เอเจนซี-ธนาคารประชาชนจีนหรือธนาคารกลางจีน เผยการสำรวจในภาคครัวเรือน ภาคธนาคาร และภาคบริษัท ระบุยอดสั่งซื้อในภาคส่งออกของประเทศตกต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี และแผนการซื้อบ้านก็ซบเซาอย่างเป็นประวัติการณ์ การสำรวจยังชี้ว่ากระแสวิตกเงินเฟ้อผ่อนเพลาลง
ขณะนี้เงินเฟ้อจีนในเดือนสิงหาคม อ่อนตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวการส่งออกเชื่องช้าลง โดยดัชนียอดสั่งซื้อสินค้าส่งออก ลดวูบต่ำสุดนับจากเดือนกรกฎาคม ปี 2005 ซึ่งเป็นปีที่จีนปรับค่าเงินหยวน ขณะที่การขยายตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ก็น้อยสุดในรอบ 6 ปี
ผลการสำรวจข้างต้นให้น้ำหนักกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก และยิ่งขยายแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
“ธนาคารกลางอาจต้องปรับนโยบายการเงินอีก เพื่อช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในสภาพที่การส่งออกดูเฉาขนาดนี้” หวัง เฉียน เศรษฐกรประจำเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ในฮ่องกงชี้
ก่อนหน้าในวันที่ 15 ก.ย. ธนาคารกลางมังกรได้ปรับลดดอกเบี้ยปล่อยกู้ ซึ่งนับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 6 ปี เพื่อรับมือสถานการณ์วุ่นวายในตลาดสินเชื่อที่กำลังซัดกระหน่ำเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่อัตราเติบโตเศรษฐกิจจีน ก็ชะลอตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่ โดยไตรมาสสองของปีนี้ จีดีพีจีน ลงมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 10.1
การวิจัยระบุ ขณะนี้ประชาชนกำลังแห่หนีตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น หันมาเทเงินเข้าสมุดบัญชีเงินฝากกันเพียบ โดยแผนการซื้อบ้านของกลุ่มครัวเรือนตกต่ำสุดนับตั้งแต่มีการศึกษาเรื่องนี้ในปี 1999
หุ้น, เงินฝากในธนาคาร
มีผู้ตอบการวิจัยเพียงร้อยละ 8.2 ที่บอกว่าการลงทุนในหุ้นน่าสนใจ หลายคนเล็งเทเงินเข้าไปออมไว้ในธนาคารมากกว่า ในสถานการณ์ที่เบนชมาร์ค CSI 300 Index ปีนี้ ได้ตกลงร้อยละ 59 หลังจากที่ทะยานสูงถึงมากกว่าร้อยละ 160 ในปี 2007
นอกจากลดดอกเบี้ยแล้ว ในเดือนกันยายนนี้ ธนาคารกลางยังได้ลดอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มธนาคารรายเล็ก เพื่อหนุนการปล่อยสินเชื่อ
ขณะนี้กลุ่มนายธนาคารเชื่อมั่นมากขึ้น และไม่ค่อยวิตกเรื่องเศรษฐกิจร้อนเท่าไหร่นัก เกือบครึ่งยังคาดถึงการปรนผ่อนนโยบายการเงินในไตรมาสสี่ของปีนี้
อนึ่ง การสำรวจที่ธนาคารกลางเผยแพร่ในวันอังคาร (23 ก.ย.) ชิ้นนี้ ได้ทำแบบสอบถามครัวเรือนในเมือง 20,000 แห่งในเดือนสิงหาคม, และได้ทำการสำรวจภาคบริษัท 5,000 แห่ง, ภาคธนาคาร 2,900 แห่ง โดยธนาคารกลางไม่ได้ระบุว่าทำการสำรวจภาคบริษัทและภาคธนาคารเมื่อไหร่
จีนเตรียมเพิ่มอัตราคืนภาษี อุดหนุนส่งออก
ในวันอังคาร(23 ก.ย.) มีรายงานอ้างแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับแผนข้อเสนออุดหนุนภาคส่งออก เผยว่าจีนกำลังพิจารณาปรับเพิ่มอัตราคืนภาษีแก่ผู้ส่งออกในกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชั้นสูง เครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องจักรกล โดยจะปรับเพิ่มภาษีดังกล่าวระหว่างร้อยละ 4 ถึงร้อยละ 8
กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับการอุดหนุนนี้ ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องจักรกลซึ่งเป็นสินค้ามูลค่าเพิ่ม อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และดิจิตอล
การเพิ่มอัตราคืนภาษีนี้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ส่งออกในสถานการณ์ที่ความต้องการในตลาดซบเซา ก่อนหน้า จีนได้ทุ่มสุดฤทธิ์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยภาคส่งออก โดยได้ลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมครั้งแรกในรอบ 6 ปี ทั้งได้ลดสัดส่วนเงินสดสำรองที่กลุ่มธนาคารต้องฝากไว้ที่ธนาคารกลางแก่กลุ่มธนาคารรายเล็ก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสฯ(25 ก.ย.)นี้.
ขณะนี้เงินเฟ้อจีนในเดือนสิงหาคม อ่อนตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวการส่งออกเชื่องช้าลง โดยดัชนียอดสั่งซื้อสินค้าส่งออก ลดวูบต่ำสุดนับจากเดือนกรกฎาคม ปี 2005 ซึ่งเป็นปีที่จีนปรับค่าเงินหยวน ขณะที่การขยายตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ก็น้อยสุดในรอบ 6 ปี
ผลการสำรวจข้างต้นให้น้ำหนักกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก และยิ่งขยายแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
“ธนาคารกลางอาจต้องปรับนโยบายการเงินอีก เพื่อช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในสภาพที่การส่งออกดูเฉาขนาดนี้” หวัง เฉียน เศรษฐกรประจำเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ในฮ่องกงชี้
ก่อนหน้าในวันที่ 15 ก.ย. ธนาคารกลางมังกรได้ปรับลดดอกเบี้ยปล่อยกู้ ซึ่งนับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 6 ปี เพื่อรับมือสถานการณ์วุ่นวายในตลาดสินเชื่อที่กำลังซัดกระหน่ำเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่อัตราเติบโตเศรษฐกิจจีน ก็ชะลอตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่ โดยไตรมาสสองของปีนี้ จีดีพีจีน ลงมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 10.1
การวิจัยระบุ ขณะนี้ประชาชนกำลังแห่หนีตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น หันมาเทเงินเข้าสมุดบัญชีเงินฝากกันเพียบ โดยแผนการซื้อบ้านของกลุ่มครัวเรือนตกต่ำสุดนับตั้งแต่มีการศึกษาเรื่องนี้ในปี 1999
หุ้น, เงินฝากในธนาคาร
มีผู้ตอบการวิจัยเพียงร้อยละ 8.2 ที่บอกว่าการลงทุนในหุ้นน่าสนใจ หลายคนเล็งเทเงินเข้าไปออมไว้ในธนาคารมากกว่า ในสถานการณ์ที่เบนชมาร์ค CSI 300 Index ปีนี้ ได้ตกลงร้อยละ 59 หลังจากที่ทะยานสูงถึงมากกว่าร้อยละ 160 ในปี 2007
นอกจากลดดอกเบี้ยแล้ว ในเดือนกันยายนนี้ ธนาคารกลางยังได้ลดอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มธนาคารรายเล็ก เพื่อหนุนการปล่อยสินเชื่อ
ขณะนี้กลุ่มนายธนาคารเชื่อมั่นมากขึ้น และไม่ค่อยวิตกเรื่องเศรษฐกิจร้อนเท่าไหร่นัก เกือบครึ่งยังคาดถึงการปรนผ่อนนโยบายการเงินในไตรมาสสี่ของปีนี้
อนึ่ง การสำรวจที่ธนาคารกลางเผยแพร่ในวันอังคาร (23 ก.ย.) ชิ้นนี้ ได้ทำแบบสอบถามครัวเรือนในเมือง 20,000 แห่งในเดือนสิงหาคม, และได้ทำการสำรวจภาคบริษัท 5,000 แห่ง, ภาคธนาคาร 2,900 แห่ง โดยธนาคารกลางไม่ได้ระบุว่าทำการสำรวจภาคบริษัทและภาคธนาคารเมื่อไหร่
จีนเตรียมเพิ่มอัตราคืนภาษี อุดหนุนส่งออก
ในวันอังคาร(23 ก.ย.) มีรายงานอ้างแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับแผนข้อเสนออุดหนุนภาคส่งออก เผยว่าจีนกำลังพิจารณาปรับเพิ่มอัตราคืนภาษีแก่ผู้ส่งออกในกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชั้นสูง เครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องจักรกล โดยจะปรับเพิ่มภาษีดังกล่าวระหว่างร้อยละ 4 ถึงร้อยละ 8
กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับการอุดหนุนนี้ ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องจักรกลซึ่งเป็นสินค้ามูลค่าเพิ่ม อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และดิจิตอล
การเพิ่มอัตราคืนภาษีนี้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ส่งออกในสถานการณ์ที่ความต้องการในตลาดซบเซา ก่อนหน้า จีนได้ทุ่มสุดฤทธิ์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยภาคส่งออก โดยได้ลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมครั้งแรกในรอบ 6 ปี ทั้งได้ลดสัดส่วนเงินสดสำรองที่กลุ่มธนาคารต้องฝากไว้ที่ธนาคารกลางแก่กลุ่มธนาคารรายเล็ก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสฯ(25 ก.ย.)นี้.