เอเจนซี/ผู้จัดการออนไลน์--ในยุคที่ไร้ศาสนา ซึ่งผู้นำคอมมิวนิสต์ได้ตีตราว่าเป็นซากเดนจากยุคฮ่องเต้ ทว่า ในความเชื่อโลกตะวันออก เรื่องจิตใจจิตวิญญาณนับเป็นมิติที่จำเป็นของชีวิต ที่ยังความสุขแก่ชีวิตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทำให้มนุษย์อาจบรรสานความกลมกลืนสู่ธรรมชาติ ฉะนั้น จึงมิใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะในยามทุกข์ยากแสนสาหัสของมนุษย์ ที่ไร้ที่พึ่งปลอบประโลม คลายความคับข้องใจ จะมองหาคำตอบจากฟ้า ดวงดาว และสิ่งเหนือธรรมชาติ
ปี 2008 ซึ่งน่าจะเป็นปีที่ดีสดใสคึกคักเต็มไปด้วยความสุขสมหวังสำหรับจีน ด้วยเป็นปีที่ปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโลกโอลิมปิก อันเป็นสัญลักษณ์ของศักดาอำนาจ แต่ประชาชนจีนก็ประสบหายนะภัย ศึกปะทะวุ่นวายกันบอบช้ำนองเลือด นับจากรุ่งอรุณแห่งปี พายุหิมะได้ซัดกระหน่ำชาวจีนครั้งประวัติการณ์ ไม่ทันไรในเดือนมีนาคม ก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดในลาซา อุบัติเหตุรถไฟตกรางครั้งร้ายแรงในรอบ 10 ปีในซันตงเมื่อเดือนเมษายน ไซโคลนถล่มเพื่อนบ้านในพม่า ตายไปนับแสน จนถึงแผ่นดินไหวครั้งมหากาฬ ถึง 8 ริกเตอร์ที่เสฉวน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม
ความลี้ลับในตัวเลข
ยามปกติ ก็ยังมีกระแสขอโชคลาภจากฟ้าจากสวรรค์ เพื่อเป็นนิมิต นำโชค ชาวจีนมากมายได้จ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อชิงซื้อป้ายทะเบียนรถยนต์เลขนำโชคในความเชื่อโบราณของจีน คือเลข “8” บ้างก็พยายามหลีกเลี่ยงอาศัยอยู่ชั้นสี่ของอพาร์ทเมนท์ เนื่องจากเลขสี่ ในภาษาจีนกลาง ที่ออกเสียง (ซื่อ) นั้น คล้ายกับเสียงของคำ ที่แปลว่า “ตาย” (สื่อ)
แม้แต่รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนเอง ก็ยังหนีไม่พ้น การพึ่งพาเลขนำโชค โดยกำหนดฤกษ์พิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เพื่อให้ได้ตัวเลขอภิมหาโชคลาภ คือวันที่ 8 เดือน 8 เวลา 8.08 น. “8888”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในยามประสบภัยวิบัติเช่นนี้ ทฤษฎีหลากหลายประดามีเกี่ยวกับหายนะ เริ่มส่งเสียงดัง จนลือหึ่งในโลกไซเบอร์ ชาวเน็ตพากันชี้ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่ง คือวันที่เกิดภัยพิบัติแต่ละครั้งของจีนนั้น ล้วนเป็นตัวเลขที่บวกรวมกันแล้ว ได้ “8” ทั้งสิ้น
วันที่ 12 พฤษภาคม (เดือน5) ซึ่งเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เสฉวนนั้น ก็รวมกันได้ “8” (1+2+5) !
โหรชาวฮ่องกง Raymond Lo ชี้ไปที่วงจรโหราศาสตร์ โดยปี 2008 นี้ เป็นปีหนู ตามปฏิทินจันทรคติจีน ซึ่งถือเป็นปีแห่งความวุ่นวายวิบัติปีหนึ่ง เป็นปีของดินและน้ำ หมายถึงว่า ดินไม่เสถียร และน้ำทรงพลังมาก
พายุหิมะ ที่ซัดกระหน่ำจีนในต้นปี จากวันที่ 25 มกราคม (เดือน 1) ก็รวมได้ เลข “8” (1+2+5)
ในวันที่เกิดแผ่นดินไหว (12 พ.ค.) ก็เป็น “วันชวดไม่ถูกกับมะเมีย” “ในวันที่หนูปะทะกับม้า หมายถึงว่า จะต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น” และมันก็จะเป็นปีที่ท้าทายมากต่อประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ซึ่งทั้งสองเกิดในปี 1942 ซึ่งเป็น “ปีมะเมีย”
ฟ้าพิโรธ
“ นี่เป็นวิธีที่ประชาชนพยายามรับมือกับภัยพิบัติ โดยค้นหานัยะความหมายที่ซ่อนอยู่ในตัวเลข” Gerome Barme อาจารย์สาขาวิชาประวัติศาสตร์จีน แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียชี้
นาย Barme เล่าต่อไปอีกว่า รัฐบาลจีนยังได้พยายามสุดฤทธิ์ ที่จะขัดขวางประชาชนเชื่อในอำนาจฟ้าพิโรธ ไม่พอใจต่อความเป็นไปในแผ่นดิน และลงทัณฑ์แผ่นดิน (มนุษย์) เนื่องจากก่อนหน้ามีกระแสผู้คนนำทฤษฎีนี้ มามองว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวปี 1976 ที่เมืองถังซัน ซึ่งสังหารประชาชนไปถึง 240,000 คนนั้น เป็นลางบอกเหตุก่อนอสัญกรรมของผู้นำเหมา เจ๋อตงวันที่ 9 กันยายน 1976 ดังนั้น จากภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้ รัฐบาลจึงได้ทุ่มเทพลังมหาศาลไปในการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อสร้างภาพลักษณ์รัฐบาลที่เป็นห่วงเป็นใย มีประสิทธิภาพ จริงจัง ต่อการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยวิบัติ
กล่าวถึง “ฟ้า”แล้ว ปราชญ์โบราณแห่งสำนักคิดเต๋า ก็เตือนว่า เมื่อผู้คนสนุกสำราญมากเกินไป ก็จะทำลายหยาง เมื่อผู้คนมีอารมณ์ร้ายโกรธขึ้งเครียดมากเกินไป ก็จะทำลายหยิน เมื่อหยางและหยินบกพร่อง ฤดูกาลทั้งสี่ก็ไม่เวียนมาปรากฏอย่างที่ควรจะเป็น ความร้อน ความหนาวต่างไม่อาจบรรสานกลมกลืน ภาวะอินหยางที่เสียสมดุลไปนี้ ก็จะทำลายระบบพลังในร่างกายมนุษย์ สร้างหายนะแก่ธรรมชาติ
ลางมาสคอต
นอกจากนี้ เซาท์ ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์แห่งฮ่องกง ยังได้เผยกระแสตั้งข้อสังเกตลางบอกเหตุจากมาสคอตโอลิมปิก ตัวการ์ตูน 5 ตัว ที่แทนสัตว์ 4 ชนิดและลูกไฟ เชื่อมโยงกับหายนะที่เกิดในจีน ได้แก่ “อิ๋งอิ๋ง” มาสคอตแอนทิโลปหรือละมั่งทิเบต บ่งชี้ลางจลาจลในทิเบต, “ฮวนฮวน” มาสคอตคบเพลิงโอลิมปิก ลางแห่งความวุ่นวายระหว่างการวิ่งคบเพลิงทั่วโลก, “นีนี” มาสคอตที่ออกแบบโดยใช้ลายนกนางแอ่นบนว่าวปักกิ่ง ก็เป็นลางบอกเหตุรถไฟตกรางครั้งใหญ่ที่มณฑลซันตงซึ่งเป็นแดนเล่นว่าว และ”จิงจิง” มาสคอตแพนด้า ซึ่งส่วนใหญ่พบในเสฉวน ก็เป็นลางบอกเหตุแผ่นดินไหว, ส่วน “เป้ยเป้ย” มาสคอตปลาจะเป็นลางบอกอะไร ยังคงเป็นปริศนา.