จีนเล็งประมูลพ.ท.สนามรังนก หาทุนสนับสนุนหลังโอลิมปิก

เอเยนซี – จีนเตรียมเปิดประมูลพื้นที่โฆษณาบนสนามกีฬาแห่งชาติ หรือ “รังนก” ชี้ผู้ชนะสามารถติดตราสินค้าขนาดเขื่องเหนือรังนกได้นานถึง 30 ปี ขณะที่ศูนย์กีฬาทางน้ำ “ลูกบาศก์น้ำ” จ่อคิวขายสิทธิ์หุ้นส่วนภายในสนามด้วย

เบ็น สเตอร์เนอร์ ซีอีโอจาก Leverage Agency ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ให้กับทางการจีนและบรรษัทข้ามชาติเผยว่า ขณะนี้มีบรรษัทข้ามชาติ 6 รายกำยังแย่งสิทธิ์ในพื้นที่โฆษณาขนาดมหึมาแห่งนี้ ซึ่งมีงบประมาณการสร้างถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ และนับว่าขณะนี้สนามรังนกเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก อย่างไรก็ตาม เบ็นไม่ได้เปิดเผยถึงรายชื่อบรรษัททั้ง 6 แห่งแต่อย่างใด

ด้านผู้สนับสนุนโอลิมปิกอย่างเป็นทางการที่จะต้องหยุดบทบาทลงเมื่อโอลิมปิกปิดฉากเช่น เลอโวโน ยังไม่มีการแถลงต่อกรณีดังกล่าว ขณะที่อดิดาสยักษ์อุปกรณ์กีฬาจากเยอรมนีระบุว่าที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยใช้ยุทธศาสตร์แขวนโลโก้บนสนามกีฬาใดๆมาก่อน ส่วนแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมชื่อดังเช่นโคคา-โคล่าปฏิเสธไม่ขอกล่าวถึงยุทธศาสตร์ส่งเสริมการขายในอนาคต

สำหรับผู้สนใจลงทุนโฆษณาในสนามกีฬารังนก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งปักกิ่ง เกมส์นั้น เรียกได้ว่าเป็นช่วงโอกาสที่ดีของการพัฒนาและลงทุนในอุตสาหกรรมกีฬาบนแผ่นดินจีน ขณะเดียวกันนาย จาง เหิงลี่รองผู้จัดการบริษัทสนามกีฬาแห่งชาติจีนบอกว่า “ปัจจุบันผู้บริโภคในจีนมีกำลังซื้อมากขึ้น ยามว่างมักจะจับจ่ายสินค้าประเภทวัฒนธรรมและกีฬาอยู่ไม่น้อย”

ปัจจุบันสถานที่สาธารณะชื่อดังในจีนมักจะพบเห็นเพียงป้ายโฆษณาของธุรกิจประเภทประกันภัยเท่านั้น ทว่าการประชาสัมพันธ์ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ในจีนกลับมีข้อจำกัดทางวัฒนธรรมอาทิ สตาร์บัคส์ กาแฟสัญชาติอเมริกันต้องปิดสาขาพระราชวังต้องห้าม(กู้กง) เนื่องจากเจอกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรงของกลุ่มบล็อกเกอร์ชาวจีน ที่รุมประณามว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์และเหยียบย่ำวัฒนธรรมชาวจีน

อย่างไรก็ดี รองผู้จัดการฯจาง ระบุว่าแผนการขายพื้นที่โฆษณาในสนามรังนกนั้นเป็นโครงการที่ได้วางไว้ตั้งแต่ตอนต้นเมื่อเริ่มสร้างสัญลักษณ์แห่งปักกิ่ง เกมส์ อีกทั้งอ้างถึงผลสำรวจของบริษัทนีลเส็นที่ได้สำรวจความคิดเห็นของชาวจีน ใน 5 เมืองใหญ่พบว่าร้อยละ 70 บอกรับได้กับแผนการดังกล่าว

สนามกีฬาแห่งชาติหรือที่รู้จักในนาม “รังนก” เป็นสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ภายใต้การบริหารและจัดสร้างระหว่างรัฐและเอกชน โดยซิติก กรุ๊ปถือกรรมสิทธิ์ที่ 42 % มีอำนาจการบริหารสนามแห่งนี้นาน 30 ปี ซึ่งกรรมสิทธิ์ที่เหลืออีก 58 % เป็นของบริษัทจัดการทรัพย์สินปักกิ่ง(เอสเอเอ็ม) ซึ่งเป็นวิสาหกิจของรัฐ

ด้านศูนย์กีฬาทางน้ำ “ลูกบาศก์ก์น้ำ” ได้เตรียมการรื้อถอนที่นั่งชมการแข่งขันภายในสนามออก เพื่อพลิกโฉมเป็นสวนน้ำ และติดตั้งเคาร์เตอร์ต่างๆแทนที่

ทั้งนี้ การคัดเลือกบรรษัทที่จะลงทุนโฆษณาในพื้นที่ด้านหน้าสนามรังนก จะถูกพิจารณาโดยทางการปักกิ่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพื่อเฟ้นหาบริษัทที่มีภาพลักษณ์ยอดเยี่ยมในประเทศจีน