รอยเตอร์ - กรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับคณะรัฐมนตรีได้ประชุมหารือกันเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้มีการกระตุ้นการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นไปอย่างมั่นคง และเตรียมที่จะใช้กลวิธีทางเศรษฐกิจและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะหาทางดันราคาสินค้าให้กลับไปอยู่บนราคามาตรฐาน
แม้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางการจีนจะประกาศที่จะผลักดันตลาดหลักทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสัปดาห์ที่ดัชนีหุ้นดิ่งเหวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ปี 1996 เป็นต้นมา ทำให้หลายฝ่ายคาดเดาว่าทางการจำเป็นจะต้องเข้ามาช่วยเหลือตลาดทุน
ดัชนีตลาดเซี่ยงไฮ้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตกลงไป 3% จนกลายเป็นดัชนีที่ต่ำที่สุดในรอบ 15 เดือน โดยทั้งสัปดาห์ได้ดัชนีได้ร่วงลงมามากถึง 13.84%
ประธานาธิบดีจีนหู จิ่นเทากับนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าได้เปิดเผยว่าจะไม่ตัดสินใจผ่อนคลายการควบคุมเงินเฟ้ออย่างเข้มงวดโดยเด็ดขาด โดยรายงานข่าวได้ระบุว่า ทางการจีนยังจะใช้ ทุกวิถีทางในการควบคุมราคาสินค้า ซึ่งเป็นคำยืนยันที่หนักแน่นที่สุดตั้งแต่มีการควบคุมการเงินอย่างเข้มงวดในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา
“พวกเราจะยกระดับการควบคุมทางการเงิน ผลักดันให้ตลาดทุนพัฒนาไปอย่างเข้มแข็งมากขึ้น รับประกันเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อป้องกันวิกฤตการเงินรอบใหม่” เจ้าหน้าที่ระดับสูงทางการท่านหนึ่งกล่าว
“เศรษฐกิจจีนในขณะนี้กำลังเผชิญหน้ากับสภาพที่ซับซ้อนและมีความผันผวนอย่างยิ่ง” เจ้าหน้าที่คนเดิมระบุ
ด้านสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนได้รายงานว่า การประชุมดังกล่าวได้เรียกร้องให้มีการจับตาและควบคุมราคาของธัญพืช น้ำมันพืช เนื้อ รวมไปถึงสิ่งค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและสินค้าที่ขาดแคลน และเน้นย้ำว่าจะมีการหาทางเพื่อรักษาความมั่นคงของตลาดอสังหาริมทรัพย์และป้องกันความเสี่ยงให้กับตลาดทุน
ในช่วงที่ผ่านมา ผู้นำจีนได้พยายามเน้นย้ำว่าการต่อสู้กับเงินเฟ้อ คือปัจจัยสำคัญในการทำศึกทางเศรษฐกิจในช่วงนี้ โดยได้ออกนโยบายชุดต่างๆออกมาไม่ว่าจะเป็นการควบคุมสินเชื่อธนาคาร เพื่อควบคุมต้นทุนสินค้าประเภทอาหารและลดแรงกดดันเงินเฟ้อ แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะถูกนักเศรษฐศาสตร์ไม่น้อยกล่าวหาว่าเป็นการบิดเบือนกลไกของตลาด
ทั้งนี้ ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นตัวกำหนดเงินเฟ้อในเดือนพ.ค.ของจีนอยู่ที่ 7.7% ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 0.8% ในขณะที่ดัชนีราคาสินค้าผู้ผลิต (พีพีไอ) อยู่ที่ 8.2% สูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา 0.1% และเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10