ผู้จัดการออนไลน์/เอเจนซี--เด็กหญิงหลิน เมี่ยวเข่อวัย 9 ขวบ ในชุดแดงสดใส ขับขาน “บทเพลงแผ่นดินแห่งบรรพชน” ด้วยเสียงกังวานใส โปรยรอยยิ้มสว่างไสวในพิธีเปิดโอลิมปิก เกมส์อลังการกลางกรุงปักกิ่ง ณ วันที่ 8 สิงหาคม สร้างความประทับใจแก่บรรดาผู้ชมในสนามกีฬารังนก 90,000 คน บ้างถึงกับน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้ง นอกจากนี้ ยังมีผู้ชมผ่านสื่อทั่วโลก อีก 4,000 ล้านคน ที่ชื่นชมภาพของหนูน้อยในชุดแดง ดั่ง “เทพธิดาเสียงทอง”
ทว่าอีก 4 วัน ต่อมา ก็มีการเปิดเผยว่าเสียงเพลงจากเทพธิดาชุดแดงนั้น มิใช่เสียงจริงของเธอ หากเป็นเสียงของเด็กหญิงอีกคนชื่อ หยาง เพ่ยอี้ เธอถูกปฏิเสธขึ้นเวทีพิธีเปิดโอลิมปิก ขับขานบทเพลงอันทรงความหมายสูงส่ง ด้วยเพราะรูปลักษณ์ที่สู้เด็กหญิงอีกคนไม่ได้
เฉิน ฉีกัง ผู้กำกับเสียงในการแสดงของพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกได้ออกมาเผยความจริงกับเป่ยจิง บรอดคาสติ้ง สเตชั่นในวันอังคาร (12 ส.ค.) ว่าเด็กหญิง "หลิน เมี่ยวเข่อ" ที่ปรากฏตัวบนเวทีและร้องเพลงร่วมกับเด็กคนอื่นๆอีก 56 คนนั้น แท้จริงแล้วเธอไม่ใช่เจ้าของเสียงเพลงที่แท้จริง โดยเจ้าของเสียงจริงคือเด็กหญิงวัย 7 ขวบ นาม หยาง เพ่ยอี้
มันเป็น “ผลประโยชน์แห่งชาติ” เฉินบอกกับพิธีกรรายงานโทรทัศน์ “ภาพของเด็กๆที่ปรากฏบนหน้ากล้องนั้น บ้างมีตำหนิด้านภาพลักษณ์ ความรู้สึกภายใน และการแสดงออก สำหรับหลิน เมี่ยวเข่อนั้น ภาพของเธอที่ปรากฏออกมาเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ในด้านเสียงนั้น กรรมการในทีมของเรา เห็นพ้องกันว่าเสียงของหยางนั้น โดดเด่น ไร้ที่ติ”
และผู้ตัดสินชี้ขาดเป็นเสียงสุดท้ายก็คือ พรรคคอมมิวนิสต์ “ตอนที่เราจัดการซ้อมใหญ่บนเวทีพิธีเปิดจริง มีคณะกรรมการจากหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะความเห็นจากกรรมการกรมการเมือง (โบลิตปูโร) ที่หันมาพูดกับเราหลังฟังเสียงของหนูน้อยหลิน “ต้องเปลี่ยน” ดังนั้น เราจึงเปลี่ยน”
" เราสลับเปลี่ยนนำเด็กที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่น่าประทับใจแก่ผู้ชม และซ่อนตัวจริงของเจ้าของเสียงเพื่อความสมบูรณ์แบบ เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติ อย่างก็ตาม ทั้งสองก็เป็น “ฮีโร่” ของประเทศ" เฉินกล่าว
หลิน ซี นักแต่งเพลงชื่อดังแห่งฮ่องกง ให้ความเห็นว่า จริงๆแล้ว “ลิปซิงค์” นั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร แต่เขาไม่พอใจและโกรธต่อคำอธิบายของเฉิน ฉีกัง สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของหลิน เมี่ยวเข่อและหยาง เพ่ยอี้นั้น ก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันมากมาย และหากผลประโยชน์ของชาติตั้งอยู่บนพื้นฐานของหน้าตาเด็กสองคนนี้ ก็นับเป็นผลประโยชน์ที่ง่อนแง่นมากมาก
“ความสวยงามและอัปลักษณ์ไม่ได้มีมาตรฐานเดียว ไม่ว่าเด็กผู้หญิงคนไหนที่ยิ้มออกมาอย่างบริสุทธิ์จริงใจ ก็สวยงามทั้งนั้น” นักแต่งเพลงแห่งฮ่องกงกล่าวความเห็น
“มันเป็นเรื่องน่าละอาย” เจเรมี บาร์ม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนชาวออสเตรเลียน ซึ่งทำงานอยู่ในปักกิ่ง “หลิน เมี่ยวเข่อจะต้องคิดว่าเป็นการแสดงของเธอเอง ส่วนเด็กหญิงที่ถูกปฏิเสธ ก็ได้เห็นสื่อพากันยกย่องเด็กอีกคนที่สวมรอยเสียงของเธอ ทั้งสองต่างก็รู้สึกเจ็บปวดและถูกละเมิด”
ด้านหลิน ฮุ่ยพ่อของหลิน เมี่ยวเข่อซึ่งเป็นช่างภาพของหนังสือพิมพ์ “ฝ่าจื้อหวั่นเป้า/Legal Evening News” บอกว่าหนูน้อยหลินรู้ข่าวนี้ “เมื่อผมบอกเธอว่า นั่นไม่ใช่เสียงของเธอ เธอก็สูดลมหายใจหนักๆ และก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ตอนแรก ผมก็เป็นห่วงความรู้สึกของเธอ แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกโล่งใจ เธอเป็นเด็กหญิงที่สงบ อดทน และกล้าหาญ”
แม้หยาง เพ่ยอี้บอกกับผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง หรือCCTV ว่าเธอไม่รู้สึกเสียใจเลยต่อเรื่องที่ไม่ได้รับเลือกขึ้นเวที การที่เสียงของเธอก้องกังวานในพิธีเปิดโอลิมปิก เธอก็พอใจแล้ว
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตจำนวนมากก็วิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ โดยเฉพาะ “ลิปซิงค์ก็แย่อยู่แล้ว การนำเด็กมาลิปซิงค์ยิ่งเป็นเรื่องสุดทนทาน”
“กรุณาเหลือความบริสุทธิ์ชิ้นสุดท้ายนี้ ไว้กับเด็กๆด้วย” ...ฯลฯ
แต่ก็มีบางกระแสเห็นด้วยกับวิธีคิดของเฉิน ฉีกัง ที่ยกย่องทั้งหลิน เมี่ยวเข่อและหยาง เพ่ยอี้ เป็น “ฮีโร่” ด้วยกันทั้งคู่ ทั้งสองเข้าคู่กันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้ชม 4,000 ล้านคน ประทับใจในพิธีเปิดนี้
หลี่ ตงหมินผู้เชี่ยวชาญหน่วยวิจัยสังกัดสถาบันศึกษาด้านสังคมศาสตร์ของจีน วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างแรง ปรากฎการณ์ปลอมแปลงในพิธีเปิดที่ยิ่งใหญ่นี้ สะท้อนอารมณ์หุนหันพลันแล่นของสังคม จิตใจที่กระหายความสำเร็จและผลประโยชน์เฉพาะหน้า สนใจแต่หน้าตาภายนอกไม่สนใจเนื้อหาภายใน ไม่ต่างอะไรกับเหตุการณ์เมื่อต้นปี ตั้งแต่วิกฤตพายุหิมะ ถึงแผ่นดินไหวเวิ่นชวน มณฑลเสฉวน บรรดาผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นต่างเอาแต่เล่นละคร หน้าไหว้หลังหลอก อย่างเช่นพวกที่เอาวีดีโอมาถ่ายบันทึกภาพตอนที่ตัวเองบริจาคเงิน จากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย หากแนวโน้มดังกล่าว ดำเนินต่อไป ก็จะเป็นอันตรายมาก จะสร้างเสียหายแก่ประเทศชาติ
วันเดียวกัน หวัง เหวย รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกปักกิ่ง(บีโอซีโอจี) ก็ได้ออกโรงเปิดเผยเองว่า ภาพดอกไม้ไฟในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิก ที่ถ่ายทอดสดทางสื่อนั้น บางส่วนเป็นภาพตัดต่อที่บันทึกไว้ก่อนหน้า เนื่องจากสภาพอากาศในคืนวันพิธีเปิดนั้น ไม่เอื้ออำนวยในการถ่ายภาพ เต็มไปด้วยหมอกควันหนาแน่น
“แต่การนำเด็กคนหนึ่งมาเป็นหน้ากากของเด็กอีกคนนั้น เป็นเรื่องที่มากเกินไป” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าว
“ทำไม ถึงกังวลมากนักเกี่ยวกับภาพที่ปรากฏภายนอก? เด็ก 7 ขวบทุกคน ก็เป็นเทพธิดาเทพบุตรทั้งนั้น” อีกเสียงว่า.