอนนี้กำลังดำเนินต่อไป และได้ผลขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น วันนี้มีข่าวดีที่บอกได้เลยว่าพรรคพลังประชาชนแตกแล้ว เพราะคุณหญิงพิจมาน ชินวัตร ถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีเลี่ยงภาษี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะโดนด้วยหรือไม่ ทำให้อำนาจในรัฐบาลแตกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของนายสมัคร สุนทรเวช และนายเนวิน ชิดชอบ จะร่วมมือกันสร้างฐานเสียงตัวเองเพื่อกลับมาเป็นรัฐบาลใหม่ ขณะที่ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ และนายยงยุทธ ติยะไพรัช มองถึงแผนตั้งพรรคใหม่เพื่อกลับมา ขณะเดียวกันก็มีคนอย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่อาศัยช่องโหว่ในช่วงนี้หาผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องถือว่าเกิดจากฝีมือพันธมิตรฯ ทั้งนั้น นอกจากนี้มีข่าวจากอังกฤษว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็คิดจะขายสโมสรฟุตบอล แมนเชิสเตอร์ซิตี้ เพราะหากติดคุก คนที่นั่นก็ไม่เอา

นายพิภพ กล่าวย้ำว่า สำหรับพันธมิตรฯ เราไม่ต้องการการเมืองแบบเก่า เปลี่ยนหัวไปเปลี่ยนหัวมา และไม่หวังให้ปพรรคประชาธิปัตย์ไปรวมกับพวกพลังประชาชนที่แตกออกมา เพื่อขึ้นเป็นรัฐบาล ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องไม่ร่วมมือกับการเมืองน้ำเน่าเหล่านี้ ที่มีแต่ผลัดกันหมุนเวียนเปลี่ยนนายกฯ ไม่นายสมัคร ก็นายบรรหาร อย่างนี้

“แบบนี้ถือว่าชะตาฟ้าดินเข้าข้างเรา การเปลี่ยนแปลงการเมืองจะต้องเป้นการปฏิรูปการเมืองใหม่ ไม่เอาการเมืองน้ำเน่าเข้ามา มีการปฏิรูปเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่อาศัย การศึกษา ชนชั้นกลางจะต้องอยู่อย่างปลอดภัย ไม่ใช่พวักพวงกับรัฐบาลใหม่ที่เข้ามา ดังนั้นเราต้องสนับสนุนให้เกิดการเมืองใหม่ขึ้นมา

"ขณะเดียวกันที่ผ่านมาเราได้ทำให้ขบวนการตุลาการภิวัตน์ สามารถเดินหน้าได้ จึงถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราต้องสู้กับการคอร์รัปชั่น โดยมีให้ตุลาการที่สามารถตรวจสอบนักการเมืองโกงกินได้”

นายพิภพ กล่าวถึงการแต่งตั้งนายวีระพงษ์ รามางกูร เป็นประธานที่ปรึกษานายกฯ ว่า เคยเตือนนายสมัครแล้วอย่าไว้ใจ เพราะการที่ให้นายวีระพงษ์เข้ามาเป็นที่ปรึกษาอาจเกิดผลประโยชน์ซับซ้อนแอบแฝง เพราะว่าคนๆ นี้เป็นประธานที่ปรึกษาบริษัทพลังงานไฟฟ้า หลายแห่ง รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ และหลายบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ อีกทั้งคนๆ นี้ไม่เคยแยกถูกแยกผิดได้

“ดร.โกร่ง อยู่เหนือกฏหมาย เอาตัวเปล่าเข้ามาร่วมบริหาร ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบทรัพย์สิน ดังนั้นขอเตือนว่า สิ่งที่ตามมาเมื่อพบว่ามีความผิด รัฐมนตรีทั้งคณะจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแทน โดยเฉพาะนายกฯ สมัคร ขณะเดียวกันก็ขอเตือนพี่น้องข้าราชการ อย่าได้ไปร่วมวงไพบูลย์กับคนเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นจะเหมือนคดีกล้ายางซึ่ง มีกลุ่มคนผิด 7 กลุ่ม ไล่ตั้งแต่อธิบดี รองอธิบดี ผู้บริหารเอกชน และเนวิน”

นายพิภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเตือนนายสมัคร เมื่อเอาคนอย่าง ดร.โกร่งเข้ามาดูแลเศรษฐกิจ และไม่เอาเข้ามาตามกฏหมาย นายสมัครจะมีปัญหาติดคุกในอนาคต เพราะถ้าข้อมูลการประชุมลับของรัฐบาล ตกไปอยู่ในมือของที่ปรึกษา ไปต่อถึงเอกชน ถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กัน ขณะเดียวกัน ดร.โกร่งก็มีความผิดถ้าข้อมูลเหล่านี้ตกไปอยู่ที่บริษัทเอกชนเหล่านั้น ซึ่งเรื่องนี้จะนำไปสู่การไต่สวนในอนาคตแน่นอน และพันธมิตรฯ ขอยืนยันว่าจะติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิด เพื่อเอาคนไม่ดีมาไต่สวน มาติดคุกแน่นอน

ขณะเดียวกัน แกนนำพันธมิตร กล่าวถึงเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องว่า ในระหว่างการต่อสู้เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็ละเลยเพราะมัวแต่ไปสนใจกับมาตราสำคัญอื่นๆ แต่ความจริงรัฐบาลยังไม่ยอมถอน เพราะมีความหวังว่าจะแก้ กม.ให้ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นผิดได้ ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจึงสู้ไม่ถอย ส่วนที่นายสมัครอ้างเรากลัวการแก้ไข มาตรา 63 เรืองนี้เราไม่กล้ว เพราะถ้าไปแก้ไขมาตรา 63 ก็จะขัดหลักสิทธิมนุษยธรรมสากลอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม พบว่าระหว่างนี้รัฐบาลกำลังแก้กฏหมายลูก หรือกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะกฏหมายคลื่นความถี่วิทยุโทรทัศน์ โทรคมนาคม โดยให้มีองค์กรหนึ่งของรัฐมากำกับดูแล แทนองค์กรอิสระ เป็นเรื่องที่เราให้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะว่าการที่รัฐบาลมาควบคุมโทรทัศน์ วิทยุทำให้พี่น้องในภาคเหนือ อีสานไม่รู้ความจริง เหมือนพวกเรา ซึ่งตอนนี้รัฐบาลจะออกกฏหมาย พ.ร.บ.ประกอบ รธน.มาตรา 41 เป็นเรื่องที่ขอเตือนพี่น้องให้ระวังการออก กม.ประกอบผิดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

“วันนี้ถ้าเรายับยั้ง พ.ร.บ.นี้ไม่ได้ รัฐจะทำให้ภาคประชาชนไม่มีส่วนร่วม และยกเลิกการสรรหาองค์กรอิสระแบบถูกต้อง และให้รัฐบาลเป็นผู้คัดเลือก ซึ่งองค์กรนี้ก็จะมีแต่คนของนักการเมืองเข้ามาช่วยเอื้อผลประโยชน์ ทุกอย่างจะล้มเหลว การเมืองจะกลับไปสู่แบบเดิม และพวกนี้จะไปทำลายกฏหมาย หมวดสิทธิเสรีภาพหมดเลย ทุกฉบับ นี่คือเล่ห์เหลี่ยมของรัฐบาลที่ซับซ้อนไม่น่าไว้วางใจ เรายอมไม่ได้”นายพิภพกล่าว