“สมเกียรติ” ชี้เส้นทางการเมือง “ทักษิณ” ถึงจุดจบแล้ว หลังแก๊งออฟโฟร์ ผงาดขึ้นบดบังรัศมี แนะจับตาพรรค พปช.แพแตก เชื่อสัปดาห์หน้าจะมีเหตุระทึก หลังขั้ว ส.ส.เหนือ ส่งสัญญาณตั้งพรรคใหม่ ขณะที่แกนนำ ส.ส.อีสานเตรียมยกเข่งเร่ขาย พร้อมทายอนาคต “สมัคร” ถูกสมาชิกพรรคลอยแพ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 3 ส.ค. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงเส้นทางการเมืองของ พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอาการแพแตกของพรรคพลังประชาชน (พปช.) ในสัปดาห์หน้า เชื่อว่าจะมีเหตุระทึกเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหากมองจากการฟื้นตัวของ ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา และกลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือ ซึ่งเคยเป็นฐานกำลังหลักของทักษิณ กำลังจะตั้งพรรคใหม่ โดยคาดว่าพรรค พปช.ได้ปล่อยให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้เดินไปตามลำพังแล้ว เพราะตอนนี้คาดกันว่าทางไปสู่การยุบพรรคเริ่มขึ้นแล้ว
นายสมเกียรติ ระบุว่า ส.ส.กลุ่มอีสาน กำลังวางแผนลอยแพนายสมัคร โดยเปิดโปงสตรีวัย 38 ปี มีการฟอกเงินผ่านเต้นท์รถมือ 2 และหากเรื่องนี้ โดนพวกเดียวกันแฉออกมา ก็จะได้เห็นตัวเงินตัวทองสมสู่กันคึกคักอีกครั้ง เพราะคนสำคัญที่คุมชะตาพรรคตอนนี้ คือ มาเฟียเขากระโดง แห่งบุรีรัมย์ เพราะล่าสุด เป็ดเหลิมก็ออกมาสารภาพแล้ว ซึ่งเชื่อว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายใน และการยุบพรรค คงจะได้เห็นการแตกกระจัดกระจายในเร็วๆ นี้
“ส.ส.กลุ่มอีสาน ตอนนี้ แบ่งออกเป็น 2 ขั้ว โดยกลุ่มแรก นายใหญ่เคยซื้อยกเข่งเป็นพรรคที่ 2 มาจากบิ๊กจิ๋ว ส่วนอีกกลุ่มซื้อมาตอนแรกจากนายพินิจ จารุสมบัติ และประจวบ ไชยสาส์น ส่งผลให้พรรคไทยรักไทยตอนนั้น มีคะแนนเสียงเข้ามาสูงถึง 377 เสียง เมื่อปี 2548 จนกล้าที่จะประกาศว่า พรรคนี้จะอยู่ยาวถึง 20 ปี พร้อมกับแถลงนโยบายประชานิยมออกมา แต่ก็อยู่ได้เพียง 2 ปี ก็กลับพ่ายแพ้กับปรากฎการณ์สนธิในปี 2549 ซึ่งในส่วนของ ส.ส.กลุ่มอีสานกลุ่มนี้ ผมเชื่อว่าจะเห็นมีการเอาใส่กระสอบยกไปเร่ขายในเร็วๆ นี้”
นายสมเกียรติ เชื่อว่า ตอนนี้พลังของทักษิณเริ่มอ่อนลง และกำลังเดินทางไปสู่จุดจบ พร้อมกับรัฐบาลหุ่นเชิดของเขา พร้อมประเมินว่า พล.ต.ท.ทักษิณ คิดอยู่เรื่องเดียว คือ การลี้ภัย และกำลังโหยหากำนันเป๊าะ เส้นทางหนีแม้จะลำบากเหมือนสมัย ร.ต.อ.เฉลิม หลบหนี รสช.ก็คงจะไป เขาคงต้องรับกรรมเพราะมีทางเลือกไม่มาก เวรย่อมระงับด้วยการติดคุก หรือตายไปตามกรรม ขณะที่กลุ่มใหม่ที่ผงาดขึ้นมาเป็นผู้ทรงอิทธิพล 4 คน ได้แก่ “นายกฯ หอกหัก”, “หมอเลี้ยบ”, “นายยี้ห้อย” และนายธีระพล เลขาฯ นายสมัคร ตอนนี้ได้บดบังรัศมีอิทธิพลของทักษิณไปหมดแล้ว
นายสมเกียรติ กล่าวถึงกรณีของ ดร.โกร่งกร่าง คางคก ที่ออกมากล่าวโจมตีการชุมนุมของพันธมิตรว่า ทำให้เศรษฐกิจพัง และกล่าวว่า การมีรัฐบาลเลวๆ ดีกว่าไม่มีรัฐบาลนั้น ซึ่งวันนี้มีคนพูดกันไปเยอะแล้ว แต่ตนเองจะขอเอาไว้พูดวันหลังเรื่องกรณีการโกง 717 ล้านบาท ในบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด โดยขอฝากเรื่องนี้เอาไว้ก่อน